ตกแต่งห้อง
เคล็ดลับแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนโดยไม่ต้องทำผนังกั้นทึบ
ปัญหาหลัก ๆ ของการตกแต่งห้องหรือตกแต่งบ้านที่เรามักจะพบกัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพื้นที่ห้องไม่พอสำหรับแบ่งสัดส่วนใช้งาน ห้องทึบไม่ค่อยมีแสง วันนี้บ้านไอเดียมีตัวอย่างให้ชมกันกับแนวคิดในการจัดสรรพื้นที่โดยที่ไม่ต้องก่อผนังทึบ ซึ่งจะช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งขึ้น ยืดหยุ่นและใช้งานได้ง่าย เป็นอพาร์ทเมนท์ขนาด 11 ตารางเมตร ของสองนักออกแบบตกแต่งภายใน lim+lu ที่กลับมารีโนเวทห้องเก่าให้ดูสดใสและสว่าง ด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ คือ เอาผนังเดิมออกแล้วเติมผนังติดกระจกเข้าไปแทนที่เพื่อช่วยเชื่อมต่อเบลอขอบเขตใช้งาน ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น และยิ่งง่ายไปกว่านั้นคือ การเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเพื่อให้แตกต่างกันก็จะเป็นตัวช่วยบอกขอบเขตใช้งานได้ ตามไปเก็บไอเดียกันได้เลยครับ
ออกแบบ : limandlu
เรียบเรียง : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพในขนาดใหญ่
Lim + Lu สองดีไซเนอร์ที่เรียนการออกแบบตกแต่งภายในมาจากนิวยอร์ค ลงมือเปลี่ยนแปลงอพาร์ทเมนท์ธรรมดาในฮ่องกงที่ดูมืดและเก่าของตัวเอง ให้กลายเป็นที่พักอาศัยขนาด 3 ห้องนอนที่เต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นสะท้อนถึงการใช้ชีวิตสมัยใหม่ การตกแต่งภายในได้รับการออกแบบอย่างมีกลยุทธ์เพื่อให้ภาพที่ปรากฏออกมาดูกว้างขึ้น โดยการเปลี่ยนกำแพงที่แบ่งส่วนใช้งานต่าง ๆ ในห้องมาเป็นประตูเลื่อนกระจกที่เปิดให้แสงธรรมชาติสามารถผ่านจากห้องหนึ่งไปอีกห้องได้ง่าย ๆ
ก่อนการรีโนเวท ดีไซเนอร์จะหาจุดเด่นของอพาร์ตเมนต์ในห้องนี้ก่อน แล้วจึงกำหนดขอบเขตใช้งานแต่ละส่วนให้ชัดเจน ทั้งครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และกำหนดช่องแสงและโทนสีที่จะใช้ เพื่อให้ห้องที่ดูอับทึบดูโปร่งสว่างและสดใสน่าอยู่มากขึ้น
พื้นที่ใช้สอยหลักประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และครัว ซึ่งนักออกแบบมีลูกเล่นในการเชื่อมหรือแบ่งสัดส่วนการใช้งานในห้อง โดยที่ไม่ทำให้ห้องดูทึบไปด้วยผนัง โดยใช้ 2 วิธีหลัก ๆ คือ 1. การใช้วัสดุเดียวกันสร้างความต่อเนื่องทางสายตา หรือวัสดุต่างกันเพื่อแสดงขอบเขตพื้นที่ใช้งาน และ 2. การใช้ผนังกระจกในการแสดงพื้นที่ห้องโดยที่ไม่ทำให้รู้สึกว่าถูกปิดกั้น ตัวอย่างเช่น การใช้พื้นไม้โอ๊คที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นวัสดุหลักที่ใช้เชื่อมต่อความรู้สึกและช่วยเบลอขอบเขตระหว่างพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนตัวภายในบ้านเข้าด้วยกัน แบ่งขอบเขตแต่ละจุดให้ชัดเจนขึ้นด้วยการเปลี่ยนวัสดุปูพื้นจากไม้โอ๊คเป็นกระเบื้องลายโบราณให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน และการกั้นห้องนั่งเล่น ห้องนอน จากผนังทึบเป็นประตูบานเลื่อนติดกระจกใส เป็นต้น
ทั้งคู่จงใจเลือกสีสันหลากสีที่จะสาดความรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวาเข้าสู่ภายใน ผนังของห้องนั่งเล่นและห้องนอนใช้สีขาวที่ตัดเน้นบางจุดด้วยสีดำ ซึ่งบ่งบอกถึงการเป็นโซนพักผ่อน ในขณะที่ห้องครัว ห้องอ่านหนังสือ walk-in closet และห้องน้ำ เลือกตกแต่งด้วยสีโทนสีสนุกๆ แบบพาสเทลและเฉดสีเข้มที่ผสมผสานอย่างมีรสนิยม ด้วยกระเบื้องเซรามิคที่มีลวดลาย โซฟาสีชมพูอมส้ม ผ้าม่านสีเขียวหัวเป็ด ตัดกับสีดำและสีเมทัลลิควางวับของเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Mid century modern สร้างความแตกต่างของสีพื้นผิวและวัสดุ ที่ผสมผสานกันเข้าด้วยกันได้อย่างลื่นไหล
ผนังกระจกทำให้เป็นสัดส่วนใช้งานที่กั้นแยกจากทางเดิน พื้นกระเบื้องลวดลายสวยงามที่ปูในห้องยิ่งเน้นความชัดเจนของพื้นที่ที่แยกออกไป
ห้องนอนโล่งโปร่งสบายด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ด้านข้างที่เปิดรับแสงได้มาก การตกแต่งห้องด้วยลายไม้ สีขาว ต้นไม้ และผ้าห่มไหมพรมถักขนาดยักษ์สีเทาทำให้ห้องดูอบอุ่น สงบ ผ่อนคลาย และสดชื่น สีดำของกรอบประตูยิ่งช่วยเติมความนิ่งแต่ชัดเจน
ผนังสีขาวช่วยขับเน้นให้ลวดลายกระเบื้องที่ตกแต่งในมุมครัวเด่นชัดขึ้น ชุดโต๊ะทานอาหารท็อปหินอ่อนขาเมทัลลิคช่วยเพิ่มลุคหรูหราให้กับมุมนี้จนกลายเป็นมุมพิเศษที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศแห่งความสุขในการรับประทานอาหารในทุก ๆ มื้อ
รายละเอียดเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งเล่นกับสีและวัสดุตามสไตล์ Mid century modern ที่นำเสนอสีจัด ๆ อย่างสีแดง น้ำเงิน เหลือง เส้นสายกราฟฟิคทั้งเส้นตรง เส้นโค้ง ที่ถูกลดทอนให้เหลือเท่าที่จำเป็นต้องใช้ แทรกแซมด้วยความแวววาวของโลหะ เติมความคลาสสิคของยุคสมัยด้วยเก้าอี้พลาสติกขาไม้ Eames Molded Plastic Chair ที่วางคู่กับโต๊ะทานอาหาร ชิ้นงานอมตะของ Charles & Ray Eames ที่ออกแบบมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1950
แปลนห้อง
