#หมอกควัน
เรียนรู้วิธีรับมือกับหมอกควันไฟป่า และมลพิษในเมือง
ปัญหาหมอกควันในประเทศไทย เกิดขึ้นได้จาก 2 กรณีหลัก ทั้งเกิดจากการเผาป่า เผาไร่นาเพื่อทำการเกษตร และเกิดจากมลพิษในตัวเมืองใหญ่ ซึ่งสามารถแยกย่อยแหล่งที่มาของมลพิษได้อีกหลายทาง อาทิ เขม่าควันจากรถ, โรงงานอุตสาหกรรม และวิถีการใช้ชีวิตต่าง ๆ แต่ไม่ว่าเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม ปัญหาเหล่านี้ก็กลายเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคม ยากที่จะแก้ไข และหากในวันนี้ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ สิ่งเดียวที่เราทุกคนสามารถทำได้คือการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากฝุ่นละอองเหล่านี้
เพจผู้เขียน : อภิสิทธิ์ สุธาประดิษฐ์
ภาพไฟป่าบนดอยสุเทพ ปี 2556
ก่อนจะหาวิธีรับมือ มาดูกันว่า PM 2.5 คืออะไร
- PM 2.5 คือฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หากนึกภาพไม่ออกว่ามันเล็กขนาดไหน ให้ดึงเส้นผมมา 1 เส้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ ก็ว่าเล็กมากแล้วใช่ไหมครับ แต่ค่า PM 2.5 มีขนาด 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผมเท่านั้น นั่นหมายความว่า ขนจมูกของเรา ไม่สามารถกรองได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นหน้ากากอนามัยทั่วไป ไม่สามารถกรองได้เช่นกัน
ภาพประกอบ : insightshealthassociates.wordpress.com
PM 2.5 ส่งผลอะไรกับชีวิตเรา
- หากผู้อยู่อาศัย สูดอากาศที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าไป ฝุ่นละอองเหล่านี้จะกระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ เข้าสู่กระแสเลือดและแทรกซึมผ่านอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย เป็นเหตุให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ ทั้งโรงมะเร็งปอด อัมพฤกษ์ อัมพาติ หัวใจวาย และโรคอื่น ๆ ด้านระบบทางเดินหายใจ
อ่านข้อมูลแล้ว ดูเหมือนเป็นเรื่องเหลือเชื่อเลยใช่ไหมครับ ไม่แปลกใจที่เราจะมองเช่นนั้น เพราะฝุ่นเหล่านี้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เราจึงยังรู้สึกถึงความปลอดภัย แต่ฝุ่นเหล่านี้สามารถตรวจวัดได้ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันมีให้ดูข้อมูลผ่านกรมควบคุมมลพิษ แต่ทั้งนี้ ผู้เขียนแนะนำว่า หาโหลดแอปมาดูเอง ย่อมดีกว่าครับ เอาหละ ทราบถึงภัยร้ายกันแล้ว ถึงเวลาหาวิธีป้องกัน รวบรวมมาให้ทั้งหมด 5 ข้อ ดังนี้
1. งดออกจากบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท
เพราะการอยู่นอกบ้านในช่วงที่มีฝุ่นละอองสูง เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก อาการขั้นต้นที่สัมผัสได้ทันที คือ แสบตา แสบจมูก ไอเรื้อรัง อ่อนเพรีย แต่นี่เป็นเพียงอาการที่รักษาได้ง่าย อาการที่น่ากลัวคือการสะสมของฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งสามารถซึมผ่านถุงลมเข้าสู่ก
การปิดประตู หน้าต่าง รวมทั้งปิดม่าน จึงช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ทั้งหมดครับ
2. ใส่หน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นควันได้
สิ่งที่น่ากลัวของสังคมไทย คือ การไม่ตระหนักถึงปัญหาหมอกควัน ผู้เขียนอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ จากการสังเกตมีประชาชนน้อยมากที่สวมใส่หน้ากากอนามัยขณะออกจากบ้าน นอกนั้นยังใช้ชีวิตตามปกติ และประชากรที่ใส่หน้ากาก ส่วนใหญ่เป็นหน้ากากอนามัยแบบทั่วไป ไม่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้
หน้ากากอนามัยที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก เรียกว่า “หน้ากากอนามัย n95″ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป มีหลายยี่ห้อครับ ราคาประมาณ 30-50 บาทเท่านั้น หน้ากากลักษณะนี้นอกจากจะป้องกันได้ดี ยังมีความคงทน สามารถใช้ซ้ำได้ อีกทั้งยังช่วยให้หายใจคล่องยิ่งกว่าหน้ากากอนามัยทั่วไปครับ
