บ้านเดี่ยวชั้นครึ่ง
เพราะขนาดประเมินไม่ได้ในทางสายตา
“Big and Small” คือชื่อเล่นที่สถาปนิกและเจ้าของบ้านยินยอมพร้อมใจเรียกบ้านสีเทาด้วยชื่อนี้ จากความต้องการของเจ้าของบ้านที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่ในเมือง Los Angeles สหรัฐอเมริกา จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเผชิญกับปัญหาขนาดที่ดินที่มีจำกัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังไม่ใช่ที่ดินแบบราบทั่วไป แต่ดันกลายเป็นที่ดินที่มีความลาดชันสูง และการทำให้ขนาดที่ดินที่แสนกระทัดรัดนี้กลายเป็นบ้านที่ให้ความสุขกับผู้อยู่อาศัยได้อย่างไม่จำกัดนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของสถาปนิกเลย
ออกแบบ : Anonymous Architects
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
มองเพียงผิวเผินจากภายนอก บ้านหลังนี้มีหน้าตาคล้ายโรงจอดรถธรรมดาเท่านั้น เพราะด้วยโครงสร้างเรียบง่ายไม่เน้นเหลี่ยมมุมที่จัดจ้าน อีกทั้งยังเปิดโล่งหน้าบ้านติดกับถนนโดยคั่นกลางด้วยสวนหินที่ยังคงรักษาต้นไม้ใหญ่ที่อยู่มาก่อนไว้ ผนังอะลูมิเนียมคอมโพสิทเคลือบสีเทา หรือที่รู้จักกันว่า Cladding ที่ทำหน้าที่เก็บเสียงได้ดีเมื่อต้องอยู่ในระยะประชิดกับถนน อีกทั้งยังมีความทนทานเหมาะกับภูมิอากาศที่ต้องปะทะกับลมบนเชิงเขา ด้วยความเรียบของสีและวัสดุนี้ ทำให้หน้าตาของบ้านยิ่งดูถ่อมตัวท่ามกลางถนนใหญ่ แต่ก็ไม่ลดความโดดเด่นน่ามองลงไปแม้แต่น้อย
เนื่องจากขนาดที่ดินที่มีจำกัดจึงทำให้ขนาดบ้านเล็กตามลงไปด้วย ดังนั้นสถาปนิกจึงเลือกแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้เป็น 2 ชั้น โอยจากภายนอกสามารถใช้งานเป็นโรงจอดรถได้แม้จะเพดานต่ำ ส่วนภายในกั้นครึ่งส่วนด้วยเพดานสูง เพิ่มความรู้สึกโปร่งสว่างและกว้างขวางให้กับบ้าน โดยที่เลือกเว้นอีกส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ชั้นสองสำหรับห้องนอน
หน้าบ้านใช้การตกแต่งด้วยการเล่นกับเหลี่ยมมุมตรงบานประตู เพื่อเอื้อให้เกิดบริเวณทางเดินที่กว้างขึ้น เพราะหน้าบ้านมีต้นไม้ใหญ่ที่เจ้าของบ้านต้องการอนุรักษ์ไว้ อีกทั้งยังทำให้เกิดมุมมองที่น่าสนใจทั้งจากภายนอกและภายในอีกด้วย
ภายในเลือกใช้ผนังสีขาวในการสร้างสรรค์บรรยากาศของความโปร่งสว่าง และเลือกใช้ผนังไม้ตกแต่งบางส่วนเพื่อเพิ่มมิติให้กับความเรียบของสีขาวไม่ให้เวิ้งว้างมากเกินไป ท็อปครัวกลมกลืนไปกับภาพลักษณ์ของห้องด้วยสีขาวและสีจากไม้โอ๊ค ตกแต่งด้วยหน้าต่างบานกระทุ้งที่ช่วยให้แสงส่องสว่างภายในห้องได้มากขึ้น และที่น่าสนใจคือการตกแต่งด้วยหลอดไฟธรรมดา ที่นำมาจัดองค์ประกอบปรับมุมมองจนเหมือนได้หลอดไฟใหม่ที่เข้าท่ามากกว่าเคย
การตกแต่งที่ค่อนข้างกลมกลืนและชัดเจนภายในบ้าน ทำให้จินตนาการได้ว่าเจ้าของบ้านคงจะเป็นคนที่น่ารักและขี้เล่นน่าดู แม้ภายในบ้านจะเน้นโทนสีเรียบ ๆ อย่าง สีขาว สีเทา หรือ earth tone เป็นหลัก แต่ก็จะมองเห็นว่าในมุมของห้องต่าง ๆ เจ้าของบ้านมักจะหยิบจับสีสันและการตกแต่งเล็ก ๆน้อย ๆ มาแซมไว้เสมอ ๆ ทำให้ความเรียบเดิมๆเพิ่มเติมความฉูดฉาดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นโซฟาวินเทจสีแดงแบบ burgundy กรอบรูปสไตล์ pop arts หรือตุ้กตาครอบครัวเป็ดน่ารักน่าเอ็นดู
นอกจากไม้จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศในบ้านให้มีความอ่อนโยนละมุนละไมแล้ว คุณสมบัติที่ดีของไม้อีกอย่างหนึ่งคือ สามารถให้สัมผัสที่นิ่มนวล คงทนต่อการใช้งาน และสามารถดูดซับและกระจายแสงจากธรรมชาติภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สีน้ำตาลแกมแดงจากไม้โอ๊คอย่างเช่นบ้านหลังนี้ นอกจากนั้นไม้ยังช่วยระบายอากาศให้บ้านเย็นขึ้นอีกด้วย
ชั้นสองเปิดโล่งไม่กั้นห้องเนื่องจากมีพื้นที่เล็ก และใช้เป็นที่ตั้งของห้องนอน เนื่องจากเพดานที่แคบเพราะมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้เป็นชั้นสอง การคำนึงถึงแสงและการระบายอากาศจึงสำคัญมาก สถาปนิกจึงออกแบบเพดานให้ลาดเอียงตามรูปทรงของหลังคา เมื่อได้มุมที่แสงสามารถตกกระทบได้อย่างทั่วถึง จึงเปิดรับด้วยช่องกระจกบนเพดาน ได้ทั้งแสงแดดและแสงดาวตลอดวันและคืน อีกทั้งภายในห้องเองก็ไม่เน้นการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์มากมายอะไร มีเพียงแค่มุมทำงานเล็ก ๆ เท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาขนาดของห้องไม่ให้คับแคบมากเกินไป
บ้านหลังนี้เป็นอีกหนึ่งความคิดดีๆที่นำเสนอทางเลือกและวิธีการสำหรับการแก้ปัญหาขนาดที่ดินแคบ บ้านเล็ก แต่อยากเปลี่ยนแปลงบ้านให้มีความรู้สึกที่กว้างและโอ่อ่ามากกว่าเดิม กุญแจสำคัญง่าย ๆ ที่ไม่ว่าใครก็ต่างการันตีว่านำไปใช้แล้วได้ผลก็คือ การใช้สีโทนอ่อน ควบคู่กับการขยายส่วนของเพดาน เปิดรับแสงให้ทั่วถึงด้วยหน้าต่าง เพียงเท่านี้บ้านก็จะให้มิติที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ ก่อนที่จะปรับปรุงหรือก่อสร้างบ้าน การเลือกใช้วัสดุก็ควรพิจารณาที่เหมาะสมกับระยะเวลา สภาพอากาศ การใช้งาน และสภาพแวดล้อมบริบทโดยรอบด้วย
แบบแปลน
