ปรับปรุงทาวน์เฮาส์ให้โปร่งและสว่าง
โครงการ A&A นี้เป็นโปรเจ็คการปรับปรุงทาวน์เฮาส์ที่สร้างติด ๆ กันในสิงคโปร์ตะวันออก ท่ามกลางตึกแถวและบ้านพักอาศัยสำหรับครอบครัวแบบดั้งเดิม ด้วยสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้บ้านนำเสนอออกมาในรูปแบบโมเดิร์นด้วยเส้นสายที่คมชัดขึ้น แต่ไม่ได้สร้างความขัดแย้งเพราะวัสดุที่มองเห็นได้ในบริเวณกว้างคือไม้ ผสมผสานสไตล์คลาสสิกและร่วมสมัยอย่างพิถีพิถัน โดยสถาปนิกได้แรงบันดาลใจจากอดีตพร้อมๆ กับปรับเปลี่ยนคุณลักษณะต่างๆ ให้เหมาะกับการใช้งานสมัยใหม่
ออกแบบ : ONG&ONG Pte Ltd
ภาพถ่าย : Derek Swalwell
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านหลังนี้มีพื้นที่โดยทั่วไปประมาณ 80.2 ตารางวา แน่นอนว่าที่ดินทุกตารางนิ้วต้องถูกใช้อย่างดี เพื่อทำให้บ้านหลังนี้สวยงาม แต่ด้วยที่ตั้งสร้างขึ้นในเขตที่อยู่อาศัยแบบผนังติดกันใกล้เคียงมากมายอยู่รอบตัว ดังนั้นนักออกแบบจึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษเช่นกัน จะเห็นจากการสร้างกำแพงขนาดใหญ่ประตูไม้สูงๆ รองรับ ในขณะที่ตัวบ้านอยู่ลึกเข้าไปค่อนข้างมาก และยังมีที่จอดรถเป็นกันชน สิ่งเหล่านี้จะกันไม่ให้คนแปลกหน้าแอบเข้ามารบกวนความเป็นส่วนตัวได้ส่วนหนึ่ง
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
แม้ว่ารอบบ้านแทบจะไม่มีพื้นที่ความเขียวขจีเลย แต่หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติก็จะหาวิธีจัดจนได้ ดังนั้นจากประตูหน้ารั้วบ้านจะแบ่งพื้นที่ข้างทางเดินรถเป็นทางเดินกรวดที่มีแผ่นทางเดินรูปทรงเรขาคณิตวางเรียงยาวเข้ามาแทรกแซมด้วยต้นไม้ใบเขียวนานาชนิด โดยจุดสนใจของทางเข้าคือต้นลีลาวดีที่ย้ายมาปลูกไว้แล้วแผ่ขยายไปทั่วพื้นที่สีเขียวให้ความรู้สึกสดชื่นตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่ภายใน
จากทางเดินในสวนจะนำทางเข้ามาสู่ประตูบ้าน ซึ่งจะเห็นว่าผนังและประตูแปลกกว่าบ้านหลังอื่นๆ เพราะแทนที่จะเป็นผนังก่อปิดทึบหรือใช้ประตูบานเลื่อนกระจก แต่เจ้าของบ้านเลือกใช้ประตูกระจกบานหมุน (Pivot door) เต็มพื้นที่ด้านหน้า เพราะสามารถเลือกองศาในการเปิดได้หลากหลาย และยังรับแสงจากด้านหน้าได้แบบเต็มพิกัด เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเปลี่ยนความรู้สึกเป็นอบอุ่น เมื่อสัมผัสพื้นไม้โอ๊คลายก้างปลาที่เรียงรายไปเต็มห้องนั่งเล่นหลัก
ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นต่างระดับขึ้นไปสองสเต็ป ซึ่งจะบ่งบอกการเปลี่ยนฟังก์ชันเป็นโต๊ะทานเข้าและห้องครัว ตรงบริเวณนี้จะเห็นผนังเดิมที่ก่อด้วยอิฐที่ยังคงสภาพไว้ แต่กระเทาะเนื้อปูนซีเมนต์ที่ฉาบทับออก เผยให้เห็นแถวแนวก่ออิฐแบบหยาบๆ แล้วทาสีขาวทับ ทำให้ผนังมี Texture ที่นำเสนอความไม่สมบูรณ์ และให้ความรู้สึกแบบอินดัสเทรียลที่ตัดกับคานสีดำขนาดใหญ่อย่างน่าสนใจ
