เมนู

ทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม กำจัดเชื้อราให้สิ้นซาก

ดูแลบ้านหลังน้ำท่วม

ทำความสะอาดบ้าน กำจัดเชื้อรา ให้สิ้นซาก

+-+ ณ ตอนนี้ หลายๆ บ้าน หลายๆ เขตพื้นที่ สถานการณ์ก็ดีขึ้นมากแล้ว หลายๆ ท่าน คงได้กลับบ้านซะที เหนื่อยกันมั้ยครับ สู้ๆ แต่หลายๆ พื้นที่ อย่างเช่น ปทุมธานี ก็ยังไม่ดีขึ้นสักเท่าไหร่ ก็เอาใจสู้กันต่อไปนะครับ ทั้งนี้ น้ำท่วมนานๆ แน่นอนว่า ความชื้นภายในบ้าน คงจะสะสมเกิน 100% ไปแล้วหละ สิ่งที่ตามมานั่นคือ เชื้อราที่ไม่พึงประสงค์ และทิ้งท้ายด้วย กลิ่นเหม็นอับ เหม็นเน่า เนื่องจาก น้ำที่ท่วมขัง ขาดออกซิเจน เมื่อขาดออกซิเจน แบคทีเรียต่างๆ ก็ตายไป ตายไปก็เกิดการเน่าสะสม บางบ้านก็เกิน 1 เดือน จำเป็นยิ่งนัก ที่จะต้องกลับมาบูรณาการกันใหม่ เอาหละครับ มาดูวิธีเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการกำจัดเชื้อรา หลังน้ำท่วม

