เมนู

4 วัสดุ พื้นไม้เทียม เลือกไม้ปูพื้นชนิดไหนดี มีคำตอบ

พื้นไม้เทียม แต่ละประเภท

พื้นไม้เทียม

เลือกพื้นไม้เทียมให้เหมาะกับพื้นที่และการใช้งาน

อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันวัสดุไม้จริง จัดเป็นวัสดุราคาแพง การจะหยิบนำไม้จริงมาใช้จึงต้องมีความพิถีพิถัน คัดเลือกเฉพาะตำแหน่งที่เหมาะกับการใช้งานเท่านั้น เราจึงเห็นการนำไม้มาตกแต่งเพียงบางจุดของบ้าน เช่น งานประตู หน้าต่าง, ราวระเบียง, พื้นบันได หรืองานกรุตกแต่งผนัง งานเฟอร์นิเจอร์ ส่วนการนำไม้จริงมาสร้างบ้าน ปูพื้นและทำผนัง นิยมใช้กันน้อยมาก เนื่องจากราคาไม้เนื้อแข็งจะแพงกว่าวัสดุทั่วไป อีกทั้งการดูแลรักษาทำได้ยากกว่าวัสดุอื่น ๆ และปัญหาหนักใจมากที่สุด หนีไม่พ้นเรื่องปลวก ๆ ครับ

ปัจจุบันผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างจึงได้คิดค้นนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ทดแทนพื้นไม้จริงหรือนิยมเรียกกันว่า “พื้นไม้เทียม” และนับเป็นเรื่องที่โชคดีมากที่เราได้มาถึงจุด จุดที่ เริ่มจะดูไม่ออกกันแล้วว่า อันไหนไม้จริง อันไหนไม้เทียม โดยในท้องตลาดไทยจะมี 4 ตัวเลือกหลัก ๆ ให้เลือกใช้กัน ซึ่งต้องขอเกริ่นไว้ก่อนเลยว่า วัสดุพื้นไม้เทียมแต่ละประเภทนั้น มีข้อดีที่แตกต่างกัน ไม่มีประเภทไหนดีกว่าหรือด้อยกว่า มีแต่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ แต่ละการใช้งาน

ภาพ | เนื้อหา : บ้านไอเดีย

ตัวอย่างแปลนบ้าน : Punplan

สำหรับภาพประกอบเนื้อหาชุดนี้ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณแบรนด์ต่าง ๆ ในงาน HomePro Expo ที่อนุญาตให้บ้านไอเดียเข้าถ่ายภาพต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ประกอบข้อมูล ผู้อ่านท่านใดสนใจวัสดุชิ้นไหน สามารถเลือกชมเลือกสัมผัสพื้นไม้เทียมของจริงกันได้ที่ HomePro ทุกสาขาทั่วไทย เอาหละครับ มาต่อกันที่เนื้อหาการเลือกใช้วัสดุไม้ทดแทน โดยปัจจุบันในตลาดทั่วไปมีให้เลือก 4 ประเภท ดังนี้

1. พื้นไม้เทียม ลามิเนต

ลามิเนตเป็นพื้นไม้เทียมประเภทแรก ๆ ที่สามารถทำได้เหมือนไม้จริงมาก ที่เหมือนมากเป็นเพราะว่า ลามิเนต ทำจากไม้จริงครับ แต่ไม่ได้เป็นไม้จริงทั้งแผ่นนะครับ เฉพาะส่วนผิวสัมผัสด้านหน้าเท่านั้น เราจึงได้เห็นลวดลายที่เหมือนจริง พร้อมกับสัมผัสที่ให้อารมณ์แบบไม้จริงมาก ๆ

ข้อดีของแผ่นไม้พื้นลามิเนต สามารถติดตั้งได้ง่าย โดยจะมีการติดตั้งในลักษณะ Click Lock เสมือนการเล่นตัวต่อในวัยเด็ก เพียงแค่ค่อย ๆ ต่อไปทีละชิ้นจนครบทั่วทั้งห้อง สามารถทำได้เองแน่นอนครับ แต่หากใครไม่มั่นใจ หรือพื้นที่ปูเยอะเกินไปทำเองคงไม่ไหว ปัจจุบันผู้ให้บริการแต่ละแห่งมีโปรโมชั่นติดตั้งให้ฟรีอีกด้วยครับ ส่วนข้อเสียคือเรื่องความชื้นและเนื่องจากเป็นไม้จริง จึงกลัวปลวกเช่นกัน

