เมนู

ตึกแถววิถีธรรมชาติ เลี้ยงปลา ไก่ สุขใจสไตล์บ้าน ๆ

บ้านกลางเมือง ความเรียบง่ายในอาคารสามชั้น

ในบางคราวเมื่อชีวิตต้องผ่านกระแสสังคมที่แสนวุ่นวาย ได้เห็นความศิวิไลซ์ของเมือง วิถีชีวิต และอาคารบ้านเรือน จนมาถึงจุด ๆ หนึ่งที่อยากจะมีมุมสงบ ๆ ของชีวิตในบ้านสักหลัง ก็แทบไม่ต้องการอะไรที่เป็นพิเศษมากมายอีกต่อไป แค่อยากได้พื้นที่ให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้ใช้ชีวิตอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในบ้านหลังเล็ก ๆ มีสระปลาคาร์พ สวนเต็มบ้าน ไก่ขันยามเช้า สัตว์เลี้ยงจอมซน  แสงสว่างและเงาจากธรรมชาติ ได้สัมผัสลมหายใจของลมที่พาดผ่าน บ้านก็สุขยิ่งกว่าที่ไหน ๆ วันนี้บ้านไอเดียจะพาไปชมบ้านที่มีครบองค์ประกอบที่ว่านี้ แม้จะเป็นอาคารสูงในตัวเมืองแต่ก็ใส่ความสบายในวิถีธรรมชาติเอาไว้ในทุกอณูทีเดียวครับ

ออกแบบChơna
เนื้อหาบ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขนาดใหญ่

ตึก 3 ชั้นเล็ก ๆ บนพื้นที่ขนาด 280 ตรม.ที่เห็นอยู่นี้ออกแบบโดย nguyen cong toan ตั้งอยู่ในเมืองริมชายฝั่งของเมืองญาจาง จังหวัดคั้ญฮหว่า (Nha trang-khanhhoa) เจ้าของบ้านเป็นคู่แต่งงานที่รักการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ลูก ๆ ของทั้งคู่ก็เช่นกัน จึงตั้งโจทย์ว่าจะดีแค่ไหนถ้าจะสร้างบ้านที่มีพันธุ์ไม้นานาชนิด ได้ยินเสียงนกร้อง มีแสงแดดส่องเข้ามาอ่อน ๆ  มีพื้นที่เลี้ยงปลา ทำสวน ได้กลิ่นไอทะเล เป็นสถานที่ที่จะให้พวกเขาจะเพลิดเพลินใจไปกับความสงบเงียบในอาณาจักรส่วนตัวเล็ก ๆ ที่ห่างจากความจอแจจากย่านตลาดที่อยู่ใกล้เคียง โปรเจ็คการสร้างบ้านหลังนี้จึงเกิดขึ้น

แปลนบ้าน 3 ชั้น

ผังบ้านแบ่งออกเป็น 3 ชั้น แบ่งฟังก์ชั่นชัดเจน โดยชั้นล่างเป็นส่วนสาธารณะใช้ทั้งครอบครัว ก่อนจะแบ่งพื้นที่ส่วนตัวบนชั้นสอง และชั้นสามให้เป็นพื้นที่ outdoor แต่ละชั้นมีพื้นที่สีเขียวที่เข้าถึงได้ มีช่องแสงที่นำความโปร่งสบายให้ทั่วถึงทั้งบ้าน

บ่อปลาคาร์พหน้าบ้าน

บ่อปลาคาร์พเล็ก ๆ ด้านหน้าบ้านก่อนเข้ามาถึงห้องนั่งเล่น

ตึกแถวนี้เป็นหนึ่งไอเดียการตกแต่งที่อยู่อาศัยแนวตั้งที่จะทำให้การมองตึกแถวเปลี่ยนไป เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่จัดช่องแสงให้แสงธรรมชาติเข้ามาสร้างความโปร่งสว่างทั่วพื้นที่จากหลายช่องทางแล้ว ยังมีมุมบ่อปลา 2 จุด มุมทำสวนทุกชั้นไม่เว้นแม้แต่ห้องน้ำและดาดฟ้า เท่านั้นยังไม่พอยังเลี้ยงไก่ไว้ในสวนด้วย

ห้องครัวอยู่บริเวณชั้นล่างตกแต่งง่าย ๆ สไตล์คอนเท็มโพรารี่ เน้นงานไม้ธรรมชาติเป็นหลักเพื่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น ด้วยความที่คุณแม่ชอบทำอาหารครัวจึงกว้างขวาง สัญจรได้สะดวกเคาน์เตอร์ครัวค่อนข้างยาวทำให้มีพื้นที่ให้เตรียมอาหารมาก


