แบบบ้านชั้นเดียว
บ้านพาสเทล อบอุ่นละมุนย้อนยุค 80’s
‘ time passed , things changed ‘ เวลาเปลี่ยน อะไร ๆ ก็ปลี่ยน ไม่เว้นแม้แต่เทรนด์การตกแต่งบ้านและความงามเชิงสถาปัตยกรรม วันนี้ผู้เขียนจะพาผู้อ่านนั่งไทม์แมชชีนส่วนตัว ย้อนไปยุค 1980’s ยุคที่ Pop culture กำลังเบ่งบาน เฟื่องฟูไปด้วยการเปลี่ยนถ่ายทางแฟชั่น ความเชื่อ ศาสนา เทคโนโลยี และการเกิดใหม่ของความคิด สไตล์ที่เป็นที่นิยมมากในยุคนี้ คือการผสมผสานเฟอร์นิเจอร์แบบวินเทจเข้าคู่กับโทนสีพาสเทลละมุนละไม อบอุ่น น่ารัก อยู่สบาย บ้านหลังนี้จำลองบรรยากาศเก่า ๆ แบบยุค 80’s มาอยู่ในยุค 2000 ได้อย่างลงตัวและชาญฉลาดมากค่ะ
ออกแบบ : Distinctive Architecture
ภาพถ่าย : Russell Abraham
เรียบเรียง : บ้านไอเดีย
บ้านสไตล์ Modern Contemporary หลังนี้ได้รับการออกแบบโดย Distinctive Architecture สำหรับครอบครัวใหญ่ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกของ 3 พี่น้อง มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 โรงจอดรถ ห้องเก็บของและสตูดิโอสำหรับคิดค้นผลงานสร้างสรรค์ นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดการใช้เวลาสานปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้น ด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ โดยมีคอนเซปของการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้สอยของบ้านด้วย 3 ส่วนหลัก นั่นคือ living / sleeping / working เรียกได้ว่าเป็นบ้านที่ตอบสนองทุกกิจกรรมในชีวิตได้เป็นอย่างดี
ใช้รูปทรงหลังคาแบบปีกผีเสื้อป็นโครงหลังคาที่แหงนออกทั้งสองด้าน สามารถรองรับน้ำฝนได้ดี เป็นอีกหนึ่งตัวแทนที่แสดงถึงความโมเดิร์นทันสมัย ทาสีผนังภายนอกด้วยโทนสีพาสเทลที่เป็นที่นิยมมากในยุค 1980’s ด้วยสีเขียว homelock และน้ำตาล Sand สร้างความกลมกลืนแบบละมุนละไมกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ที่ล้อมไปด้วยต้นไม้และกรวดหินซึ่งเป็นโทนสีเดียวกัน
ถึงแม้จะไม่ได้ปูพรมภายนอกด้วยสนามหญ้าสีเขียวสดชื่น แต่ก็ผ่านการออกแบบภูมิทัศน์ที่คิดมาอย่างดี และแสดงออกถึงความใกล้ชิดกับธรรมชาติได้อย่างดีเยี่ยมมเช่นกัน ด้วยความตั้งใจที่ต้องการให้ทั้งภายในและภายนอกมีความสัมพันธ์ สามารถเชื่อมโยงถึงกันแบบ outside in – inside out จึงทดแทนสีเขียวจากการปูสนามหญ้าธรรมดา ด้วยการใช้ต้นไม้ใหญ่น้อยล้อมรอบบ้านแทน การเทด้วยกรวดดินเป็นอีกสิ่งที่ช่วยสนับสนุนให้เห็นถึงรายละเอียดของความใส่ใจในวัสดุและสิ่งแวดล้อมของบ้าน ผสมผสานอย่างลงตัวกับที่ดิน และสามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้หลากหลายกิจกรรมอีกด้วย
