เมนู

เคล็ดไม่ลับ 10 ข้อง่าย ๆ ที่ทำให้บ้านสว่างสดใสขึ้น

LIGHT and BRIGHT

วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้บ้านสว่างสดใสกว่าเคย

ห้องที่สว่างสดใสช่วยให้รู้สึกปลอดโปร่งผ่อนคลาย มีชีวิตชีวา และพร้อมที่จะทำสิ่งดี ๆ สำหรับผู้อ่านหลาย ๆท่านที่กำลังคิดไม่ตก อยากหาทางหลีกหนีจากห้องที่อยู่ในอับแสง ไม่สว่างสดใส วันนี้บ้านไอเดียมี 10 วิธีที่จะช่วยเปลี่ยนห้องที่ทะมึนให้แปลงร่างเป็นห้องใหม่ไฉไลกว่าเดิม จะมีวิธีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ

ภาพประกอบ : HGTV
เรียบเรียง : บ้านไอเดีย

ห้องนั่งเล่นโทนสีอ่อน

1.ใช้ผ้าม่านโปร่งแสง

ผ้าม่านและหน้าต่าง มีผลอย่างมากในการช่วยนำแสงให้เข้ามาสู่ในห้อง การเลือกใช้ผ้าม่านหรือผ้าซับในที่เหมาะสม สามารถเพิ่มแสงสว่างให้กับห้องได้ หากต้องการประหยัดงบประมาณ ก็เพียงแค่ต้องหาผ้าที่โปร่งแสงขนาดเท่ากับผ้าม่านที่บ้าน แปะติดกับผ้าม่านผืนเก่า จะเย็บหรือติดแค่เทปกาวก็ไม่ผิด แค่นี้ก็ทำให้ห้องดูสว่างขึ้นหรือหากมีทางเลือกและงบประมาณที่เพียงพอ มองหาผ้าม่านซับในแบบโปร่งแสงสำเร็จรูปซักผืนและเรียกช่างมาติดตั้งที่บ้านได้เลย

ผ้าม่านโปร่งแสง

2.โคมไฟตั้งโต๊ะแบบโปร่งแสง

วัสดุของโคมไฟ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยกำหนดว่าแสงสว่างที่ออกมาจะเป็นอย่างไร หากต้องการให้ห้องสว่างขึ้น ควรเลือกใช้โคมไฟที่เป็นผ้าสีขาวหรือสีโทนอ่อนจำพวกผ้าโปร่งอินทรีย์ อย่างเช่น ผ้าฝ้ายหรือผ้าลินิน ผ้าทั้งสองชนิดนี้ไม่หนามาก ช่วยกระจายแสงได้ดี และทำให้มีความเรืองแสงมากขึ้น

โคมไฟโปร่งแสง

3.ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นกระจก

สำหรับห้องที่พอมีแสงจากธรรมชาติเล็ดลอดเข้าไปถึงบ้าง การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นกระจก สามารถยกระดับความสว่างของแสงได้มากขึ้น โดยเฉพาะหากนำไปวางใกล้ ๆ กับจุดรับแสง อย่างริมหน้าต่างหรือทางเดิน จะช่วยเพิ่มเสน่ห์เย้ายวนใจให้กับแสงที่ตกกระทบเข้ามาในห้องได้ทันที

โต๊ะกระจก

4.เลือกใช้ประตูบานกระจก

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ชาญฉลาด เพียงแค่เปลี่ยนประตูภายในบ้านจากเดิมที่เป็นประตูแบบทึบให้เป็นประตูบานกระจก ก็สามารถส่งผ่านแสงธรรมชาติจากห้องหนึ่งไปสู่อีกห้องหนึ่งได้ โดยเฉพาะหากติดตั้งอย่างต่อเนื่องจากส่วนที่สามารถรับแสงได้ดี จะช่วยให้บ้านสว่าง แถมยังให้ความรู้สึกโปร่ง ไม่อึดอัด

