มุมกาแฟที่บ้าน
จัดมุมกาแฟให้น่านั่ง เลือกเครื่องชงกาแฟที่น่าใช้
กลิ่นอันหอมกรุ่น รสชาติหวานขมละมุนลิ้น และบรรยากาศที่ผ่อนคลายน่านั่งของร้านกาแฟ เป็นเสน่ห์ที่ชวนให้ใครหลายคนต้องติดอกติดใจในรสชาติและบรรยากาศเหล่านี้ “ร้านกาแฟ” นับเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างมากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา และปัจจุบันยังคงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ขับรถไปแห่งหนใดต่างก็มีร้านกาแฟให้ลิ้มลองกัน สำหรับเนื้อหาชุดนี้ไม่ได้พาคุณผู้ชมไปเสาะหาร้านกาแฟเก๋ ๆ แต่จะขอยกบรรยากาศมุมนั่งเล่น เพื่อทำบ้านของเราให้นั่งเพลินเหมือนร้านกาแฟกันครับ
สนับสนุนโดย : Nescafe Dolce Gusto
เคาน์เตอร์บาร์ : นับเป็นไอเดียที่ผู้เขียนเองชื่นชอบเป็นพิเศษ อีกทั้งยังเป็นไอเดียที่ได้รับความนิยมสูงในร้านกาแฟยุคใหม่ ลักษณะเคาน์เตอร์บาร์จะเหมาะกับการจัดวางหันออกนอกบ้าน หากเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ตึกแถวในเมือง สามารถจัดวางไว้หน้าบ้าน มองผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา หากเป็นบ้านในสวน เหมาะกับการนั่งชมวิวสวนบรรยากาศธรรมชาติ ข้อดีของเคาน์เตอร์บาร์ยังช่วยให้ประหยัดพื้นที่และประหยัดงบประมาณในการตกแต่งได้เป็นอย่างดี
ระเบียงกาแฟ : พื้นที่เล็ก ๆ ที่มีกันเกือบทุกบ้าน หรือหากยังไม่มีก็สามารถต่อเติมได้ไม่ยากนัก ขนาดระเบียงที่พอเหมาะควรมีความกว้างยาวประมาณ 2 x 3 เมตร ซึ่งจะช่วยให้สามารถจัดวางโต๊ะเก้าอี้ได้อย่างสะดวก สามารถประยุกต์ได้ทั้งหน้าบ้าน หลังบ้าน ข้างบ้าน หรือมุมใด ๆ ตามความเหมาะสมครับ
DIY โต๊ะไม้เก่า : เฟอร์นิเจอร์ราคาสูง อาจไม่จำเป็นเสมอไป มุมกาแฟสำหรับใช้ในบ้านอาจเป็นมุมที่ไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเลยแม้แต่บาทเดียว ดั่งเช่นไอเดียดังกล่าวนำไม้เก่าที่เหลือใช้ ประยุกต์เป็นโต๊ะและเก้าอี้อย่างง่าย นอกจากจะได้มุมกาแฟแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์อีกด้วยครับ แม้แต่ร้านกาแฟที่โด่งดังในยุคปัจจุบัน ต่างได้นำวัสดุเก่า ๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ร้านดูคลาสสิคมากยิ่งขึ้น
สวนกาแฟ : สำหรับบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์แปลงหัวมุมที่มีพื้นที่ข้างบ้าน สามารถนำพื้นที่ว่างมาประยุกต์ในการจัดสวนกาแฟ ซึ่งเป็นอีกไอเดียที่ร้านกาแฟหลาย ๆ ร้านนิยมนำมาใช้กัน เพราะสวนจะช่วยให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกพึงพอใจ เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ สำหรับการนำมาใช้ที่บ้าน หากมีสวนอยู่แล้วก็สามารถจัดตกแต่งเพิ่มเติมให้เกิดเป็นมุมนั่งเล่น