บ้านชั้นเดียว 5 ห้องนอน

ความแตกต่างทางอายุ ความแตกต่างในวัยของสมาชิกในครอบครัว ถือเป็นโจทย์สำคัญที่ต้องนำมาขบคิดถึงความเหมาะสม ทั้งการจัดฟังก์ชัน การจัดพื้นที่ใช้สอย ตลอดจนถึงการจัดบริบทรอบด้านให้สอดรับกับสมาชิกทุก ๆ คน เพราะบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่อาศัยเพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น หากทำการคิดให้รอบคอบตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้น ย่อมสร้างบริบทการอยู่อาศัยให้ลงตัวและสุขสบายครอบคลุมกับทุก ๆ คนได้อย่างแน่นอน

ออกแบบ : Tô Hữu Dũng
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้านชั้นเดียว 5 ห้องนอนหลังนี้มีชื่อว่า Honey’s House มีสมาชิกในครอบครัว 7 คน แบ่งเป็น 3 วัยด้วยกัน คือ วัยสูงอายุ วัยกลางคน และวัยเด็ก ก่อนจะสร้างบ้านได้เจอปัญหามากมายจนทำให้การอยู่อาศัยไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร ทั้งเรื่องความเสื่อมโทรมของบ้านหลังเก่า ความไม่เพียงพอของพื้นที่ใช้สอย ปัญหาน้ำท่วมเมื่อฝนตกหนัก รวมถึงฝุ่นและเสียงที่ดังจากรถที่สัญจรผ่านไปมา ประเด็นเหล่านี้นับเป็นโจทย์สำคัญที่สถาปนิกต้องทำการแก้ไขให้บ้านหลังใหม่ไม่กลับไปสู่สภาวะที่ยุ่งยากเช่นเดิม

เมื่อเจ้าของบ้านได้ทำการพูดคุยกับสถาปนิกเรียบร้อย สรุปได้ว่าบ้านหลังใหม่ที่สร้างขึ้นจะเป็นอาคารชั้นเดียวเพื่อให้สอดรับกับการใช้งานของคุณปู่คุณย่าและเด็ก ๆ ที่อยู่ในวัยซุกซน ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติและง่ายต่อการออกมาเคลื่อนไหวในพื้นที่กลางแจ้ง

เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูฝน จึงทำการยกพื้นบ้านให้สูงขึ้นจากระดับพื้นดิน ป้องกันน้ำท่วมรวมถึงป้องกันความชื้นได้เป็นอย่างดี ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องเสียงและฝุ่นควันจากรถที่ผ่านมาผ่านไปนั้น เนื่องด้วยลักษณะของที่ดินค่อนข้างลึก สถาปนิกจึงเว้นพื้นที่ด้านหน้าจากถนนประมาณ 6.5 เมตร และดีไซน์ให้มีโรงจอดรถกั้นไว้อีกชั้น อีกทั้งยังทำรั้วกำแพงค่อนข้างปิดทึบ มีการปลูกต้นไม้ใหญ่ตามริมรั้ว ให้ธรรมชาติช่วยกรองฝุ่น กรองแสง

ช่องเปิดของอาคารนั้นเน้นไปทางทิศตะวันออก ทำให้ได้รับแสงสว่างในระดับที่พอเหมาะพอดีตลอดทั้งวัน แสงไม่แรงจนเกินไป ภายในบ้านจึงไม่ร้อนอบอ้าว และได้ทำเว้นพื้นที่สำหรับจัดสวนไว้ทางทิศนี้ด้วย ทุกครั้งที่มองออกมาจะพบกับสวนสีเขียวที่แสนสดชื่นอยู่เสมอ

