สตูดิโอในสวน
“หลาย ๆ คนถามเราว่าทำไมไม่ต่อเติมมุมทำงานในบ้าน” เจ้าของบ้าน Carey และ Beverly Johnston เริ่มเล่าเรื่องพร้อมเฉลยคำตอบว่า “เราอยากแยกมุมสงบ ๆ ส่วนตัวในสวนไง เป็นใครจะไม่ทำหล่ะ” นี่คือที่มาของกระท่อมเล็ก ๆ ที่เป็นมากกว่าห้องเก็บของแต่น้อยกว่าบ้านหลังนี้ ซึ่งสอดคล้องกับลไฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ที่มักต้องการพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำงานหรือกิจกรรมที่ต้องการสมาธิมาก ๆ อย่างโยคะ งานวิจัย งานกราฟฟิคดีไซน์ ฯลฯ หากไม่จัดสรรการใช้งานแยกออกมาเป็นสัดส่วนหรือถูกรบกวนจากสมาชิกในบ้าน ประสิทธิภาพของแต่ละกิจกรรมก็จะลดลงไป ห้องน้อยในสวนจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนมีสเปซที่ชัดเจนของตัวเอง
ออกแบบ : Greenspur
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพใด ๆ เพื่อรับชมภาพในขนาดใหญ่
ก่อนหน้านั้นสวนหลังบ้านตรงนี้เต็มไปด้วยต้นไม้ ซึ่งถูกพายุโค่นเสียหายจนเหลือพื้นที่ว่างพอดีกับโครงการที่คิดเอาไว้ เจ้าของบ้านมีภาพในใจที่คิดเอาไว้ว่าอยากได้ห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เรียบง่าย และสร้างด้วยวัสดุที่เกลี่ยอารมณ์ผสมสัมผัสอันกลมกลืนกับธรรมชาติที่ล้อมรอบ จึงสรุปได้ที่การเลือกใช้ไม้และแผ่นเหล็ก ด้านในเป็นผนังสำเร็จรูป
สตูดิโอขนาด 26 ตารางเมตร หลังคาจั่วติดบานประตูสไลด์ที่ทำจากกรอบเหล็กติดไม้ไซปรัสทำผิวไม้สีดำ เพื่อให้เข้ากับสีของต้นไม้ หิน ดิน ให้ความรู้สึกนิ่ง สงบ ตั้งแต่ภายนอก
นักออกแบบใส่แผ่นเหล็กหุ้มเข้าด้านนอกและพ่นด้วย “น้ำยาสูตรลับ” ซึ่งเป็นตัวทำละลายที่จะปกป้องพื้นผิวจากสภาพอากาศ และช่วยให้สีของเหล็กเป็นเหมือนคราบสนิมสีน้ำตาลแดงเต็มผืน ทีมงานอธิบายเพิ่มเติมว่าแม้ประตูจะเป็นไม้แต่ไม่ต้องกังวลเพราะทนต่อแมลงได้เป็นอย่างดี และใช้วิธีรักษาเนื้อไม้ด้วยเทคนิคการเผาผิวไม้ตามแบบภูมิปัญญาญี่ปุ่นที่เรียกว่า “charred siding” หรือ S้hou Sugi Ban เป็นการใช้ ‘เปลวไฟ’ ในการเปลี่ยนแปลงสภาพและสารเคมีภายในไม้ ขัด แล้วเคลือบ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้มาหลายศตวรรษเพื่อช่วยปกป้องไม้จากโรคแมลง แสงแดดและอื่น ๆ
ประตูบานเลื่อน ด้านหนึ่งเปิดมุมชนกันทั้งสองด้าน ทำให้ดูเหมือนไร้ผนัง ใกล้ ๆ กันเป็นประตูขนาดใหญ่อีก 1 บาน ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของห้องก็สามารถมองเห็นวิสัยทัศน์เขียวชอุ่มของสวนได้ตลอดทั้งปี เมื่อสภาพอากาศอำนวยก็เปิดออกพร้อมกันรับความสดชื่นได้เต็มปอด และยังเหลือผนังด้านอื่น ๆ ให้ใช้งานเป็นโต๊ะทำงาน จัดเป็นห้องรับรองแขก หรือเป็นมุมนั่งดื่มชากาแฟชมวิว ก็เป็นส่วนตัวอย่างสงบ