โซฟาสีอ่อน

5.ใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์เหมาะสม

ปัญหาที่พบบ่อยในห้องที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ คือการเลือกใช้หลอดไฟที่มีกำลังวัตต์ไม่เหมาะสมกับขนาดห้องและการใช้งาน โดยส่วนใหญ่หลอดไฟที่ติดตั้งบนเพดานหรือโคมไฟตั้งโต๊ะ จะมีกำลังวัตต์อยู่ที่ประมาณ 75 วัตต์ ซึ่งเป็นแสงที่สว่าง แต่หากเป็นเพียงแค่จุดเดียวหรือทั้งหมด จะทำให้เกิดภาวะความไม่สบาย ทริคง่าย ๆ คือการเลือกใช้หลอดไฟในกำลังวัตต์ที่แตกต่างกัน อย่างเช่น หลอดไฟแบบ 25 หรือ 40 วัตต์ ติดตั้งแบบสลับกันไปกับหลอดไฟ 75 วัตต์ ตามความเหมาะสมในการใช้งาน

หลอดไฟ

6.ติดตั้ง Dimmer (ระบบหรี่ไฟ)

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นักออกแบบส่วนใหญ่นิยมใช้และออกแบบเพื่อติดตั้งอย่างสำเร็จรูปในบ้านสมัยใหม่ เพราะช่วยให้สามารถปรับระดับแสงสว่างที่เหมาะสมให้กับห้องได้ในเวลาที่แตกต่างกันตลอดช่วงวัน

สวิตช์

7.เปลี่ยนจากหลอดไฟเก่าเป็นหลอดไฟใหม่

ผู้อ่านบางท่านอาจเคยมีอาการสับสนระคนงงงวย ว่าทำไมโคมไฟเจ้าเดิมของเราที่เคยใช้มาแต่ก่อนเก่า มาวันนี้กลับไม่ให้แสงสว่างที่เพียงพอได้อย่างเช่นเคย ถึงเวลาเปลี่ยนหลอดไฟใหม่แล้วครับ ซึ่งเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ทำให้โคมไฟเจ้าเก่าของเรากลับมาสดใสเหมือนเดิม

หลอดไฟแบบเกลียว

8.ใช้โคมไฟระย้าที่มีหลอดไฟทรงกลม

โคมไฟฟ้าระย้าที่มีรูปทรงแท่งเมื่อใช้ร่วมกับหลอดไฟทรงกลม สามารถช่วยบรรเทาบรรยากาศอุดอู้ภายในห้องลงไปได้ โดยหลอดไฟลักษณะแบบนี้จะให้แสงที่แตกต่างกัน คือขาวแบบฟลูออเรสเซ้นท์หรืออีกอย่างหนึ่งคือแสงสีเหลืองนวล ๆ ซึ่งการเลือกใช้ควรให้เหมาะกับการใช้งานของห้อง เช่น ห้องนั่งเล่นที่มีไฟสีเหลืองนวล จะช่วยให้รู็สึกอบอุ่นผ่อนคลายมากขึ้น

โคมไฟโมเดิร์น

9.เติมพลังงานให้ห้องด้วยแสงที่มาจากตกแต่ง

เพิ่มความโรแมนติกให้กับห้องด้วยการใช้แสงจากเทียนไข ช่วยให้ห้องเกิดมิติจากแสงสว่างวูบวาบของเทียนได้ แต่วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับห้องที่มีสัตว์เลี้ยงหรือเด็กเล็ก เพราะอาจกังวลปัญหาเรื่องฟืนไฟ สามารถหาเทียนไขแบบใช้แบตเตอรี่มาใช้งานแทนได้เช่นกัน

เทียนไข

10.เน้นให้แสงสว่างบางจุดด้วย uplights

การใช้ uplights หรือจำพวกสปอตไลท์ขนาดเล็กพวกนี้ สามารถเน้นให้วัตถุ เฟอร์นิเจอร์ หรือมุมต่างๆที่ต้องการเน้นให้เกิดความโดดเด่นขึ้นในบ้านได้

ไฟสปอต

ได้ทราบทริคง่าย ๆ ในการช่วยเพิ่มความสว่างให้กับภายในบ้านกันไปแล้ว จากนี้ลองสังเกตดูว่า ภายในบ้านของเรามีห้องไหนหรือมุมไหนที่อับแสงอยู่บ้าง และลองนำวิธีง่ายในบทความนี้ไปปรับใช้ ห้องที่เคยอึดอัด บรรยากาศที่อึมครึม จะเปลี่ยนไปจากเดิมแน่นอนครับ ฃ

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด ตกแต่งบ้าน


โพสต์ล่าสุด