แต่หากให้ดียิ่งกว่านั้น หากผู้อ่านท่านใดพอจะทราบแหล่งจำหน่ายหน้ากาก N95 ที่มีมาตรฐานการกรองฝุ่นได้จริง พร้อมกับมีดีไซน์สวย ๆ เท่ ๆ แนะนำบอกต่อกันด้วยนะครับ ใครรับมาขายเช
3. ติดตั้งเครื่องพ่นหมอกไอน้ำ
ลดปริมาณฝุ่นละอองรอบ ๆ บ้าน ด้วยการพ่นไอหมอก ไอหมอกจะช่วยดักจับฝุ่นละอองได้บางส่วน และช่วยเพิ่มความชื้นให้กับรอบ ๆ บ้าน ภาพรวมแล้วสามารถลดฝุ่นละอองได้ดียิ่งขึ้นครับ สำหรับท่านใดที่ต้องการติดตั้งเครื่องพ่นหมอก แนะนำให้สอบถามที่ตลาดจำหน่ายต้นไม้ หากอยู่จังหวัดเชียงใหม่ กาดคำเที่ยงมีขายครับ
ภาพประกอบ : Cafe de Oasis Chiang mai
ไปตลาดต้นไม้แล้ว แวะซื้อไม้ยืนต้นมาปลูกไว้รอบ ๆ บ้าน จะช่วยป้องกันฝุ่นละอองได้อีกระดับ หรือหาต้นไม้ที่มีคุณสมบัติฟอกอากาศได้ยิ่งดีครับ อาทิ สาวน้อยประแป้ง ว่านหางจระเข้ พลูด่าง หมากเหลือง ปาล์มไผ่ บอสตันเฟิร์น เศรษฐีเรือนใน พลูด่าง เป็นต้น
4. ใช้เครื่องฟอกอากาศที่ตรวจวัดได้
สำหรับห้องที่ใช้งานบ่อย ๆ ทั้งห้องนั่งเล่นรวมของครอบครัวและห้องนอน ควรมีเครื่องฟอกอากาศไว้ใช้งาน ข้อดีของเครื่องฟอกอากาศจะช่วยตรวจวัดมลพิษในอากาศได้ ตัวอย่างรุ่นที่ผู้เขียนใช้ มีการตรวจวัดสถานะฝุ่นละออง หากอยู่ในขีดอันตราย เครื่องจะแสดงผลไฟสีแดง หลังจากเปิดใช้เครื่องฟอกอากาศไปสักระยะ ระดับฝุ่นจะค่อย ๆ ลดลง กระทั่งเป็นไฟสีฟ้า ซึ่งหมายถึง อากาศดี ปลอดภัยครับ
อ่านรีวิว เครื่องฟอกอากาศ Focus Air
นอกจากเครื่องฟอกอากาศแล้ว หากต้องการซื้อแอร์ดับร้อน เพราะหากให้ปิดประตูหน้าต่างทั้งหมด ภายในบ้านช่วงฤดูร้อน เป็นเสมือนเตาอบดี ๆ นี่เอง ปัจจุบันแอร์รุ่นใหม่ ๆ มีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศได้บางส่วน เมื่อเปิดแอร์แล้วจึงได้ทั้งความเย็น และได้อากาศที่ดีกลับคืนมา
5. โพสต์บ่นบ่อย ๆ
นี่อาจเป็นคำแนะนำที่ดูไร้สาระ แต่ก็อาจเป็นหนทางที่สามารถแก้ไขปัญหาได้บ้าง เพราะทุก ๆ ครั้งที่มีกระแสออนไลน์เรียกร้องให้ภาครัฐดำเนินการให้ มักจะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น ผู้อ่านท่านใดที่ทนปัญหาหมอกควันไม่ไหว ปัญหาที่ต้องพบเจอกันทุก ๆ ปี โพสต์ครับ โพสต์ไปให้กลายเป็นกระแส โพสต์ให้เป็นข่าว โพสต์ให้ภาครัฐรับรู้ถึงความเดือดร้อน หรือหากมีเพจไหนที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว ช่วยกันแชร์ ช่วยกันแบ่งปันข้อมูล สนับสนุนให้เพจเหล่านี้ได้นำเสนอสาระข้อมูลต่อ ปัญหาย่อมถูกแก้ไขในสักวัน
กรณีศึกษา
ปี 2018 ประเทศอินเดียเคยเจอปัญหาดังกล่าวไม่ต่างไปจากไทย ทำให้ประชาชนออกมาต่อต้าน จนเกิดแฮชแท็ก #smong เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐแก้ปัญหามลพิษทางอากาศอย่างจริงจัง รัฐบาลอินเดียจึงออกนโยบาย “ห้ามรถยนต์” ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ที่มีเครื่องยนต์แรงม้ามากกว่า 2000 ซีซี, ให้รถแท็กซี่เครื่องยนต์ดีเซลหลายพันคันหยุดวิ่ง, ทดลองการให้รถยนต์หยุดวิ่งวันคี่หรือวันคู่, กระตุ้นการใช้รถสาธารณะ และเข้มงวดกับโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีระดับนึงเลยครับ แล้วประเทศของเราหละ จะแก้ด้วยวิธีไหนกันดี
บ้านไอเดีย ในฐานะสื่อให้สาระความรู้เกี่ยวกับเรื่องบ้าน ข้อมูลด้านมลพิษทางอากาศอาจไม่ได้ตรงกับเนื้อหาเว็บไซต์เท่าไหร่นัก แต่ก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับการอยู่อาศัยของผู้คนในประเทศ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการให้ข้อมูล เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน หากทางภาครัฐหรือหน่วยงานใด ต้องการให้บ้านไอเดียเป็นสื่อกลางในการให้ข้อมูล ทางทีมงานยินดีครับ http://www.tb-credit.ru/kredit-online.html