รีโนเวทโกดัง
โกดังเก่าถ้าทำเป็นบ้านจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ผู้เขียนเองยังนึกภาพไม่ออก เพราะโกดังที่เคยเห็นก็ดูปิดทึบไปเสียทุกด้านแทบจะไม่มีหน้าต่างให้บ้านหายใจ แล้วจะกลายมาเป็นที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบายได้อย่างไร แต่ความสงสัยก็กระจ่างขึ้นได้เมื่อได้เห็นอาคารโมเดิร์นรูปทรงสี่เหลี่ยม Facade ไม้ระแนงที่ดูโปร่งสบายหลังนี้ เพราะได้สถาปนิกจาก Studio David Thulstrup เข้าช่วยปรับปรุงทั้งตัวอาคารและการจัดสรรพื้นที่ทั้งภายนอก-ภายใน ที่แห่งนี้จึงเต็มไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามราวกับมองผ่านกล้องถ่ายรูปในทุกมุม อยากเห็นข้างในกันหรือยังครับว่าเบื้องหลังไม้ระแนงนี้จะมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง เข้าไปหาคำตอบด้วยกันเลยครับ
ออกแบบ : Studio David Thulstrup
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านที่เคยเป็นคลังเก็บสินค้านี้ตั้งอยู่ในเมือง Islands Brygge กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ค เจ้าของบ้านเป็นช่างภาพชาวเดนมาร์ก Peter Krasilnikoff เขาตัดสินใจซื้อโกดังมาทำเป็นที่อยู่อาศัย และไว้วางใจให้ Studio David Thulstrup เข้ามาดูแลการปรับปรุงอาคาร โดยมีโจทย์ว่าต้องการเปิดให้บ้านโล่ง คงผนังอิฐเดิมไว้บางส่วนแล้วตกแต่งเพิ่มเติมให้เข้ากันกับของเดิม เท่านั้นยังไม่พอยังจะต้องสามารถมองเห็นสวนได้จากทุกมุมของบ้าน สถาปนิกจึงออกแบบบ้านโดยเน้นความโปร่ง เลือกบริเวณจัดพื้นที่สวน และใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ มาประสานเข้าด้วยกับผนังอิฐได้อย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นไม้ เหล็ก ปูน หรือหินขัด
ด้วยความที่ตัวอาคารเก่าเป็นโรงเก็บของ ดังนั้นช่องแสง ช่องหน้าต่างจึงมีน้อย สิ่งที่สถาปนิกทำ คือ เปิดบ้านให้ดูโปร่งและสว่างที่สุด ด้วยการทำช่องแสงเป็นผนังกระจกโดยรอบ เพื่อให้อาคารสามชั้นได้รับแสงจากธรรมชาติได้เต็มที่ในทุกชั้น ห้องกระจกนี้หันหน้าเข้าหาลานกลางบ้าน ทำให้บ้านเป็นโถงกระจกตรงศูนย์กลางของบ้าน
ผนังกระจกรอบด้านนอกจากเป็นช่องทางในการรับแสง ให้ภายในอาคารสว่างโปร่งโล่งและสว่างแล้ว ยังเปิดมุมมองของอาคารออกรับบรรยากาศสดชื่นของคอร์ทกลางบ้านที่ปลูกต้นไม้เขียว ๆ ตามแบบป่าสไตล์สแกนดิเนเวียนไว้เต็มบริเวณ Peter เจ้าของบ้านอยากได้สวนในบ้านที่สามารถมองเห็นได้ง่ายไม่ว่าจะอยู่ที่ชั้นไหน การจัดสวนเอาไว้ใจกลางบ้านแบบนี้นับเป็นการตอบโจทย์ที่ชาญฉลาด
วัสดุที่ใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างและตกแต่งภายในหลัก ๆ เลือกใช้ปูนเปลือย ไม้ สลับกับงานเหล็ก ที่ให้ความรู้สึกเข้ม ขรึม หนักแน่น ซึ่งถ้ามีมากเกินไปจะทำให้ตัวบ้านรู้สึกแข็งกระด้าง สถาปนิกจึงเติมความสมดุลย์ด้วยการเพิ่มความโปร่งบางจากกระจก และความพริ้วไหวของผ้าม่านเพื่อเพิ่มความรู้สึกอ่อนโยนให้กับตัวบ้าน