โซนแรกของบ้านคือห้องแฟมิลี่หรือพื้นที่ส่วนรวมของครอบครัว จัดผังเรียบง่ายและปลอดโปร่งแบบ Open Plan มุมนั่งเล่น ทานอาหารและครัวเชื่อมโยงถึงกัน ออกแบบห้องให้มีลักษณะคล้ายกับศาลานั่งเล่น ผนังกระจกที่เปิดออกได้กว้าง สามารถรับอากาศธรรมชาติได้ตามต้องการ วันที่ฝนพรำจะได้บรรยากาศชุ่มฉ่ำ ส่วนวันที่อากาศหนาวก็สามารถปิดได้เพื่อให้ภายในอบอุ่น

การตกแต่งภายในบ้านค่อนข้างมีความทันสมัยและมีความลักซ์ชัวรี่แบบเบา ๆ เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นได้คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน มีการจูนแต่ละโซนด้วยโทนสีในเฉดเดียวกัน เช่น โซฟาหนังนั่งเล่นสีเขียวเข้มจูนเก้าอี้นั้งทานอาหาร และเลือกเคาน์เตอร์ครัวสีเทา ทำให้ภายรวมของห้องมีความเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีส่วนไหนเลยที่สร้างความขัดตา

ห้องนอนทั้ง 5 ห้องเรียงตัวกันอยู่โซนด้านหลังทั้งหมด เพื่อให้พื้นที่การพักผ่อนมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด โดยแต่ละห้องทำการตกแต่งให้สอดคล้องไปกับวัยและเพศของผู้เป็นเจ้าของ ห้องนอนของเด็ก ๆ เน้นความสดใสน่ารัก ห้องนอนของผู้ใหญ่เน้นความอบอุ่นนุ่มลึก

แต่ละห้องจะมีระเบียงที่สามารถเดินออกไปชมสวนได้อย่างใกล้ชิด แต่ขณะเดียวกันก็มีฟาซาดเหล็กที่เลื่อนเปิดปิดได้เป็นตัวป้องกันความปลอดภัย พรางสายตาและบดบังแสงแดดอีกชั้นอยู่ด้านนอก เสมือนเป็นเหล็กดัดของบ้าน แต่มีการดีไซน์ที่สมัยใหม่และไม่รู้สึกว่าถูกปิดกั้นมากกว่าเหล็กดัดในอดีต

ห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่ ฟังก์ชันภายในเหมือนกับห้องอื่น ๆ มีมุมนั่งทำงานเล็ก ๆ ในห้อง วันไหนที่ต้องการคิดงานอย่างมีสมาธิแค่หลบเข้ามาในห้องนอน ไม่ต้องออกจากบ้านไปหาคาเฟ่นั่งทำงานที่ไหน

ฟาซาดเหล็ก เมื่อทำการเปิดออกทุกห้องนอนจะมองเห็นสวนสีเขียวข้างบ้านได้อย่างเต็มตา อารมณ์เหมือนกำลังพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทเลยทีเดียว

สร้างทางเดินจากบ้านไปสู่สวนอย่างลื่นไหล แผ่นคอนกรีตที่ค่อย ๆ ไล่ระดับแบบขั้นบันได เชื้อเชิญให้อยากลงไปเหยียบย้ำพื้นดินพื้นหญ้า อีกทั้งยังมีลานระเบียงกว้าง ๆ ไว้ให้นั่งพักชมบรรยากาศยามเช้าและยามค่ำคืนอีกด้วย

คุณภาพของชีวิตดีขึ้นได้จากการแก้โจทย์ปัญหาอย่างชาญฉลาด ทุกความยุ่งยากที่เคยประสบมาจะไม่พบเจอในบ้าน Honey’s House อีกต่อไป เพราะสถาปนิกได้ดีไซน์มาอย่างรอบคอบ เหมาะสม รวมทั้งมีความยืดหยุ่นคำนึงถึงการใช้งานในปัจจุบันไปจนถึงอนาคต สร้างความสุขระยะยาวให้กับสมาชิกทั้ง 7 คนของครอบครัวในทุก ๆ วัน