บ้านสไตล์ลอฟท์
สมัยก่อนใครที่เป็นเจ้าของบ้าน โรงงาน โรงนาเก่าๆ ก็อาจจะรู้สึกว่าทรุดโทรมใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ บางคนจึงเลือกทุบทิ้งสร้างใหม่ แต่สำหรับบางคนยังเห็นคุณค่าเดิมที่หลงเหลืออยู่ เพียงแต่ปรับปรุงใส่ฟังก์ชั่นใหม่ ๆ เข้าไปก็สามารถปรับให้อาคารเก่ากลายเป็นบ้านหรือสตูดิโอทำงานศิลปะที่ดูเท่ไม่เหมือนใคร อย่างเช่นอาคารหลังนี้ที่ภายนอกไม่มีความโดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมใด ๆ แต่ภายในออกแบบตกแต่งใหม่โดยให้แฝงความเป็น Industrial Loft โชว์พื้นผิว โครงสร้างของเสาและคาน คงความดิบของวัสดุเอาไว้ แม้ไม่ค่อยแต่งเติมอะไร แต่พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านตอบโจทย์การใช้งานได้เต็มร้อย
ออกแบบ : Ciclostile Architettura
เรียบเรียง : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขนาดใหญ่
อาคารสี่เหลี่ยมหลังนี้เป็นทั้งบ้านและที่ทำงานปรับปรุงจากโรงนาเก่าทำจากอิฐที่สร้างมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ใครจะคิดว่าจะกลายมาเป็นสถานที่ทำงานของศิลปินได้ เราได้เห็นสตูดิโอของเหล่าศิลปินหลังยุคสงครามโลก 2 ที่ใช้โกดังเก่าและโรงงานร้างมาทำพื้นที่สร้างสรรค์ผลงานแบบใหม่ ๆ แต่ไม่ค่อยเห็นคนใช้โรงนาเก่าเท่าไหร่นักจึงเป็นความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะใช้ฝีมือในการปรับสภาพแวดล้อมที่แวดล้อมไปด้วยเนิน ใส่ความคิดสร้างสรรค์ให้อาคารที่ไม่มีจุดเด่นอะไรเป็นพิเศษมีสเปซใช้งานได้ดี
การจัดแผนผังอาคารคงโครงสร้างของคาน เสา โชว์ Texture เท่ ๆ ของผนังอิฐเก่าที่สกัดเอาปูนที่ฉาบออก วางพื้นที่แบบอิสระด้วยการทุบผนังบางส่วน ทำให้ห้องที่มีผนังกั้นแบ่งกลายเป็นห้องเดียวกว้าง ๆ พื้นที่จะจัดสเปซหลัก ๆ ทั้งหมดที่ชั้นล่าง สามารถมองเห็นธรรมชาติได้โดยรอบด้วยผนังและประตูกระจกที่ใส่เข้าเป็นเป็นจังหวะรอบบ้าน ใช้ประโยชน์จากความสูงของเพดานที่มีอยู่เพื่อให้รู้สึกได้ถึงความสว่างและโปร่งโล่ง
พื้นฐานในการตกแต่งประการต่อไปของโครงการคือ สัมพันธ์กับภูมิทัศน์ให้มีการเชื่อมต่อภาพกันมากขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์นี้นักออกแบบจึงออกแบบช่องว่างขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ภายในและภายนอกในชั้นล่าง
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้บ้านหลังนี้มีภายในที่น่าสนใจคือ การจัดพื้นที่ให้มีความสมมาตรหรือการใส่สัดส่วนที่รับกันเข้าไป สังเกตได้จากภาพด้านบนที่สถาปนิกตั้งใจให้เห็นเสากลางบ้านที่แบ่งพื้นที่บ้านออกเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน ทำให้ไม่รู้สึกว่าหนักไปทางใดทางหนึ่ง ตัวบันไดสีดำที่ตัดแบ่งครึ่งผนังในแนวทแยงเป็นรูปสามเหลี่ยมทุกอย่างจึงดูสมดุล
