ปรับปรุงห้องแถว
บ้านผสมผสานกลิ่นอายดั้งเดิม เติมความโมเดิร์นให้อยู่สบาย
บ้านในเวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีผลงานการสร้างและรีโนเวทน่าจับตามองมาก ๆ เลยนะครับ เพราะนักออกแบบรุ่นใหม่ ๆ มักจะนำเสนอแนวคิดในการออกแบบที่ไม่ทิ้งรากเหง้าของตัวเอง เราจะได้เห็นการเลือกใช้วัสดุท้องถิ่น หรือการคงอารมณ์บ้านที่มีทั้งกลิ่นอายดั้งเดิมของเวียดนาม ที่ผสมความเป็นจีนและตะวันตกแบบโคโลเนียลเอาไว้ด้วยกัน แล้วนำมาสอดแทรกความทันสมัยเข้าไป ให้บ้านอยู่ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อย่างห้องแถวสองชั้นในเมืองชายฝั่งของเวียดนามที่เราจะนำไปชม สร้างมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1960 เมื่อได้รับการปรับปรุงก็ไม่ได้โดดเด่นหลุดกรอบออกจากบ้านข้างเคียง ดูจะเรียบกว่าด้วยซ้ำ แต่กลับมีเสน่ห์น่ามองในความเรียบง่าย ลองตามไปดูข้างในด้วยกันนะครับ
ออกแบบ : sawadeesign
เรียบเรียง : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพเพื่อรับชมภาพขนาดใหญ่
บ้านสองชั้นหน้าตาเรียบง่ายหลังนี้ เป็นโปรเจ็คการปรับปรุงบ้านใน อำเภอ
เมื่อก้าวผ่านประตูบานเฟี้ยมเข้ามาในบ้าน เราจะไม่ได้รู้สึกถึงความโมเดิร์นที่ดูขัดตา แต่นักออกแบบเลือกวัสดุและของตกแต่งที่รักษาความเป็นบ้านดั้งเดิมในแบบที่เคยคุ้นตาสมัยคุณตาคุณยาย ด้วยการจัดวางชุดโต๊ะดื่มน้ำชา ตู้ไม้เก่า ตกแต่งนาฬิกาโบราณบริเวณผนังบ้าน และตั้งศาลเจ้าจีนเอาไว้ที่พื้น ทำให้ส่วนหน้าบ้านดูคลาสสิค แต่ด้านหลังผนังที่กั้นพื้นที่นี้เราจะพบส่วนใช้ชีวิตอื่น ๆ ที่ดูทันสมัยขึ้น
แนวคิดหลักในการจัดพื้นที่บ้านหลังนี้ เจ้าของต้องการให้บ้านยังมีความทรงจำของบ้านหลังเดิมไว้ และอยากได้พื้นที่ว่างให้บ้านมีความปลอดโปร่งแบบบ้านสมัยใหม่ สถาปนิกจึงแบ่งพื้นที่บ้านโดยใช้อัตราส่วน 1 : 3 ให้ด้านหน้าเป็นโซนดั้งเดิม 1 ส่วน ที่เหลือเป็นพื้นที่ของความโมเดิร์นที่จัดแบบเปิดโล่ง มีผนังเป็นตัวช่วยแบ่งเขตการใช้งานระหว่างสองส่วนนี้ ในโซนโมเดิร์นด้านหลังจะเป็นมุมพักผ่อน ครัว สวน และห้องนอน ตกแต่งด้วยสีขาวเป็นหลัก ตัดด้วยสีดำบริเวณกรอบประตูหน้าต่างเพื่อเพิ่มความชัดเจนของเส้นสายตา นักออกแบบไม่ได้ใช้พื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์เต็มบริเวณ แต่เว้นส่วนด้านข้างติดผนังเป็นเส้นตรงแบ่งจัดเป็นสวนในร่มดูสงบและสดชื่น
สวนในบ้านจัดในมุมหน้าครัวเลียบผนังไปเรื่อย ๆ ทำไม้ระแนงปูเป็นพื้นทางเดินที่สามารถเดินเล่นได้ หรือจะวางเก้าอี้นั่งเอาไว้อ่านหนังสือก็ทำได้สบาย ๆ จุดนี้ได้รับแสงสว่างจากท้องฟ้าด้วยการเจาะช่องแสงสกายไลท์เป็นทางยาวตลอดแนว ทำให้สวนรวมไปถึงครัวและพื้นที่นั่งเล่นได้รับความปลอดโปร่งจากแสงไปพร้อม ๆ กัน
บ้านหลังน้อยแทบไม่มีพื้นที่ว่าง ไม่มีพื้นที่กลางแจ้งเพราะอาคารติด ๆ กัน แต่ก็อยากได้รับความสดชื่นจากสวน แต่นักออกแบบแก้โจทย์ด้วยการจัดสวนในอาคาร เจาะช่องแสงให้เหมือนเป็นพื้นที่เอาท์ดอร์ ก็ทำให้บ้านมีชีวิตชีวาได้เหมือนบ้านอื่น ๆ
มุมครัวเล็ก ๆ ประหยัดพื้นที่ด้วยการบิวท์ตู้ครัวยาวบานสีขาวท็อปแกรนิตสีดำ ใช้เป็นจุดเตรียมอาหาร ทำอาหาร และซิงค์ล้างในที่เดียว ใกล้ ๆ กันวางโต๊ะทานข้าวขนาด 6 ที่นั่ง แม้ขนาดโต๊ะจะค่อนข้างใหญ่ แต่ดูไม่แคบหรืออึดอัด สามารถเดินไป-มายังส่วนครัวได้สบาย ๆ เพราะการใช้สีที่ช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น ช่องแสงที่รับแสงเข้ามาได้มากทำให้ดูโปร่งสว่าง และการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่มีไอซแลนด์ ช่วยให้การสัญจรในบ้านทำได้ดี
ความเรียบง่ายปกคุลมอยู่ทุกจุดของบ้าน โดยเฉพาะในห้องนอนที่เลือกวางแค่เตียงไม้ไม่ทำสี คลุมด้วยชุดเครื่องนอนสีน้ำเงินเข้ม หมอนลายจุด ดูง่าย ๆ แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับการอยู่อย่างสงบในห้องส่วนตัวที่พร้อมสำหรับการพักผ่อน
บ้านหลังนี้เป็นการพิสูจน์ได้อย่างดีว่าแม้จะมีสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา แต่ถ้าไม่มากเกินไป ก็จะประสานกลมกลืนอารมณ์บ้านดั้งเดิมได้อย่างลงตัว แถมยังเติมสวนเข้าไปได้อย่างชาญฉลาด ใครที่อยู่ห้องแถวแล้วอยากมีบ้านที่หายใจได้สะดวก มีสวนให้ชุมฉ่ำใจ ต้องเก็บไอเดียไปลองทำกันดูนะครับ