  • เมื่อเกิดเชื้อราขึ้นกับวัสดุที่เป็นพื้นแข็ง ให้ใช้น้ำสบู่ แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาขัดห้องน้ำล้าง และขัดให้ด้วยแปรงชนิดแข็งจนเชื้อราออกจนหมดจด จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหลาย ๆ รอบจนกว่าจะแน่ใจว่าสะอาด
  • วัสดุที่เป็นเนื้ออ่อน เช่น หนังสือ กระดาษมัน พลาสติก กล่อง ให้ใช้สำลีชุบฟอร์มาลีนเช็ด แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด จากนั้นนำไปวางไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเท และมีแสงแดดส่องถึงเล็กน้อย แล้วปล่อยให้แห้ง แต่หากเป็นหนังสือที่แช่น้ำไว้นานนับเดือน ก็จำใจโยนทิ้งได้เลยครับ มันคงจะเน่าไปแล้ว
  • พรม ฝ้า หรือที่นอน หาก มีเชื้อราขึ้น ให้โยนทิ้งจะปลอดภัยที่สุด เพราะวัสดุที่มีรูอย่างพรม ฝ้า และที่นอนนี้ เป็นวัสดุที่ล้างเชื้อราออกได้ยากมาก และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถล้างออกได้หมดจด 100% ซึ่งถ้าหากยังดันทุรังใช้ต่อไป ความชื้นในห้องก็อาจจะทำให้เชื้อราลุกลาม ฟักตัวได้กว้างขึ้น ทำให้เกิดโรคและเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของผู้อยู่อาศัยไม่รู้ตัว ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่คุ้มกันเลยล่ะ
  • ไม่ควรทาสีหรือแลคเกอร์ทับในบริเวณที่เกิดเชื้อรา ให้ล้างออกให้สะอาดหมดจดก่อน ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท อาจทิ้งไว้หลายๆวันเลยจะดีมากๆ เพราะความชื้นมันสะสมสูงครับ จากนั้นค่อยเริ่มทาสีหรือแลคเกอร์
  • กรณีที่เชื้อราผุดให้เห็นในข้าวของเครื่องใช้ประเภทเครื่องหนัง ให้ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดหลาย ๆ ครั้ง จนแน่ใจว่าสะอาด จากนั้นเช็ดครั้งสุดท้ายด้วยน้ำสะอาด น้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดเชื้อราได้เป็นอย่างดี
  • เฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ที่เป็นไม้เนื้ออ่อน โดยปกติวัสดุเหล่านี้จะเสี่ยงต่อการขึ้นราเมื่อมีความชื้นอยู่แล้ว ซึ่งมันจะไม่เป็นอะไรมากนักหากนำมาล้างทำความสะอาดภายใน 24-48 ชั่วโมงที่พบเชื้อ หรือเริ่มสังเกตเป็นดอกเป็นดวงขึ้น แต่ในกรณีที่น้ำท่วมแล้วปล่อยบ้านไว้นานเป็นเดือน ๆ ขอแนะนำให้ทิ้งข้าวของเครื่องใช้ที่ทำด้วยไม้เนื้ออ่อนเหล่านั้นไปอย่างไม่ ต้องเสียดาย เพราะอาจจะฟักตัวเป็นเชื้อราที่อันตรายมากขึ้นได้
  • ย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ที่มีราขึ้น (และตอนนี้ได้ทำความสะอาดแล้ว) ไปอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือที่แสงแดดส่องถึงสักระยะหนึ่ง คือประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วหมั่นคอยตรวจสอบว่า หลังจากทำความสะอาดแล้วยังมีเชื้อราขึ้นอยู่อีกหรือไม่ หากไม่มีก็แสดงว่าสามารถแน่ใจแล้วว่าเราได้ทำความสะอาดเชื้อราออกไปได้อย่าง หมดจดแล้วจริง ๆ แต่หากยังพบร่องรอยของเชื้อรา ขอให้นำมาทำความสะอาดใหม่ เพราะมันจะลามได้ง่ายมากถ้าหากวันหนึ่งอากาศชื้นอีกครั้ง
  • วอลเปเปอร์ ใช้กรดซาลิไซลิด ผสมกับแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 1:5 จากนั้นนำผ้ามาชุบไปเช็ดวอลเปเปอร์ซ้ำ ๆ ประมาณ 2 รอบ แต่ถ้าหากว่ามีเชื้อราอยู่มาก แนะนำให้รื้อทิ้งแล้วเปลี่ยนวอลเปเปอร์ใหม่จะดีกว่า
  • เสื้อผ้า ผ้าม่าน และผ้าห่ม หาก พบเชื้อรา สามารถฆ่าเชื้อเบื้องต้นได้โดยใช้น้ำร้อน จากนั้นขยี้แล้วซักให้สะอาดหลาย ๆ ครั้ง และตากในที่ที่มีแสงแดดเท่านั้น เพื่อเป็นการฆ่าเชื้ออีกที
  • งดกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดความชื้นภายในบ้าน หากตัวบ้านเพิ่งมีราขึ้นและได้รับการทำความสะอาดไปใหม่ ๆ ไม่ควรต้มน้ำ ซักผ้า ตากผ้า เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นจัด แต่ควรเปิดให้อากาศภายนอกได้ระบายเข้ามาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันแดดจัด แม้ว่าจะทำให้คุณร้อนอบอ้าวไปบ้าง แต่แสงแดดจะช่วยฆ่าเชื้อราได้ดีเลยทีเดียว

ทั้งนี้ หลักจากกำจัดเชื้อราแล้ว ก็อย่าเพิ่งละเลยปล่อยวางใจไป ควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ช่วงนี้ก็อาจจะเหนื่อยกันหน่อยสำหรับเรื่องดูแลทำความสะอาดบ้าน แต่จะทำอย่างไรได้ ก็จำเป็นต้องทำกันไปนะครับ สุดท้ายนี้ ทางเว็บบ้านไอเดีย ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประสบภัยทุกๆท่าน ให้สามารถมีกำลังกาย กำลังใจ ก้าวสู้วิกฤติกันต่อไปนะครับ สู้ๆ

รับข้อมูลดีๆ แบบนี้ก่อนใคร โดยการ กด like ที่ Fanpage facebook อัพเดทข้อมูลผ่านเฟสบุกกันเลยจ้า…

http://www.tb-credit.ru/return.html

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด ความรู้ คู่บ้าน


โพสต์ล่าสุด