อาคารหลังนี้ไม่ได้ดูมืดทึบเหมือนตึกเก่า ๆ ที่ถูกปิดด้วยผนังเต็มทั้งสองด้าน แต่สถาปนิกพยายาม เว้นช่องแสง และช่องว่าง (void) เข้าไปในหลาย ๆ จุด ในหลาย ๆ วิธีไม่ว่าจะเป็นประตูกระจกหน้าอาคาร-หลังอาคาร และติดช่องแสงสกายไลท์บนหลังคาบริเวณบันได การลดมุมตัดเพดานในบางส่วนของตึกเป็นกลวิธีการเปิดนำแสงเข้ามา แสงแดดที่ตกกระทบเหลี่ยมมุมทำให้มีการเล่นที่น่าสนใจของเงาที่อยู่ภายใน ช่องว่างเหล่านี้ยังช่วยเสริมการไหลเวียนของอากาศตามธรรมชาติในอาคารอีกด้วย

สถาปนิกนำทัศนียภาพอันเขียวชอุ่มของสวนมารวมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของห้อง ทั้งห้องพัก ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ทุกที่จึงไม่ขาดความสว่างและบรรยากาศแสนสดชื่นของสวนที่ทุกคนชื่นชอบ นอกจากนี้นักออกแบบยังสร้างความน่าตื่นตาให้ตึกแถวซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนักนั่นคือ การทำบ่อเลี้ยงปลาคาร์พขนาดใหญ่ในตัวอาคารที่จัดอยู่ทั้งโซนชั้นล่างก่อนเข้าบ้านและบริเวณชั้นสอง บ้านหลังนี้จึงสมดุลย์ด้วย ดิน น้ำ ลม และแสง

ฟาซาดด้านหน้าครึ่งหนึ่งของตัวอาคารทำคอนกรีตเป็นช่อง ๆ รูปสามเหลี่ยมทึบสลับโปร่ง ทำให้บ้านมีลูกเล่นของรูปร่าง แสง เงาที่น่าสนุก  ช่องสามเหลี่ยมเล็ก ๆ เหล่านี้เป็นช่องทางเปิดรับแสงและลมให้ผ่านทางด้านหน้าซึ่งจัดเป็นส่วนของห้องน้ำ ฟาซาดช่วยปิดบังหน้าบ้านเติมความเป็นส่วนตัวให้คนที่อยู่ภายใน แต่ยังคงเหลือช่องทางให้ตัวบ้านสามารถปฏิสัมพันธ์กับภายนอกได้ดี

ห้องพักผ่อนนั่งเล่นติดบานสไลด์กระจก ทำให้สามารถเชื่อมบรรยากาศสบายจากสวนเล็ก ๆ ที่จัดเอาไว้ในพื้นที่ว่างระหว่างฟาซาดกับตัวบ้านได้ง่าย

บริเวณทางขึ้นชั้นสาม จากบันไดขึ้นมาจะเห็นฉากกั้นแบ่งเป็นช่อง ๆ ด้านหนึ่งจัดเป็นห้องพระ  ซึ่งน่าสนใจที่ไม่ได้ทำผนังปิดทึบไปเลย แต่ทำเป็นช่อง ๆ เพื่อให้พื้นที่นี้ยังมีช่องว่างที่เชื่อมต่อไปยังจุดอื่น ๆ ของบ้านได้ โดยยังความความสงบเอาไว้ได้  ส่วนด้านหลังฉากกั้นห้องพระเป็นทางเดินยาวออกไปทะลุสวนบนดาดฟ้าที่ปลูกต้าไม้และเลี้ยงไก่เอาไว้

ช่องแสงสกายไลท์บนเพดานช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติให่ส่องสว่างเข้าไปยังตัวบ้านโดยตรงผ่านบริเวณบันได ส่วนผนังใส่อิฐช่องลม เพื่อเพิ่มช่องทางให้อาคารได้หายใจ ทั้งสองส่วนเน้นใช้วัสดุและสีโทนสีขาวทำให้รู้สึกว่าอาคารนี้โล่ง กว้าง และสว่าง

แทบไม่เชื่อสายตาว่าบนตึกแถวจะมีที่เลี้ยงไก่แต่ที่นี่ทำได้ เดิมสถาปนิกทำสวนบนดาดฟ้าของอาคารเพื่อช่วยความความร้อนจากหลังคาที่จะเข้าสู่อาคาร และขยายพื้นที่สำหรับทำสวนให้มีมากขึ้นตามความต้องการของผู้อยู่ เจ้าของแอบเพิ่มฟังก์ชั่นที่เติมความน่ารักวิถีธรรมชาติด้วยการเลี้ยงไก่เอาไว้ ทำให้อาคารนี้ไม่ใช่ตึกธรรมดาแต่เป็นอาคารที่ดูมีชีวิตชีวา

อยู่ที่นี่ไม่ขาดสีสันและความ fresh ตั้งแต่ตื่นนอนก็จะพบกับบรรยากาศดี ๆ ชวนให้ลุกขึ้นมาดื่มกาแฟหอม ๆ ทานอาหารอร่อย ๆ ฝีมือคุณแม่ในยามเช้า ควบคู่ไปกับฟังการเสียงไก่ขัน ยามสายช่วยคุณพ่อรดน้ำต้นไม้ ทั่วอาคารเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของความสุขและจิตวิญญาณของธรรมชาติ

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด แบบบ้าน


โพสต์ล่าสุด