การใช้งานพื้นไม้ลามิเนต

เหมาะกับการใช้งานปูพื้นภายใน ใช้ได้กับห้องทั่วไป ทั้งห้องนอน ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น แต่เนื่องด้วยผิวสัมผัสที่นำไม้จริงมาใช้งาน จึงไม่เหมาะสมกับพื้นที่ ที่มีปัจจัยเสี่ยงเรื่องความชื้น เช่น ในห้องน้ำ, ในห้องครัว หรือพื้นที่ชั้นแรกของบ้านที่อาจก่อให้เกิดความชื้นสูง หากมีน้ำขังหรือชื้นนาน ๆ หน้าสัมผัสของลามิเนตก็จะไม่สวยงามอีกต่อไป แต่สามารถเช็ดถูได้ตามปกตินะครับ เปียกได้ แต่อย่านาน

ราคาแผ่นพื้นไม้ลามิเนต : ประมาณ​ 500 – 1,200 / ตร.ม.

2. พื้นไม้เทียม ไวนิล (กระเบื้องยาง)

อาจจะเรียกได้ว่า เป็นคู่แข่งของลามิเนตก็ว่าได้ และดูเหมือนว่าระยะหลัง ๆ กระเบื้องยางเกรดพรีเมี่ยมทำคะแนนได้ดีกว่าลามิเนตเกรดทั่วไป ด้วยคุณสมบัติเด่นที่ผลิตจากวัสดุประเภท PVC จึงทนต่อความชื้นสูง ประจวบกับเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถสร้างลวดลายให้เสมือนกับไม้จริงมากยิ่งขึ้น อยากได้ไม้สายพันธุ์ไหน กระเบื้องยางทำได้ทั้งหมด

จุดเด่นที่มาใหม่อีกประการ คือสัมผัสที่นุ่มสบายเท้า ลดแรงกระแทกกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะกระเบื้องยางรุ่นที่ออกแบบมาให้หนาพิเศษเพื่อเอาใจกลุ่มผู้สูงอายุที่อาจหกล้มได้ นอกจากนี้กระเบื้องยางยังเป็นวัสดุปูพื้นที่น้ำหนักเบากว่าวัสดุอื่น ๆ จึงช่วยลดภาระของโครงสร้างบ้าน การติดตั้งก็ง่ายไม่แพ้ลามิเนตเลยครับ

ตัวอย่างการใช้งานจริง ห้องครัวในงาน HomePro Expo

การใช้งานพื้นไม้เทียมกระเบื้องยาง

เหมาะกับการใช้งานภายใน ใช้ได้กับห้องทั่วไปเช่นเดียวกับพื้นไม้ลามิเนต แต่ไม่กลัวความชื้น ดังนั้นพื้นกระเบื้องยางจึงสามารถปูใกล้กับที่ชื้นได้ ปูชั้นแรกของบ้านได้ เปียกน้ำได้นานกว่าลามิเนต และที่สำคัญไม่กลัวปลวก ส่วนการเลือกซื้อแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีกาวในตัว ช่วยให้ติดตั้งง่ายยิ่งขึ้นครับแต่จะมีราคาที่สูงกว่ารุ่นที่ไม่มีกาว

ราคากระเบื้องยางแบบทั่วไป : ประมาณ 700 – 1,200 บาท/ตร.ม.

