บ้านพักตากอากาศวิวทะเล

ถ้าพูดถึงบาฮามาส (Bahamas) หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ แต่หลายคนยังไม่รู้จัก เนื้อหานี้เราเลยจะพาไปแวะเที่ยวชมบ้านพักตากอากาศที่นี่กันครับ Bahamas นั้นอยู่ในน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติกอันกว้างใหญ่ เป็นที่ตั้งของหมู่เกาะ ประกอบไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายกว่า 700 เกาะ มารวมตัวกันเป็นประเทศ จุดเด่นของประเทศนี้อยู่ที่ทิวทัศน์ชายหาดงดงามชวนหลงใหล ทำให้นักท่องเที่ยวนับล้านคนทั่วโลกตั้งใจว่าต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต จนทำให้ถูกขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งชายหาด” จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีบ้านพักตากอากาศสวยหรูเกิดขึ้นมากมาย แต่สำหรับโครงการนี้จะเป็นความเรียบง่ายปนไปกับธรรมชาติที่ชวนให้ดื่มด่ำกับความผ่อนคลายและวิวเป็นพิเศษครับ

ออกแบบ : Brillhart Architecture
ถ่ายภาพ : Stephan Goettlicher
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

โครงการ Alma Residence ออกแบบโดย Brillhart Architecture โดยได้รับความช่วยเหลือจากสถาปนิกชาวบาฮามาสแห่ง Record Garth Sawyer (และสถาปนิกโครงการ Darren Sawyer) ที่พักเขตร้อนแห่งนี้ก่อตัวเป็นคอมเพล็กซ์ ประกอบด้วยอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกหลายส่วนที่มองเห็นหาด Pink Sands ใน Harbour Island ต้นปาล์มโตกว่า 70 ต้นและภูมิประเทศที่ลาดเอียงไปทางน้ำ อาคารต่าง ๆ กระจายออกไปเพื่อสร้างสภาพลานกว้าง ทำให้มีทางเดินที่ไม่บดบังกันผ่านพื้นที่ซึ่งค่อย ๆ สูงขึ้นอยู่เหนือเนินทราย ให้ความรู้สึกของถึงการมาถึงที่ชวนประทับใจ

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

แนวคิดหลักในการออกแบบที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ คือ เน้นสถาปัตยกรรมที่รวมอยู่อาศัยภายในและภาพภายนอกเข้าด้วยกัน ให้สวน สระ และทะเลเป็นจุดโฟกัสสายตา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ โครงการได้แบ่งออกเป็น 6 อาคารที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดระบบนิเวศเขตร้อนรอบส่วนที่ว่างในโครงการ ทำให้บ้านเหมือนถูกโอบล้อมไปด้วยพืชพรรณเขตร้อนอันเขียวชอุ่ม ทั้งนี้อาคารแต่ละหลังยังมีการตกแต่งและใส่ฟังก์ชันเป็นจุดเด่นไม่เหมือนกัน ตามสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ และบางส่วนถูกกำหนดด้วยทิศทาง มุมมอง ทิวทัศน์ แสง สายลม ฯลฯ ที่มีลักษณะเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เหมือนกันคือ ความอาคารแต่ละหลังมีเพียง 1 ห้องใหญ่ ความยาวตั้งแต่ 4.5 เมตร ถึง 10 เมตร เพดานจั่วสูงโค้งเล็กน้อยโชว์โครงสร้างหลังคาไม้ ประตูเปิดรับลมและแสงได้ แต่จะใช้บานเลื่อนในบางหลังที่ตกแต่งแนวโมเดิร์น และหน้าต่างบานชัตเตอร์ไม้ในบ้านที่คลาสสิคร่วมสมัย ขึ้นอยู่กับภาพรวมของการตกแต่งที่เข้ากัน แต่จุดประสงค์ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ เพื่อเป็นช่องทางที่ให้ลมผ่าน ให้แสงสว่างตามธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ ให้อิสระกับบ้านสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง รวมทั้งวิวชายหาด มหาสมุทร และป่า

การไหลเวียนระหว่างอาคารทั้ง 6 หลังเป็นไปอย่างลื่นไหล ด้วยทางเดินหรือสะพานทางเดินที่มีหลังคาคลุมเชื่อมต่อแต่ละพื้นที่เข้าด้วยกัน ดังนั้นผู้เข้าพักจึงเดินออกไปข้างนอกวนชมวิวรอบสวน หรือออกจากห้องนอนไปที่ห้องครัว ห้องนั่งเล่นไปยังที่ทำงาน ฯลฯ ทุกกิจกรรมต่อเนื่องได้ง่ายๆ ทั้งหมด

ส่วนเรื่องสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ของภูมิภาคนี้ บางวันแดดบางวันพายุก็วางแผนเตรียมรับมือไว้เช่นกัน โดยสถาปนิกสร้างพื้นที่ใช้งานที่รองรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ เช่น ห้องกระจกที่มองเห็นวิวชายหาดแบบพาโนรามา มาพร้อมบานประตูหน้าต่างแบบบานเกล็ด 16 บานที่สามารถรับลมตะวันออกหรือปิดให้ที่กำบังจากแสงแดดก็ได้ เป็นบรรยากาศแบบกลางแจ้งที่มีการป้องกันมากขึ้น แม้ฝนตกฟ้าร้องก็ยังคงสนุกสนานกับมื้ออาหารและทัศนียภาพรอบๆ ได้สบายๆ

การออกแบบยังพยายามที่จะผสมผสานการอ้างอิงความเป็นพื้นถิ่น เข้ากับแนวคิดของบ้านสมัยใหม่ในเขตร้อน (Modern Tropical) โดยอ้างอิงถึงลักษณะกระท่อมเก่าที่พบในหมู่บ้านประวัติศาสตร์ของเกาะฮาร์เบอร์ ซึ่งจะมีหลังคาหน้าจั่วหุ้มด้วยไม้ซีดาร์แดงแบบตะวันตก เราจะเห็นจากรายละเอียดหลังคาภายนอก และเพดานภายในที่เป็นไม้โชว์โครงสร้างจันทันและแป

ในส่วนที่บ้านต้องการปกป้องภายในจากความร้อน ก็ใช้การใส่ไม้ระแนงถี่ๆ ให้ความโปร่งสลับทึบของไม้ช่วยลดทอนความรุนแรงของแสงในทิศนั้นๆ ในช่วงกลางวัน โดยที่ไม่ต้องปิดบ้านทั้งหลัง จึงยังมองเห็นทิวทะเลที่สวยงามได้ไม่ต้องกลัวแสงแดด