แต่หากยังไม่มี หาพื้นที่ที่เหมาะสมโดยเฉพาะใต้ร่มเงาไม้ หรือแม้แต่พื้นที่เล็ก ๆ ริมรั้ว แนะนำให้ปลูกไม้รั้วเพิ่มเติมจะช่วยให้มุมสวนเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ไม้รั้วที่นิยมนำมาใช้ได้แก่ ไทรเกาหลี, โมก, คริสติน่า, ชาฮกเกี้ยน, ไผ่ หรือพันธุ์ไม้อื่น ๆ ที่เหมาะสม เพิ่มความเย็นสดชื่นด้วยเครื่องพ่นหมอก จะช่วยให้สวนของเราเย็นสบายคลายร้อนได้ดีครับ หรือหากจะเพิ่มไอเดียสวนน้ำตก เสียงของน้ำช่วยให้สมองลื่นไหล ฉุดความคิดให้สร้างสรรค์ ผลงานดี ๆ อาจเกิดขึ้นได้จากมุมเหล่านี้
ห้องกระจก : สำหรับท่านที่ไม่ชอบพื้นที่ Outdoor การจัดมุมกาแฟไว้ในบ้านเป็นอีกไอเดียที่ได้รับความนิยมในยุคปัจจุบัน อาจเนื่องด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว การนั่งในห้องแอร์จึงตอบโจทย์ได้ดีกว่า แต่หากจะนั่งห้องแอร์ที่มีผนังปิดทึบคงไม่เหมาะกับมุมพักผ่อนเท่าไหร่นัก เปลี่ยนจากผนังทึบเป็นผนังกระจกที่สามารถทอดสายตาไปสู่พื้นที่สวนรอบบ้านได้ ช่วยให้เกิดมุมมองที่กว้างไกลครับ
เลือกเครื่องชงกาแฟสำหรับใช้ในบ้าน
หลังจากได้มุมนั่งจิบกาแฟอันเพลิดเพลินกันไปแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยนั่นคือ “เครื่องชงกาแฟ” หากไปนั่งที่ร้านโดยปกติจะมีเครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่แบบเอสเพรสโซ ซึ่งจะเหมาะกับการใช้งานปริมาณมาก ๆ หากนำมาใช้ที่บ้านอาจไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนเท่าไหร่นัก ในเนื้อหาชุดนี้จึงขอแนะนำเฉพาะ เครื่องชงกาแฟที่มีขนาดเล็ก เหมาะกับการใช้ชงดื่มเองที่บ้านหรือสำนักงาน ใครจะเหมาะกับเครื่องประเภทไหน อ่านกันต่อเลยครับ
Drip Coffee : รูปแบบแรกที่แนะนำกัน เป็นการชงกาแฟที่มีกระบวนการคลาสสิคที่สุด ใช้อุปกรณ์น้อยชิ้น หลักการทำงานไม่ยุ่งยาก โดยมีถ้วยกรอง กระดาษกรอง และกาน้ำร้อน เพียงแค่นำผงกาแฟใส่ลงกระดาษกรอง จากนั้นค่อย ๆ เท่น้ำร้อนลงบนผงกาแฟ น้ำจะค่อย ๆ ซึมหยดลงถ้วย เพียงเท่านี้ก็จะได้กาแฟอันหอมกรุ่นไว้ดื่มทานกันแล้วครับ Drip Coffee นับเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะยุค Slow Life
Syphon : เครื่องชงกาแฟสูญญากาศ เป็นเครื่องที่มีรูปลักษณ์สวยงามอย่างคลาสสิค ตัวเครื่องแบ่งเป็น 3 ส่วน หม้อแก้วด้านล่างทรงกลม หม้อแก้วด้านบนและตัวกรองกากกาแฟ หลักการทำงานจะใช้ไฟจากตะเกียงแก๊สเพื่อให้หม้อแก้วด้านล่างร้อน เมื่ออุณหภูมิน้ำได้ระดับ ไอน้ำจะค่อย ๆ ลอยขึ้นด้านบน จากนั้นทำการใส่ผงกาแฟ คนให้เข้ากัน และเมื่อดับไฟ น้ำกาแฟจะไหลลงกลับมาผ่านระบบกรอง สู่หม้อแก้วด้านล่าง ก็จะได้กาแฟที่มีกลิ่นหอมรสชาติดี