3. พื้นไม้เทียม กระเบื้องเซรามิคลายไม้

ต้องขอขอบพระคุณเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ทำให้เราได้เห็นลวดลายต่าง ๆ บนพื้นกระเบื้องเซรามิคได้อย่างสมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งปกติความนิยมในการใช้งานกระเบื้องเซรามิคมีสูงเป็นทุนเดิมแล้ว เมื่อมีลวดลายที่ใกล้เคียงธรรมชาติ ใกล้เคียงของจริง ยิ่งทำให้กระเบื้องได้รับความนิยมสูงยิ่งขึ้น

ตัวอย่างการใช้งานกระเบื้องเซรามิกลายไม้ร่วมกับห้องน้ำ

ปัจจุบันกระเบื้องลายไม้มีให้เลือกหลายขนาด ส่วนขนาดที่แนะนำให้เลือกเป็นลักษณะแผ่นยาว ซึ่งจะเป็นลักษณะที่อิงกับขนาดไม้จริง หากใช้แผ่นสี่เหลี่ยมจัตุรัสทั่วไป รอยต่อการปูจะเยอะ และส่งผลให้พื้นดูไม่เหมือนไม้จริงเท่าไหร่นัก ขณะเลือกให้นำมือลูบสัมผัสที่ผิวกระเบื้อง ลวดลายที่เสมือนจริงจะต้องไม่เรียบเนียนลื่นเหมือนกระเบื้องทั่วไป แต่จะต้องมีความหยาบเล็กน้อย ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นครับ

การใช้งานพื้นกระเบื้องเซรามิก

วัสดุเซรามิกมีการใช้งานที่ยืดหยุ่นกว่าลามิเนตและกระเบื้องยาง สามารถใช้งานได้ทุก ๆ ห้องของบ้าน รวมทั้งภายในห้องครัวและห้องน้ำ ห้องที่มีความชื้นสูง ข้อเสียของกระเบื้องเซรามิคคือรอยต่อ ร่องยาแนว รวมทั้งสัมผัสที่แข็งกระด้างแตกต่างจากงานไม้ที่แม้จะเป็นไม้เนื้อแข็งแต่ให้สัมผัสที่อ่อนโยนกว่า

ราคากระเบื้องเซรามิก : 190 – 800 บาท / ตร.ม.

4. พื้นไม้สังเคราะห์ ไฟเบอร์ซีเมนต์

ปิดท้ายกันด้วยวัสดุจากไฟเบอร์ซีเมนต์ วัสดุที่มีการพัฒนาให้เป็นไม้เทียมมาอย่างต่อเนื่อง ในอดีตเราจะเห็นได้จากงานไม้รั้ว, ไม้ระแนง, ไม้เทียมตกแต่งผนัง จนกระทั่งไม้พื้น จุดเด่นที่เห็นได้ชัดของวัสดุนี้ การทดแดด ทนฝน ทนไฟ ทนแรงสัมผัส จึงเหมาะกับการใช้งานภายนอกมากกว่าภายใน

การใช้งานพื้นไม้สังเคราะห์ ไฟเบอร์ซีเมนต์

เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้ง Outdoor โดยปกตินิยมนำมาใช้ร่วมกับทางเดิน, พื้นระเบียงบ้าน, พื้นสระว่ายน้ำ มีให้เลือกทั้งแบบทั่วไปและลักษณะ Click Lock มีทั้งรุ่นที่ทำสีสำเร็จมาจากโรงงานและรุ่นที่ต้องทำสีใหม่

ราคาพื้นไม้ไฟเบอร์ซีเมนต์ : 500 – 1,500 บาท/ตร.ม.

ทั้ง 4 วัสดุนี้เป็นเพียงตัวอย่างพื้นไม้เทียมที่นิยมใช้งานและมีจำหน่ายทั่วไปในท้องตลาดบ้านเราเท่านั้น หากเป็นตลาดระดับบนจะมีวัสดุอื่น ๆ ให้เลือกอีกมาก อาทิ ไฮบริด วู้ด พื้นไม้เทียมที่มีส่วนผสมของไม้จริงและพลาสติก PE รวมทั้งไม้เทียมชนิดอื่น ๆ วัสดุแต่ละประเภท มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานแตกต่างกันไป นอกจากการเลือกใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์แล้ว การออกแบบลวดลายในการปูพื้นเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันครับ http://credit-n.ru/offers-zaim/zaym-na-kartu_migcredit.html http://www.tb-credit.ru/zaim-online.html

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด HomService by HomePro


โพสต์ล่าสุด