ตกแต่งห้อง
ห้องเล็กแค่ไหนก็อยู่สบาย ด้วยการจัดแบ่งพื้นที่
นวัตกรรมใหม่ ๆ ในการออกแบบตกแต่งภายใน มักเป็นผลจากการทลายข้อจำกัดเรื่องขนาดของพื้นที่ อพาร์ทเมนท์หรือคอนโดขนาดเล็กเป็นตัวอย่างของพื้นที่อยู่อาศัยที่ต้องการความรู้สึกในแบบเปิดโล่งสบายภายใน แต่ด้วยเนื้อที่ที่มีอยู่จำกัดจะทำให้เกิดความรู้สึกแบบนี้ได้อย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือในการเติมจินตนาการเข้าไปในพื้นที่ จัดการทุกพื้นที่ใช้ชีวิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด Rue Temple เป็นอีกหนึ่งกลุ่มดีไซเนอร์ชาวรัสเซียที่ต้องการเผชิญกับความท้าทายในการออกแบบ พวกเขาจึงลงมือออกแบบห้องขนาด 43 ตารางเมตรให้ออกมาอยู่สบายทุกตารางเมตร ด้วยการใช้วัสดุ การจัดจังหวะของห้องให้ดูเบาสบายตาคล้าย ๆ อารมณ์ชนบทในญี่ปุ่นตามภาพด้านล่างนี้
ออกแบบ : Ruetemple
เรียบเรียง : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพเพื่อรับชมภาพขนาดใหญ่
ภายในห้องถูกล้อมกรอบด้วยเพดานคอนกรีตเปลือยและพื้นหินขัดดูดิบ ๆ แบบลอฟท์ บริเวณกลางห้องโดดเด่นบิวท์กล่องไม้สีธรรมชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ชั้นหนังสือแต่ยังทำหน้าที่อื่น ๆ ได้มากกว่าที่เห็น รูปร่างตู้ที่มีช่องว่างด้านข้างทำให้พอมีพื้นที่สำหรับวางโซฟากำมะหยี่ตัวยาวสีเขียวสดสำหรับนั่งพักผ่อน เป็นเครื่องหมายของพื้นที่ห้องรับแขก ถัดไปเป็นตามโถงทางเดินที่มีห้องครัวซุ่มซ่อนตัวอยู่ไกลออกไป
ตู้ไม้ซ่อนฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลายเอาไว้ภายใน นักออกแบบทำตู้ให้เป็นรูปตัวแอลตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน เพื่อให้ใช้พื้นที่ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ตัวกล่องไม่ได้ทำทึบตัน แต่เลือกวางจังหวะให้มีช่วงว่าง ช่องเปิด ทำให้ไม่รู้สึกถึงความอึดอัด ส่วนที่ยื่นออกมาของตู้ทำหน้าที่เป็นผนัง พาร์ทิชั่น กั้นส่วนพื้นที่พักผ่อนเอาไว้ ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นตู้หนังสือ ชั้นวางของใช้ตามชอบ
ฝั่งตรงข้ามกับตู้ติดหน้าต่างขนาดใหญ่ ที่เปิดรับแสงธรรมชาติให้สาดส่องเข้ามาสร้างความสว่างและความอบอุ่น ให้ห้องดูผ่อนคลายน่าอยู่ พื้นที่ใต้กรอบหน้าต่างไม่ปล่อยให้ว่าง นักออกแบบบิวท์เคาน์เตอร์ไม้เข้าไปขนาดพอดีให้วางจอคอมพิวเตอร์ได้ ใส่เก้าอี้ตัวเล็ก ๆ เข้าไป จุดนี้ก็กลายเป็นพื้นที่ทำงานเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องกินพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ในห้อง
