ดูแลห้องน้ำอย่างยั่งยืน
วิธีดูแลห้องน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ เบาแรง เบาใจ มีเวลาได้พักผ่อน
เบื่อมั้ยครับ? กับการทำความสะอาดห้องน้ำ ทั้งคราบสกปรก คราบเชื้อรา เพิ่งจะขัดถูไปไม่กี่วันคราบสกปรกก็เริ่มโผล่มารบกวนจิตใจ นั่นอาจเป็นเพราะว่าวิธีทำความสะอาดที่กำลังทำอยู่ อาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องอย่างยั่งยืน เป็นเหตุต้องให้เหนื่อยอยู่เสมอ สำหรับวันนี้ “บ้านไอเดีย” ขอนำ 7 วิธีจัดการกับห้องน้ำ ซึ่งรับรองได้ว่าหากได้ทำตามทั้ง 7 ข้อนี้แล้ว ห้องน้ำของผู้อ่านจะสะอาดได้อย่างยาวนานขึ้น เบาแรงขึ้น ให้วันหยุดสุดสัปดาห์ได้เป็นวันหยุดพักผ่อนไม่ต้องเหนื่อยกับการทำความสะอาดห้องน้ำอีกต่อไป มีเทคนิคใดบ้าง อ่านกันได้เลยครับ
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
ภาพประกอบ : Fine Touch Cleaners | Banidea Photo
1. แยกโซนเปียกแห้ง : การแยกโซนเปียกแห้ง ระหว่างโซนอาบน้ำและโซนสุขา เป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมสูง เพราะการแยกโซนจะช่วยให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก ต้นเหตุของคราบสกปรกมักมาจากน้ำที่เราอาบ หากไม่แยกโซนไว้อย่างชัดเจน ขณะอาบน้ำ น้ำจะกระเซ็นออกไปทั่วทั้งห้องน้ำ ส่งผลให้โซนอื่นๆเปียกชื้นไปด้วย แต่หากกั้นโซนไว้แล้ว น้ำจะกระจายตัวเฉพาะภายในโซนที่จำกัดไว้ ช่วยให้ลดการทำความสะอาดลงไป สำหรับการกั้นโซนนั้นสามารถทำได้หลายแนวทาง ดังนี้
- กั้นผนังอิฐ : การก่ออิฐฉาบปูนเพื่อกั้นโซน เป็นวิธีที่เหมาะกับการทำไว้ตั้งแต่กระบวนการก่อสร้าง ควรปูกระเบื้องผนังไว้อีกชั้นเพื่อเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
- กระจกกั้นอาบน้ำ : กระจกนับเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องด้วยให้ความรู้สึกโปร่งเบา โดยเฉพาะห้องน้ำแคบ หากกั้นด้วยการก่ออิฐมักทำให้ห้องน้ำดูทึบ อีกทั้งความหนาของอิฐยังต้องใช้พื้นที่มาก ส่วนกระจกมีความบาง ให้ความสวยงาม ดูแลได้ง่ายกว่า
- ตู้อาบน้ำ : ตู้อาบน้ำเหมาะกับห้องน้ำขนาดเล็ก สามารถซื้อแบบสำเร็จรูปมาจัดวางไว้ในห้องน้ำได้เลย โดยปกตินิยมออกแบบเพื่อให้จัดวางเข้ามุมกับห้องน้ำ มีทั้งแบบกระจก วัสดุ PVC และวัสดุอื่นๆขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์นั้นๆ
- ม่านกั้นอาบน้ำ : ผ้าม่านพลาสติก วัสดุ PVC เหมาะกับบ้านที่ต้องการลดงบประมาณ การติดตั้งทำได้ไม่ยากสามารถซื้อมาติดตั้งเองได้ หาซื้อได้ตามร้านขายวัสดุแต่งบ้านทั่วไป เช่น โฮมโปร , ไทวัสดุ , โกบอลเฮ้าส์ , บุญถาวร และร้านรายย่อยอื่นๆ มีลวดลายให้เลือกมาก แต่ทั้งนี้ม่านกั้นอาบน้ำสามารถกั้นได้เพียงบางส่วนเท่านั้น บริเวณพื้นยังคงมีน้ำกระเซ็นออกบ้างเล็กน้อย
