Active AIRflow™ System

เพิ่มอากาศถ่ายเทให้กับบ้าน เพื่อสภาวะอยู่สบายในการพักอาศัย

แนวโน้มของอากาศโดยรวมมีอุณหภูมิสูงขึ้นทุก ๆ ปี การออกแบบบ้านที่ดีในยุคปัจจุบันจึงต้องคำนึงถึงกระบวนการที่จะสามารถช่วยให้อุณหภูมิภายในบ้านลดลงได้ ปัจจุบันผู้จำหน่ายวัสดุก่อสร้างหลาย ๆ แบรนด์ จึงเลือกที่จะคิดค้นนวัตกรรมที่สามารถช่วยปรับอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นขึ้น ทั้งวัสดุหลังคา ฉนวนกันร้อน ผนังอิฐมวลเบา รวมทั้งด้านการออกแบบบ้านที่ให้สอดคล้องกับทิศทางลมและแสงแดด กลายเป็นสิ่งที่คนสร้างบ้านสมัยใหม่ให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น

แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดข้อจำกัดด้านดีไซน์ โดยเฉพาะบ้านที่ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองที่ไม่สามารถออกแบบบ้านให้เปิดโปร่งได้ เพราะอาจมีผลต่อความปลอดภัยด้านชีวิตและทรัพย์สิน ตรงจุดนี้เองทาง SCG LIVING TECH จึงได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ Active AIRflow™ System อีกหนึ่งนวัตกรรมที่ช่วยให้อุณภูมิภายในบ้านเย็นขึ้นได้

สนับสนุนโดย : SCG LIVING TECH

ปัญหาของบ้านทั่วไป

สำหรับบ้านเรือนทั่วไป โดยเฉพาะภายในตัวเมืองที่แวดล้อมไปด้วยป่าคอนกรีตซึ่งมีอากาศร้อนอบอ้าวมาก ช่วงกลางวันสมาชิกในครอบครัว ต่างออกจากบ้านตั้งแต่เช้า ลูก ๆ ออกไปเรียน คุณพ่อ คุณแม่ ออกไปทำงาน บ้านจึงถูกปิดทั้งประตูและหน้าต่างไว้อย่างมิดชิดเพื่อป้องกันโจรลักขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน

โดยปกติอากาศจะร้อนมากเป็นพิเศษในช่วงกลางวัน แสงอาทิตย์สาดส่องความร้อนผ่านผนังและหลังคา จากนั้นความร้อนค่อย ๆ ถูกถ่ายเทเข้าสู่ภายในบ้าน เป็นผลให้ภายในบ้านเกิดการสะสมความร้อน ประจวบกับบ้านถูกปิดไว้อย่างมิดชิด ไม่มีช่องระบายถ่ายเทอากาศออก เมื่อสมาชิกกลับเข้ามาภายในบ้านช่วงเย็น ต้องพบกับมวลอากาศร้อนที่ผ่านการสะสมมาตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังส่งผลให้เครื่องปรับอากาศเย็นช้า ทำงานหนักขึ้น กินไฟสูงมากกว่าปกติครับ

ส่วนบ้านที่ติดตั้ง Active AIRflow™ System แตกต่างจากบ้านทั่วไป เนื่องด้วยระบบดังกล่าวมีกลไกที่ช่วยให้เกิดการระบายอากาศได้ดี โดยประตูหน้าต่างยังคงปิดไว้อย่างมิดชิดเช่นเดิม ระบบจะทำงานอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิภายในบ้านถึงจุดที่กำหนดไว้ ส่วนช่วงเย็นระบบจะยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการระบายอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ และจะหยุดทำงานในช่วงเวลากลางคืนหรือเมื่ออุณหภูมิในบ้านลดลงจนถึงระดับที่กำหนดไว้ และหากติดตั้ง Active AIRflow™ System ร่วมกับฉนวนกันความร้อนที่ฝ้าเพดาน และติดตั้งผนัง Qcon ก็จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานซึ่งกันและกัน นอกจากนี้กลไกดังกล่าวยังช่วยให้ภายในบ้าน เกิดสภาวะอยู่สบาย ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าปกติครับ