ภายในใช้ประโยชน์จากรูปแบบหลังคาปีกผีเสื้อด้วยการเปิดเพดานแบบ double space ทำให้โปร่งโล่งสบาย ที่สำคัญคือการออกแบบให้บ้านหันหน้าไปในทางทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งรองรับกับทิศทางของการรับสายลมและแสงแดดได้พอดี กั้นส่วน indoor/outdoor ด้วยกระจกบานใหญ่โปร่งแสง รับแดดร่มได้พอดี ภายในตกแต่งด้วยสีพาสเทลจับคู่กับเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ ชวนให้ย้อนนึกถึงวัฒนธรรม pop culture สีสันและลวดลายของเฟอร์นิเจอร์มีความโค้งเว้าอ่อนโยน ช่วยให้เส้นสายทื่อตรงของรูปทรงโมเดิร์นอ่อนโยนขึ้น
แสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดเข้ามาทางช่องหน้าต่างบานใหญ่ รังสรรค์ให้มุมนั่งเล่นมีความสงบนุ่มนวล เฟอร์นิเจอร์ไม้ ผสมผสานกับแจกันขนาดใหญ่รูปทรงโบราณ สามารถรักษาภาพรวมของห้องนั่งเล่นที่ต้องการความรู้สึกย้อนยุคไว้ได้อย่างดี ด้านนอกเป็นส่วนของชานขนาดใหญ่เชื่อมต่อไปถึงสวน ด้วยความโปร่งสบายที่มาจากการออกแบบให้รับกับทิศทางลมและแดดได้อย่างสมบูรณ์ จึงทำให้ลดการใช้พลังงานภายในบ้านไปได้มาก ห้องนี้จึงไม่จำเป็นต้องติดเครื่องปรับอากาศ ที่อาจจะมาทำลายอรรถรสของความวินเทจให้ด้อยลงไป แต่กลับได้พัดลมหมุนติดเพดาน ที่ช่วยส่งเสริมให้ภาพยุค 80’s ย้ำชัดขึ้นไปอีก
ห้องครัวไม่ถูกปิดกั้นส่วนด้วยผนัง ต่อกั้นโดยเคาเตอร์ไม้ ครัวขนาดใหญ่เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณสมาชิกในบ้าน เลือกใช้พื้นผิวของเคาเตอร์เป็นไม้ เพราะไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตรกับธรรมชาติอยู่เสมอ ผสมผสานไปด้วยคอนกรีตขัดมันที่โชว์พื้นผิว แทรกซึมความทันสมัยไว้ในความวินเทจแบบพาสเทล สร้างความหลากหลายแต่ไม่ขัดแย้ง
จัดส่วนของพื้นที่โดยการใช้กระเบื้องต่างชนิด ใช้กระเบื้องแกรนิตเพื่อทำครัว สามารถทำความสะอาดได้แม้จะเลอะเทอะจากคราบในการทำอาหาร
รอบบ้านเชื่อมต่อห้องต่างๆด้วยทางเดินยาว กรุกระจกใสให้แสงเล้ดลอดเข้ามาได้ตลอดเวลา ทำให้ทางเดินโปร่งโล่งไม่อึดอัด สลับกันด้วยสีเขียว-เหลืองพาสเทล สว่างและกลมกลืนกับสีของกรวดดินและต้นไม้ภายนอก
ห้องน้ำเคร่งขรึมขึ้นด้วยกระเบื้องปูพื้นและผนังแกรนิตโต้สีเข้มแผ่นเล็กแบบโมเสจ สนุกสนานด้วยการใช้สีส้มผสมผสานไปกับวัสดุไม้ สร้างบรรยากาศให้ห้องน้ำได้ไม่เหมือนใคร
ห้องนอนกระจกบานกว้าง ตกแต่งผ้าม่านสีแดงสดและผนังสีน้ำตาลแดง brown sugar ทำให้เคร่งครึมจัดจ้าน และเพิ่มความฉูดฉาดที่ทำให้ภาพรวมของห้องดูอ่อนโยนขึ้น ด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์และพรมในโทนสีสันแบบพาสเทลสนับสนุนอีกแรง
บ้านหลังนี้มีขนาดใหญ่ เติมเต็มทุกฟังก์ชั่นการใช้สอยที่สะดวกสบาย ออกแบบโครงสร้างให้รับกับทิศทางลมและแดดอย่างชาญฉลาด ลดการใช้พลังงานที่เกินความจำเป็น ที่สำคัญคือการตกแต่งแบบพาสเทลและเฟอร์นิเจอร์วินเทจที่มีอิทธิพลจากยุค 1960’s – 1980’s ที่ชวนให้คิดถึงกลิ่นอายทรงสเน่ห์ของความเบ่งบานทางวัฒนธรรม และคงไม่แปลกถ้าหากเราจะนั่งอ้อยอิ่งอย่างเหม่อลอยระหว่างเปิดแผ่นเสียงของราชาเพลงป๊อบอย่างไมเคิล แจ็คสัน คลอเคล้ากับรสชาติของยุคสมัยเก่าจนทำให้เราหลงลืมวันและเวลา และอยากจะใช้ชีวิตอยู่ใน บ้าน หลังนี้ตลอดไป