คลิกเพื่อชมภาพขนาดใหญ่ ภาพมุมอื่นๆ ทั้งหมด
2. ออกแบบให้รับแสง อากาศถ่ายเท : การออกแบบผังห้องภายในบ้าน นับเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆที่ช่วยให้การอยู่อาศัยภายในบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ห้องน้ำที่ดีควรออกแบบให้อยู่ในทิศทางที่สามารถรับแสงแดดได้ และให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ทั้งแสงแดดและอากาศเป็นปัจจัยสำคัญในการฆ่าเชื้อโรค ระงับกลิ่นอับชื้น เมื่อความชื้นน้อยลง โอกาสจะเกิดเชื้อรา คราบหมักหมมย่อมลดน้อยลงด้วยเช่นกันครับ หากบ้านใดไม่สามารถออกแบบให้เปิดช่องรับลมรับแสงแดดได้ ควรติดตั้งพัดลมระบายอากาศทดแทน สามารถช่วยได้เช่นกันครับ
3. ตู้เก็บของ : โดยปกติห้องน้ำมักมีผลิตภัณฑ์บำรุงต่างๆไว้ใช้หลายชิ้น ทั้งครีมอาบน้ำ สบู่ โฟมล้างหน้า ยาสระผม ยาสีฟัน ของใช้เหล่านี้เป็นสิ่งพื้นฐานที่มีใช้กันทุกบ้าน แต่หากเป็นคุณผู้หญิงอาจมีเครื่องสำอางอื่นๆเพิ่มเข้ามา มีเยอะมีน้อยไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่ว่า วางไว้ตรงไหน ? หากผู้อ่านวางสิ่งของเหล่านี้ไว้บริเวณอ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า ย่อมต้องเจอปัญหาคราบสกปรกติดตามขวด อีกทั้งขณะที่เรากำลังเช็ดทำความสะอาดอ่างล้างหน้า หากมีขวดน้ำยาเหล่านี้วางอยู่ การเช็ดคงเป็นเรื่องที่ดูเกะกะไม่น้อย ต้องคอยยกเข้ายกออก หากจะวางขวดต่างๆไว้นอกห้องน้ำก็อาจไม่สะดวกในการหยิบใช้งาน วิธีที่ถูกต้องควรมีตู้เก็บของไว้สำหรับเก็บขวดต่างๆโดยเฉพาะ เมื่อไหร่ต้องการใช้ค่อยหยิบออกมา ใช้เสร็จแล้วเช็ดให้แห้ง เก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบ ขั้นตอนที่ดูเหมือนจะยุ่งยากกว่าเดิม แต่วิธีนี้นี่เองที่จะช่วยลดเวลาในการทำความสะอาดได้อย่างยั่งยืน ไม่ต้องทำความสะอาดซ้ำซับซ้อน สบายกว่ากันเยอะเลยครับ
4. โถปัสสาวะชาย : อ่านหัวข้อนี้แล้วหลายท่านอาจจินตนาการไปถึงห้องน้ำสาธารณะ แต่รู้ไหมว่าการติดตั้งโถปัสสาวะชายสำหรับห้องน้ำในบ้านนั้น ช่วยให้เบาแรงคุณแม่บ้านอย่างมาก นั่นเป็นเพราะขณะที่คุณผู้ชายยืนฉี่ น้ำปัสสาวะจะเกิดการกระเด็น ที่แย่ไปกว่านั้นอาจฉี่ไม่ตรงโถในบางครั้ง ส่งผลให้คราบปัสสาวะเลอะโถชักโครก เกิดเป็นคราบสะสมได้ง่ายยิ่งขึ้น อย่าลืมว่าโถชักโครกออกแบบมาเพื่อการใช้งานขับถ่ายโดยเฉพาะ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อยืนฉี่ หากเปลี่ยนมาใช้โถปัสสาะแทน การดูแลจะง่ายขึ้นมาก ที่สำคัญยังประหยัดน้ำได้อีกด้วยครับ เพราะการกดน้ำล้างโถปัสสาวะใช้น้ำเพียงครั้งละ 1 ลิตรโดยประมาณ ส่วนชักโครกใช้น้ำ 5 ลิตรขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น) อ่านข้อมูลนี้แล้วเห็นความคุ้มค่ากันไหมครับ