บันไดทำจากตะแกรงเหล็กปั๊มรูกลมสีดำลุคโมเดิร์นเข้ากันได้ดีกับสีเรียบเย็นของพื้นปูนขัดมัน ความโปร่งของแผ่นเหล็กทำให้บริเวณนี้ไม่เกิดความอึดอัด
ทริคที่สำคัญในการสร้างสีสันให้ห้องคือ ไม่ต้องวางเฟอร์นิเจอร์เยอะ ในพื้นที่โล่ง ๆ เลือกวางเก้าอี้หรือโต๊ะสีสดดีไซน์เก๋ ๆ ชิ้นเด่น ๆ วางแค่ชิ้นเดียวก็ให้ความรู้สึกเต็มให้กับพื้นที่ ถ้าต้องการความหรูหราก็เพียงแค่เติมผ้าม่านหรือของใช้สีม่วงเข้มเข้าไปก็ช่วยเพิ่ม look หรูได้แล้ว
ในแต่ละชั้นจะมีจำนวนช่องผนังกรุกระจก และขนาดที่ต่างๆ กันขึ้นอยู่กับความต้องการแสงของแต่ละพื้นที่ ภายในยังตกแต่งด้วยกระจกเงาที่จะสะท้อนแสงทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ สำหรับจุดเด่นของการออกแบบตกแต่งภายใน จะเน้นความโล่งของพื้นที่แนวนอน โดยใช้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินชิดติดผนังเสริมด้วยเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว
โดยส่วนตัวปีเตอร์ชอบผนังอิฐ ซึ่งเป็นงานก่อสร้างของอาคารเดิมอยู่แล้ว จึงอยากให้เก็บไว้แล้วแต่งเติมในส่วนอื่น ๆ ของบ้านให้เข้ากัน ส่วนที่เป็นของเก่าที่เห็นชัด ๆ คือ ผนังครัวโชว์แนวอิฐ แต่ความดิบของผนังก็ถูกเบรคด้วยหน้ากากไม้แบบพื้นเมืองที่ติดอยู่เป็นจังหวะ ส่วนด้านล่างผนังเป็นบริเวณห้อยเครื่องครัว กลางห้องเป็นไอส์แลนด์ทำจากหินขัด ซึ่งมีความทนทานสูง ดูแลรักษาง่าย ลวดลายสีสันสวย ความต่างของพื้นผิววัสดุที่ให้อารมณ์แตกต่างรวมอยู่ในพื้นที่เดียว ทำให้ห้องครัวที่นี่แตกต่างจากครัวไหน ๆ ที่เคยเห็น
ห้องน้ำธีมสีขาว – เทา ผนังห้องน้ำและซิงค์ใช้หินขัดเข้ากันกับไอส์แลนด์ในครัว สีขาวและกระจกทำให้ห้องน้ำดูสะอาดตา สว่างและกว้างขึ้น ห้องน้ำแยกส่วนใช้งานชัดเจนในส่วนแห้งและโซนเปียกที่กั้นพื้นที่ด้วยกระจกนิรภัย
ห้องนอนเป็นส่วนที่ได้อารมณ์นุ่มนวลที่สุด ด้วยแสงสว่างที่ลอดผ่านผ้าม่านสีอ่อน ๆ และงานไม้ ทำให้ที่นี่เหมาะแก่การนอนพักผ่อนให้เต็มตื่นในวันสบาย ๆ เป็นที่สุด
สวนที่ชั้นล่างแม้จะให้ความเป็นธรรมชาติกระจายทั่วบ้านแล้ว แต่สำหรับที่นี่ต้องมีมากกว่า สถาปนิกจึงออกแบบให้มีพื้นที่ชั้นบนสุดของอาคารเป็นสวนพร้อมเก้าอี้นั่งเล่น Out door ให้สมาชิกในบ้านสามารถนั่งรับลมและวิวมุมสูงสบาย ๆ บนชั้นสามได้อีกต่อหนึ่ง
การปรับปรุงอาคารเก่าเพื่ออยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นบ้าน โรงงาน โกดังสินค้า ต้องรู้ถึงจุดเด่น จุดด้อยของแต่ละอาคารและนำมาผสานกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย เมื่อทราบความต้องการแล้วก็ลงมือทำการกำจัดจุดด้อยออกไป เพื่อให้บ้านเป็นบ้านที่เหมาะกับผู้อยู่มากที่สุดนั่นเองครับ