ทีมงานทำสเต็ปบันไดเล็ก ๆ ยกพื้นขึ้น เพื่อแยกส่วนพื้นที่ใช้งานส่วนตัวเอาไว้ข้างใน เมื่อเดินขึ้นมาจะเป็นส่วนลานเอนกประสงค์ที่ผู้อยู่อาศัยจะใช้ประโยชน์ตามชอบ เมื่อถึงเวลานอนก็แค่เดินมาอีกไม่กี่ก้าวเข้าไปยังช่องว่างที่ห้อมล้อมด้วยลายไม้ธรรมชาติที่วาง floor bed น่านอนพักผ่อนเอาไว้
มุมมองบริเวณหัวเตียงนอนที่เป็นส่วนหนึ่งของตู้ไม้ เจาะช่องแสงเอาไว้เพื่อให้บริเวณห้องนอนได้รับแสงธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็สามารถมองเห็นส่วนอื่น ๆ ของห้องได้ โดยไม่ถูกตัดขาดออกจากพื้นที่อื่น ๆ ของห้อง
มุมนั่งเล่นพักผ่อนริมหน้าต่างสบาย ๆ สามารถใช้งานได้ยืดหยุ่นและหลากหลายตามสไตล์ที่ชอบ ไม่ว่าจะนั่งเล่น ทานอาหาร ดื่มกาแฟ เล่นดนตรี นั่งพูดคุยไปพร้อม ๆ กับชมภาพยนตร์ก็ทำได้ แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศผ่อนคลายแบบง่าย ๆ ก็เพียงแค่วางบีนแบ็ครูปร่างแบบฟรีฟอร์มสีเทาเอาไว้ เทานี้ก็ทำให้บริเวณนี้ดูนุ่มนวลอบอุ่นเป็นมิตร น่าใช้ชีวิตอยู่ได้ทั้งวัน
เพราะพื้นที่ที่มีอยู่น้อย ส่วนใช้ชีวิตอื่น ๆ ที่สำคัญก็ถูกแบ่งจัดสรรออกไปเป็นพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ ส่วนที่เหลือคือครัวและห้องน้ำจึงต้องทำให้กะทัดรัดแต่ใช้งานได้ดี และต้องไม่ดูอึดอัด นักออกแบบเลือกมุมหนึ่งของบ้านแบ่งกั้นทำครัวเล็ก ๆ ใช้สีขาวเป็นสีหลักเพื่อให้ครัวดูกว้างและสว่าง แม้จะมีพื้นที่จำกัดเพียงแค่มุมเดียว แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานก็มีครบ ทั้งส่วนเตียมอาหาร ตู้เก็บของ ซิงค์ล้าง เตา ที่เก็บตู้เย็น ทีมงานบิวท์เคาน์เตอร์สีเทาเล็ก ๆ ยื่นออกมาจากผนังสำหรับนั่งทานอาหาร 1-2 คน ได้สบาย ๆ แบบประหยัดพื้นที่
ห้องน้ำตกแต่งโทนสีขาว-เทาสไตล์มินิมอลเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานมาก่อน เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นต้องมีความจำเป็น ตัดส่วนที่ไม่ต้องการใช้ออกไป และเน้นความโปร่งให้มากที่สุดในห้องนี้จึงเหลือเพียงโถสุขภัณฑ์ อ่างอาบน้ำรูปร่างเพรียวบาง เคาน์เตอร์ซิงค์ล้างหน้าแบบลอยตัว ไม่มีตู้ด้านล่างทำให้ไม่ดูทึบตันและทำความสะอาดง่าย
มุมห้องนอนเล็ก ๆ ที่กลายเป็นอาณาจักรส่วนตัวที่ชวนพักผ่อนที่สุด ด้วยแสงไฟที่ส่องเป็นแนวผนังสองด้านผ่านหลอดไฟ LED ให้แสงสวยนวลตากำลังพอดีไม่จัดจ้าเกินไป เพิ่มความสว่างยามต้องการอ่านหนังสือได้อีกจากโคมไฟข้างเตียงที่ติดอยู่บริเเวณสองข้างของผนัง
เติมฟังก์ชั่นพิเศษทำให้ผนังห้องกลายเป็นจอภาพยนตร์ขนาดใหญ่ ด้วยการติดโปรเจ็คเตอร์เอาไว้บนเพดานให้ภาพตกกระทบมาที่ผนัง ทำให้มุมนี้เป็นส่วนสันทนาการที่พร้อมจะแบ่งปันความสุขใหญ่ ๆ ในพื้นที่เล็ก ๆ ให้ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนได้เต็มพิกัด โดยที่ไม่ต้องออกไปหาจากนอกบ้าน
แปลนห้อง