5.น้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ : มีใครเคยหยิบผงซักฟอก น้ำยาล้างจานมาล้างห้องน้ำกันบ้างครับ ผู้เขียนเองก็เคย หากนำมาใช้แบบฉุกเฉินก็พอจะอนุโลมกันได้ แต่หากนำมาใช้เป็นประจำอาจเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมนัก นั่นเป็นเพราะน้ำยาแต่ละชนิดคิดค้นสูตรมาเพื่องานเฉพาะด้าน หากเราเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดได้ตรงกับวัสดุ ตรงกับหน้าที่ของมัน การทำความสะอาดจะกลายเป็นเรื่องเบาแรงขึ้นมาก นอกจากจะช่วยกำจัดคราบสกปรกแล้ว น้ำยาเหล่านี้ยังมีคุณสมบัติในการยับเยื้อเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นต้นเหตุให้เกิดกลิ่นอับชื้น และยังเป็นการถนอมพื้นผิววัสดุอีกด้วยครับ
6. รองเท้าช่วยได้ : ในขณะอยู่อาศัยภายในบ้าน หรือกลับมาจากข้างนอก เท้าของเราอาจสกปรกโดยไม่รู้ตัว หาซื้อรองเท้ายางไว้สำหรับใส่ในห้องน้ำสักคู่ ช่วยป้องกันสิ่งสกปรกติดฝ่าเท้าได้เป็นอย่างดี วิธีนี้ต้นทุนไม่ถึงร้อย แต่ช่วยประหยัดแรงคุณแม่บ้านได้ไม่น้อยเลย ข้อควรระวังควรเลือกรองเท้าที่มีพื้นผิวกันลื่น มิเช่นนั้นอาจเกิดอันตรายได้ครับ
7. ผ้าเช็ดเท้า : ป้องกันคราบสกปรกจากภายนอกสู่ภายในห้องน้ำกันแล้ว การป้องกันคราบสกปรกหลังจากใช้ห้องน้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน หน้าห้องน้ำควรมีผ้าเช็ดเท้า เพราะหากเดินออกไปในขณะเท้าเปียก น้ำจะเลอะไปทั่วบริเวณที่เดินผ่าน ทำให้คราบสกปรกติดได้โดยง่าย
สำหรับ 7 ข้อที่แนะนำกันนี้ อาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้คุณพ่อบ้านแม่บ้าน ที่มีหน้าที่ทำความสะอาดห้องน้ำเบาแรงขึ้นมาก ช่วยให้วันหยุดพักผ่อนมีเวลาได้พักมากขึ้น รวมทั้งวันปกติ ห้องน้ำดูสะอาดตาอยู่เสมอ ผู้อ่านไม่จำเป็นต้องทำตามทุกวิธี เพียงแค่น้ำวิธีใดวิธีหนึ่งหรือมากกว่านั้นไปประยุกต์ใช้ เชื่อได้ว่าจะช่วยให้เบาแรงขึ้นได้ครับ หากผู้อ่านท่านใดมีวิธีอื่นๆอยากแนะนำ สามารถพิมพ์เทคนิคดีๆมาแชร์กันได้ใต้บทความชุดนี้ ขอให้มีความสุขกับวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ ^_^ http://www.tb-credit.ru/zaim-bez-otkaza.html