บ้านลักษณะไหน ที่ติดตั้ง Active AIRflow™ System ได้

สำหรับการติดตั้ง Active AIRflow™ System สามารถติดตั้งได้ทั้งบ้านใหม่และบ้านเก่า เป็นบ้านเดี่ยวที่สร้างเองหรือบ้านโครงการจัดสรร แต่ทั้งนี้กรณีบ้านโครงการจัดสรรควรต้องสอบถามทางวิศวกรโครงการก่อนว่า ตัวบ้านใช้โครงสร้างผนังแบบใด หากเป็นผนังก่ออิฐมอญ อิฐมวลเบาสามารถติดตั้งได้ แต่กรณีเป็นผนัง Precast หากต้องการติตดั้งระบบ ลูกค้าจะต้องจัดเตรียมช่องเติมอากาศติดผนังเอง อาจเป็นรูปแบบของหน้าต่างบานกระทุ้ง หรือช่องเปิดอื่น ๆ ตามความเหมาะสม

สำหรับแบบแฝด สามารถติดตั้งได้เฉพาะบ้านแฝดที่มีผนังแยกอิสระ ไม่ได้ใช้ผนังร่วมกับบ้านข้างเคียง ส่วนบ้านทาวน์เฮ้าส์ ตึกแถว อาคารพาณิชย์ ยังไม่เหมาะกับการติดตั้งระบบ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องตำแหน่งผนังในการติดตั้งอุปกรณ์ รวมถึงการวางผังภายในบ้านที่ไม่เอื้ออำนวยให้อุปกรณ์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

หลังคาบ้าน

รูปทรงหลังคาที่เหมาะสมกับระบบ เป็นหลังคาทรงจั่ว, ปั้นหยา ที่มีความชันหลังคาไม่ต่ำกว่า 17 องศา ส่วนรูปทรงหลังคาอื่น ๆ อาทิ เพิงหมาแหงน, หลังคาโดม, หลังคา Slab ยังไม่เหมาะกับการติดตั้ง Active AIRflow™ System นอกจากนี้การติดตั้งระบบจะมีการเจาะกระเบื้องจากโรงงานเพื่อติดตั้ง SRTV (Solar Roof Tile Ventilator) การเลือกวัสดุหลังคาจึงมีผลกับการติดตั้ง โดยวัสดุหลังคาที่เหมาะสมเป็นกระเบื้องคอนกรีต เอสซีจี รุ่นลอนมาตรฐาน รุ่นเพรสทีจ และรุ่นนิวสไตล์ (ยกเว้นรุ่นนิวสไตล์ รัสทีค และนิวสไตล์ โอเรียนทอล) รวมทั้งกระเบื้องเซรามิก เอสซีจี รุ่น เอกซ์เซลล่า และกระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่น ซิลิกา

ฝ้าเพดาน

รูปแบบฝ้าเพดานสำหรับติดตั้ง Active AIRflow™ System ควรเป็นแบบฉาบเรียบขนานกับพื้น ซึ่งต้องมีพื้นที่ใต้หลังคาที่เหมาะสมกับการติดตั้งชุดระบายอากาศฝ้าเพดาน และชุดระบายความร้อนในโถงหลังคาด้วย หากเป็นฝ้าที่มีความลาดเอียงหรือฝ้าแบบทีบาร์ จะไม่สามารถติดตั้งได้ ส่วนวัสดุที่ใช้ในการทำฝ้าที่เหมาะสมคือแผ่นยิปซั่มบอร์ด หรือแผ่นฝ้าสมาร์ทบอร์ดเท่านั้น เนื่องจากต้องมีการเจาะฝ้าเพื่อติดตั้งพัดลมระบายอากาศ

นับเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการอยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน แต่นอกจาก Active AIRflow™ System แล้ว การสร้างบ้านสมัยใหม่ เจ้าของบ้านจำเป็นอย่างยิ่งที่จะคำนึงถึงหลักการออกแบบที่ช่วยให้บ้านปลอดโปร่ง การเลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติป้องกันความร้อน รวมทั้งการปลูกต้นไม้ จัดสวนรอบบ้าน เพื่อปรับอุณหภูมิบ้านให้เย็นสดชื่น นอกจากจะช่วยบ้านของเราให้เย็นขึ้นแล้วยังช่วยรักษ์โลกทางอ้อมได้อีกด้วย เพียงเท่านี้ผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน ย่อมได้รับความสุข สบายกาย สบายใจ หายใจอย่างเต็มปอดครับ