ห้องครัวและห้องทานอาหารทำผังแบบเปิดโล่ง เพื่อให้ทาวน์เฮาส์ที่ค่อนข้างแคบดูกว้างและมีความต่อเนื่อง ทั้งมิติทางพื้นที่และมิติทางสายตา ส่วนของชั้นล่างจะเห็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความทันสมัยเข้าด้วยกัน อาทิ การใช้กระเบื้องคลาสสิก ในขณะเดียวกันก็มีโคมไฟแขวนแบบสมัยใหม่ ห้องครัวตกแต่งด้วยไม้ แต่บางส่วนถูกทำให้ดูหรูหรามีระดับขึ้นด้วยวัสดุพื้นผิวเงาสีบรอนซ์มากมายที่แทรกอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ และบันไดที่มีผนังกันตกกระจกตาข่าย
ลึกเข้ามาจะเป็นพื้นที่บันได ซึ่งเปลี่ยนบรรยากาศของบ้านทาวน์เฮาส์เดิมอย่างสิ้นเชิง ด้วยความที่อาคารแบบนี้จะมีผนังติดกับเพื่อนบ้านสองด้าน ทำให้ช่องแสงหลักแค่ด้านหน้ากับด้านหลัง ในระหว่างชั้นยังเทพื้นเพดานปิดกั้นทางเดินแสงด้วย เพื่อแก้ปัญหานี้สถาปิกจึงเน้นความสูงของพื้นที่ภายใน โดยรื้อพื้นที่ตรงกลางชั้นสองออกและเชื่อมเข้าด้วยกันที่ด้านหนึ่งด้วยแผ่นพื้นกระจกหนา วิธีนี้ทำให้บ้านมีความเชื่อมต่อในแนวตั้ง แล้วใส่ช่องแสงสกายไลท์เหนือบันได ทำให้ภายในได้รับแสงเข้ามาตรงๆ จากหลังคา นอกจากนี้ยังทำให้การไหลเวียนอากาศดีขึ้นด้วย
บันไดกลายเป็นจุดเด่นของบ้าน จากการวางรูปแบบหักกลับมีชานพักใหญ่ๆ ระหว่างชั้นเชื่อมต่อสูงขั้นไป ความใสของแผงกันตกทำให้เห็นท้องบันไดซิกแซกสวยงาม และยังทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง และยังมีงานตกแต่งชิ้นสำคัญที่ต้องโฟกัสสายตา คือ ผนังอิฐบล็อกช่องลมลายสี่เหลี่ยมสูงจากชั้นสองและสามขึ้นไปถึงช่องแสงบนหลังคาขนาดใหญ่ ทำให้เกิดจุดตัดกับบันไดที่บุด้วยตาข่ายที่นำไปสู่ห้องนอนใหญ่ที่ชั้นบนสุด ดูเหมือนเป็นงานประติมากรรมชิ้นใหญ่ที่จัดแสดงในแกลเลอรี่
ห้องนอนสองห้องจะอยู่ทางด้านหลังของบ้าน โดยมีพื้นที่โถงทางเข้าด้านหน้าห้องนอนที่สาม และพื้นที่ระเบียงที่หันหน้าไปทางถนน ทุกห้องเน้นตกแต่งด้วยงานไม้โทนสีหลัก ๆ ยังคงธีมน้ำตาลและสีบรอนซ์ สีขาว เทา ตัดเส้นสายตาด้วยสีดำ สำหรับห้องนอนใหญ่จะสามารถมองเห็นสวนหลังบ้านและบริเวณโดยรอบได้ มีระบบกระจกเงาสร้างสรรค์ที่แยกพื้นที่ห้องนอนหลักออกจากห้องน้ำและห้องแต่งตัว
องค์ประกอบหนึ่งของบ้านที่น่าสนใจ คือ ประตูบานเลื่อนแบบซ่อนเก็บเข้าผนัง (Pocket Door) ช่วยให้ห้องน้ำหลักที่ขยายออกไปมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยพื้นห้องเป็นหินอ่อนลายหกเหลี่ยมสีเทาและสีขาวกลับด้าน การออกแบบขั้นสุดท้ายยังรวมถึงพื้นที่ระเบียงรวมที่อยู่ด้านนอกห้องนอนหลักอีกด้วย
ขั้นสุดท้ายของการออกแบบ สถาปนิกยังได้นำความยืดหยุ่นมาใช้ผ่านบันไดวนสีดำบริเวณระเบียงหลังบ้าน ที่นำไปสู่พื้นที่ดาดฟ้าที่เพิ่งเปิดตัวใหม่
แปลนบ้าน