รีโนเวทบ้านเก่า

20 ปี ! หากเป็นคนเราก็คงกำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่นเบ่งบานสดใส แต่ถ้าเป็นบ้านโดยเฉพาะบ้านที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างดีสภาพคงดูไม่จืด เหมือนเช่นบ้านนี้ที่เจ้าของบ้านซื้อมาเพื่อปรับปรุงอยู่อาศัย ซึ่งเจ้าของบ้านต้องการให้เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด จึงเสนอแนวคิด ควบคุมการทำงาน และเลือกเฟอร์นิเจอร์เอง เพื่อให้บ้านออกมาตรงกับการออกแบบ จึงเริ่มคุยแนวทางออกแบบตั้งแต่เดือนเมษายนปีพ.ศ. 2563 และลงมือปรับปรุงในเดือนสิงหาคม หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็มาดูผลของความสุขที่พร้อมจะแบ่งปัน ซึ่งเจ้าของบอกว่า “ถึงจะไม่ใช่วิลล่าหรูแต่ก็ทําให้เรารู้สึกถึงความเป็นบ้านของเราได้” ลองตามมาดูด้วยกันว่าบ้านอายุกว่า 20 ปีจะกลายเป็นบ้านที่น่ารักและอบอุ่นได้อย่างไรครับ

ออกแบบ: Wai Loon & Katherine Soh
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านก่อนปรับปรุง เป็นทาวน์เฮาส์สองชั้นมีมุขด้านหน้า หลังคาทรงจั่วมุงกระเบื้องหลังคาคอนกรีตสีแดง ฝ้าหลังคาชั้นบนเสียหายจากการรั่วซึม ประตูหน้าบ้านเหล็กเสียหาย ทางลาดคอนกรีตก่อนเข้าบ้านเป็นคราบราดำไม่สวยงาม ผนังสีลอกล่อนดูทรุดโทรมตามกาลเวลา แต่โครงสร้างโดยรวมและหลังคา 80 % ยังอยู่ในสภาพดี เจ้าของจึงพยายามคงสภาพเดิมให้มากที่สุดเพื่อประหยัดงบประมาณ

บ้านหลังปรับปรุง บริเวณหน้าบ้านเปลี่ยนวัสดุปูพื้นจากคอนกรีตเปลือยเป็นกระเบื้องสีอ่อน ๆ หลังคามุขด้านซ้ายเปลี่ยนกระเบื้องแผ่นที่เสียหายออกซ่อมแซมจุดรั่วซึมแล้วทาสีใหม่เป็นสีเทา แก้ไขจุดรั่วซึมเปลี่ยนฝ้าชั้นบนและเพิ่มรางน้ำฝนที่ดูเข้ากันกับบ้าน ผนังภายนอกทั้งหมดทาสีขาวสะอาดตา ตัดเส้นสายตาด้วยขอบอาคารสีเทาและกรอบประตูหน้าต่างสีดำ

จุดที่เปลี่ยนไปมากที่สุดคือ มุขด้านหน้าถูกตัดเสาที่เป็นตัวอุปสรรคออก ทำให้เกิดพื้นที่ว่างหน้าบ้านที่ดูกว้างขึ้น ตำแหน่งประตูและหน้าต่างถูกเปลี่ยน โดยรื้อหน้าต่างเดิมออกทุบขยายให้ประตูย้ายมาอยู่ทางขวามือ ใช้ประตูกระจกบานเลื่อน 3 บานแทนประตูบานคู่แบบเดิม ทำให้มีพื้นที่ใช้งานด้านหน้าเพิ่ม ส่วนหลังคาด้านซ้ายรื้ออกใส่ชายคาเรียบ ๆ ทำให้บ้านดูโมเดิร์นและใช้งานภายนอกภายในได้ไหลลื่น และเข้ากับไลฟ์สไตล์มากขึ้น