ผนังอิฐเก่าหยาบๆ ตัดด้วยบันไดแผ่นเหล็กปั๊มสีดำ พื้นปูนเปลือย เสาปูน โชว์ท่อแอร์ ท่อน้ำและท่อสายไฟ เผยให้เห็นเสน่ห์ของความเป็น Loft ที่ให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติและเรียบง่าย
ห้องน้ำที่ยังหลงเหลือกลิ่นอายของโรงนาบ้าน ๆ แต่ดูโมเดิร์นใช้งานง่ายขึ้น ด้วยการใส่ช่องแสงปล่อยให้ความสว่างเข้ามาลดความอับชื้น ใส่โถสุขภัณฑ์และของตกแต่งสีดำคมชัดตัดกับสีธรรมชาติของผนัง ช่วยเติมบรรยากาศและสัมผัสของความทันสมัยให้กระจายไปทั่วห้องแม้ว่าจะไม่ได้ตกแต่งเพิ่มเติมอะไรมากมาย
การตกแต่งครัวคุมธีมให้อารมณ์และสัมผัสแบบเดียวกับบ้านทั้งหลัง คือ ใส่ความเป็นตัวตนตามธรรมชาติของแต่ละชนิดของวัสดุที่ใช้ตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นอิฐไม้ โต๊ะ เก้าอี้ ถังสังกะสีขึ้นสนิม ที่แสดงให้เห็นสี พื้นผิว ร่อยรอย บ่งบอกถึงเรื่องราวและประสบการณ์ที่ผ่านห้วงเวลาหลายสิบปี ตัดด้วยลุคโมเดิร์นเฉียบคุมของวัสดุใหม่ ๆ และสีดำสนิทของอุปกรณ์ฟิตติ้ง ทั้งห้องจึงเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อมลงตัว
พื้นที่ทำงานในมุมหนึ่งของบ้าน วางตู้เข้ามุมรูปตัว L เพื่อไม่ให้กินพื้นที่ส่วนกลางของบ้าน ผนังด้านหนึ่งทาสีใหม่ด้วยสีขาวดูสะอาดตา อีกฝั่งหนึ่งของผนังเป็นอิฐโชว์แนว เหลือร่องรอยปูนฉาบด้านบน ดูไปแล้วเหมือนคนใส่กางเกงยีนส์ขาด ๆ ถึงไม่เนี๊ยบสมบูรณ์แบบแต่ก็ให้ความงามที่แตกต่าง
บันไดทางขึ้นชั้นสองและแผงกันตกทำจากแผ่นเหล็กปั๊มรูกลม ซึ่งให้ความแข็งแรงในขณะที่เติมความโปร่งให้บ้าน ลมและแสงยังพอลอดผ่านได้ ไม่ทำให้บ้านดูอึดอัด
สตูดิโอทำงานบนชั้นสองเป็นห้องโล่งยาว วางโต๊ะทำงาน ชั้นวางของได้เต็มผนังทำให้เหลือที่ว่างให้สัญจรได้มาก เพดานจั่วสูงสไตล์โรงนาเก็บคานไม้ของเดิมเอาไว้ให้ยังคงคุณค่าของอดีตอยู่แบบนั้น และยังช่วยให้การระบายอากาศทำให้ดีและพรางตาห้องดูสูงโปร่งขึ้น จุดอ่อนของห้องนี้คือไม่มีลมและแสง ทีมงานออกแบบจึงแก้ไขโดยเติมแสงสว่างให้ด้วยการใส่ช่องแสงสกายไลท์รับแสงธรรมชาติเข้ามาตรง ๆ จากด้านบน
ผนังห้องอีกด้านทำประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ช่วยลดความทึบของผนังสร้างความโปร่งเบา เปิดรับได้ทั้ง แสง ลม และวิสัยทัศน์สบายตาภายนอกเข้ามาภายใน มีจังหวะให้คนทำงานได้ผ่อนคลายอิริยาบถ เสริมบรรยากาศการทำงานให้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น น่าทำงานมากขึ้น