Moka Pot : เครื่องชงกาแฟชนิดแรงดันไอน้ำที่ให้รสชาติใกล้เคียงกับกาแฟจากเครื่องเอสเปรสโซ โดยตัวเครื่องแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้านล่างสำหรับใส่น้ำ และส่วนบนสำหรับใส่กาแฟ หลักการทำงานของเครื่องใช้ความร้อนจากเตาแก๊ส เมื่อความร้อนได้ระดับ น้ำร้อนจากด้านล่างจะดันขึ้นมาสู่ด้านบน ออกมาเป็นกาแฟสดอันหอมกรุ่น นับเป็นวิธีการชงกาแฟอีกรูปแบบที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง
เครื่องชงกาแฟแคปซูล : เปลี่ยนความยุ่งยากให้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล วิธีการใช้นั้นง่ายมากเพียงแค่เติมน้ำ ใส่แคปซูล กดปุ่มตามฟังก์ชันที่ต้องการ เครื่องชงกาแฟก็จะทำงานให้อัตโนมัติจนกระทั่งได้น้ำกาแฟหยดออกมาสู่แก้ว รสชาติของกาแฟจะได้มาตรฐานเดียวกันทุก ๆ แคปซูล มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ทั้ง Espresso, Capuchino, Latte, Chococino และอื่น ๆ
เครื่องชงกาแฟสำเร็จรูป : เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการอัพเกรดกาแฟผงสำเร็จรูปทั่วไป ให้มีรสชาติที่หอมกรุ่นกว่าเดิม พร้อมกับฟังก์ชั่นที่สามารถทำฟองนมแบบคาปูชิโน่ได้ ทำให้กาแฟผงสำเร็จรูปแบบเดิม ๆ มีรสชาติดียิ่งขึ้น สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น แถมยังประหยัดต้นทุนค่าเครื่องและค่ากาแฟมากกว่าเครื่องชงกาแฟประเภทอื่น ๆ มาก แต่รสชาติจะแตกต่างกัน เพราะใช้กาแฟผงสำเร็จรูป ไม่ใช่กาแฟสด
Espresso : ลักษณะเครื่องชงกาแฟที่นิยมนำมาใช้กับร้านกาแฟ แต่ลดขนาดลงมาเพื่อให้เหมาะกับบ้านเรือน สำนักงาน หรือธุรกิจเล็ก ๆ เช่น โรงแรม รีสอร์ท หลักการทำงานของเครื่อง Espresso ใช้หลักการความดันไอน้ำ เพื่อกลั่นเอารสชาติของกาแฟออกมา โดยจะให้รสชาติที่หอมกรุ่นและเข้มข้นมากกว่าแบบอื่น ๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการลงทุนที่สูง และการดูแลที่ยุ่งยาก จึงไม่ค่อยคุ้มค่าสำหรับใช้ในบ้านเรือนมากนัก แต่หากที่บ้านดื่มกาแฟกันหลายท่านทุก ๆ วัน มีแขกมาเยี่ยมบ่อยครั้ง มีไว้ใช้งานก็ไม่เสียหายครับ
ได้ทั้งไอเดียจัดมุมดื่มกาแฟ และเรียนรู้เครื่องชงกาแฟประเภทต่าง ๆ กันไปแล้ว ที่เหลือต่อจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้อ่านจะชื่นชอบแบบไหนเป็นพิเศษ สำหรับข้อมูลเครื่องชงกาแฟในเนื้อหาชุดนี้ เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ช่วยให้ผู้อ่านรู้จักกับเครื่องชงแต่ละแบบ หากท่านใดสนใจเครื่องชนิดไหน แนะนำให้เปิด Youtube เพื่อค้นหาคลิปสาธิตการใช้งานเพิ่มเติม จะได้มองภาพออกมากยิ่งขึ้นครับ และหากใครนำไอเดียมุมกาแฟไปประยุกต์ใช้ที่บ้านกันแล้ว ถ่ายภาพมุมกาแฟของตนเองมาให้ชมกันด้วยนะครับ สวัสดีครับ