ประตูหน้าบ้านเปลี่ยนจากบานเปิดที่กินพื้นที่ด้านหน้าและหลังประตูมาเป็นประตูบานเลื่อนสีดำเส้นสายโมเดิร์น โวนหน้าบ้านเดิมที่เต็มไปด้วยคอนกรีตทำให้บ้านร้อนและดูแข็งกระด้าง เจ้าของบ้านต้องการเพิ่มชีวิตชีวาให้บ้านแต่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล จึงปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาที่ใบใหญ่ไม่ร่วงมากและไม่ต้องบำรุงรักษาเป็นพิเศษ ส่วนพื้นปูด้วยหญ้าเทียม ซึ่งเป็นวิธีพรางตาให้บ้านเหมืนอมีสนามหญ้าเขียว ๆ แต่ไม่ต้องรดน้ำหรือตัดหญ้า บ้านก็สดชื่นขึ้นได้แบบง่าย ๆ

ภายในหลังปรับปรุง เพิ่มความรู้สึกอบอุ่นด้วยการรื้อเปลี่ยนกระเบื้องปูพื้นเป็นวัสดุลายไม้ ติดตั้งไฟใช้งานภายในใหม่จากหลอดฟลูออเรสเซนต์ เป็นไฟดาวน์ไลท์ฝังฝ้าเพดานที่ให้สีนุ่มนวลขึ้น วางชุดโซฟาสีครีมอ่อน ๆ เข้ากับบรรยากาศที่ต้องการความผ่อนคลาย จากมุมนี้จะเห็นว่า เมื่อย้ายประตูแล้วจะเปิดเชื่อมต่ออกไปใช้งานนอกบ้านง่ายขึ้นกว่าเดิมไม่ต้องเดินอ้อมหน้าบันได และสามารถกำหนดมุมมองของบ้านได้ดีขึ้น ขณะที่นั่งเล่นอยู่ในบ้านก็มองเห็นวิวและความเคลื่อนไหวนอกบ้านได้ชัดเจน

พื้นที่ใช้งานชั้นล่างเดิมจะมีผนังแบ่งกั้นแยกครัวออกไปอยู่ด้านหลัง ซึ่งทำให้บ้านดูแคบและไม่มีแสงสว่าง ทีมงานจึงทุบรื้อผนังออกเปิดเชื่อมให้กลายเป็นห้องโถงใหญ่ ๆ ใช้งานได้ลื่นไหลขึ้น ในส่วนครัวเปลี่ยนมาใช้ผนังกระจก ช่วยกำหนดขอบเขตการใช้งานให้แยกออกจากกันแต่ไม่รู้สึกว่าถูกตัดขาด ทั้งโทนสี การจัดพื้นที่ ไฟและวัสดุ ทำให้รู้สึกว่าบ้านหลังปรับปรุงเรียบง่าย มีประสิทธิภาพ และสะดวกสบาย โดยยังคงโครงสร้างบ้านเดิมไว้

ครัวโทนสีขาวตกแต่งวัสดุบานลายไม้ คุม Mood&Tone ให้เข้ากันได้กับบ้านทั้งหลัง แยกโซนนิ่งเตาปรุงอาหารไว้ในห้องกระจกที่มีช่องแสงและช่องลมช่วยระบายกลิ่นควัน จึงไม่รบกวนการใช้ชีวิตภายในบ้าน ในครัวเบาที่มีตู้อบและแพนทรีก็สามารถช่วยกันเตรียมของและทานอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ร่วมกันได้ในยามเช้า

อีกจุดหนึ่งที่คุณแม่บ้านสวนใหญ่ชอบใจ คือ โซนซักล้างที่มีพื้นที่สำหรับตากผ้าแบบส่วนตัวโดยที่ไม่ขาดแสงจากธรรมชาติ เพราะเจ้าของบ้านใช้วัสดุหลังคาโปร่งแสงที่ยอมให้แสงผ่านได้ จึงไม่ต้องกังวลกับทัศนียภาพที่จะทำลายความสวยงามของบ้าน เท่านั้นยังไม่พอขอปูพื้นด้วยหญ้าเทียมให้ดูสดชื่นเหมือนมีสวนอยู่ในบ้าน