บ้านโมเดิร์นทรอปิคอล

สำหรับใครหลายคน การเป็น “โสด” อาจให้ความรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวตามลําพัง ยิ่งแก่ตัวไปไม่มีคนดูแลคงว้าเหว่น่าดู จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนจะกลัวและรู้สึกแย่กับการเป็นโสด แต่อันที่จริงแล้วการได้ใช้ชีวิตตามลำพังไม่ได้ยากขนาดนั้น บางคนกลับชอบที่จะมีเวลาอยู่กับตัวเองทำกิจกรรมที่ชอบเต็มที่ ไม่มีเรื่องราววุ่นวายใจ ยามชราเดี๋ยวนี้ก็มีสถานดูแลผู้สูงวัยรองรับมากมาย ลองโสดก็จะรู้ว่าดีเหมือนกันนะครับ สำหรับเนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” มีบ้านที่แปลกตาน่าอยู่ของหนุ่มโสดที่เห็นแล้วอยากชวนให้ใครสักคนมาอยู่ด้วย

ออกแบบ : Story Architecture
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

โปรเจ็คบ้านหลังนี้ชื่อ Alone House เป็นบ้านของหนุ่มโสดตั้งอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ในโฮจิมินห์ซิตี้ ความแคบของตัวบ้านเป็นผลมาจากสภาพพื้นที่ที่พอดีในซอยเล็กๆ ซึ่งลูกค้ามอบหมายให้ Story Architecture ออกแบบบ้านที่หลีกหนีจากแรงกดดันที่มาจากการใช้ชีวิตในเมือง การจราจรติดขัด และค่าครองชีพจนรู้สึกเหมือนถูกบีบรัดรอบด้าน เจ้าของบ้านมีความคิดว่าการได้กลับมาบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะๆ มีแสงธรรมชาติและต้นไม้เขียว ๆ จะช่วยคลายความรู้สึกเครียดที่ต้องเผชิญมาทุกวันได้เป็นอย่างดี บ้านปูนเปลือยสูงหลายชั้นเจาะช่องแสงเก๋ ๆ หลังนี้จึงเกิดขึ้นด้วยเหตุผลนี้

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพสมัยใหม่

เมื่อความรู้สึกวุุ่นวายของเมืองใหญ่รบกวนจิตใจ สิ่งที่เยียวยาได้ผลดีที่สุดต้องยกให้ธรรมชาติ สถาปนิกจึงออกแบบให้บ้านเชื่อมต่อกับคอร์ทยาร์ดเป็นที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้า (Open Space) แล้วทำสวนกระถางปลูกต้นไม้ใบเขียว ให้ออกมานั่งเล่นรับแสงรับลมสบาย ๆ เติมความสดชื่นนอกตัวบ้านอย่างเป็นส่วนตัว

มุมมองสวนจากด้านบน จะเห็นว่าผนังบ้านใช้วัสดุปูนเปลือยมุมโค้งโองสวนและบ้านเอาไว้ ทำให้รู้สึกว่าผนังที่หนักแน่นจากคอนกรีตมีความอ่อนโยนขึ้น พื้นก็เป็นวัสดุเดียวกัน ทำให้สวนดูแลง่ายไม่เปรอะเปื้อน เหมาะสำหรับคนที่อยู่คนเดียวและไม่มีเวลาดูแลสวนมากนัก

ตัวบ้านทำทางเข้าออกได้สองทาง ด้านหนึ่งติดกับสวน อีกด้านหนึ่งติดถนนสามารถนำรถจักรยานยนต์เข้าออกได้ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นลักษณะเฉพาะของบ้านในเวียดนามยุคใหม่ ๆ ที่จะทำที่จอดรถในตัวบ้านเลย เนื่องจากบ้านติดถนน ไม่มีฟุตบาท ไม่มีที่จอดรถ สำหรับการตกแต่งบ้านหลังนี้ เน้นความเรียบของวัสดุและสี อย่างเช่น ปูนเปลือยดิบ ๆ เหล็กโทนสีเทา ดำ น้ำตาล เมื่อเจ้าของเป็นชายหนุ่มคนเดียวในบ้าน ก็ไม่ต้องแบ่งพื้นที่ใส่ความหวานเผื่อใคร

สนามหญ้าและต้นไม้เขียวขจีในสวนหลังบ้านจะที่ติดกับห้องครัวและพื้นที่รับประทานอาหาร ที่เต็มไปด้วยผนังกระจกช่วยเชื่อมต่อสายตาระหว่างบ้านกับธรรมชาติ ช่วยให้เจ้าของบ้านผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อต้องทานอาหารคนเดียว

แต่ละชั้นของบ้านไม่ได้ถูกตัดขาดออกจากกันอย่างเด็ดขาด เนื่องจากทีมงานใช้การตัดพื้นและเพดานออกบางส่วนเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ในแนวตั้งและทำเป็นชั้นลอย สะพานทางเดินเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ แม้ว่าพื้นที่ของบ้านจะเล็กแต่ทุกพื้นที่ในบ้านจะมีช่องระบายอากาศ และยังไม่ขาดแสงธรรมชาติเพราะมีแผงกระจกขนาดใหญ่ ช่วยให้ทัศนวิสัยปลอดโปร่งมีอิสระทั้งทางพื้นที่และทางสายตาได้ดีในทุกห้อง

กระจกบานใหญ่บริเวณผนังด้านข้างไม่ได้ทำเป็นช่องแสงสี่เหลี่ยมเหมือนบ้านทั่วไป แต่เจาะเป็นรูปร่างเลนส์เว้าสูงจากชั้นล่างถึงชั้นบนสุด ถักเหล็กเส้นสีแดงช่วยยึดโครงสร้างด้านใน มองไกล ๆ คล้ายโครงสร้างของหอไอเฟลที่ตั้งอยู่บนช็องเดอมาร์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส สัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เมื่อแสงเงาลอดผ่านโครงเหล็กเหล่านั้นตกกระทบบนพื้น ยิ่งทำให้บ้านดูสวยงามมีชีวิตชีวา ส่วนของบันไดมีราวเหล็กดัดโค้ง ๆ ทำให้บ้านเคลื่อนไหวได้น่าสนใจยิ่งขึ้น

ห้องพักผ่อนส่วนตัวอยู่ชั้นบน เพื่อให้ห่างจากรถและคนที่วุ่นวายบนถนน ส่วนนี้ตกแต่งอย่างอบอุ่นด้วยวัสดุลายไม้ทั้งพื้น ผนัง วางชุดโซฟาหวายสีเทา พรมวัสดุธรรมชาติสาน และวางไทรใบสักทรงสวยกับไม้ใบประดับอื่น ๆ ทั้งในห้องและระเบียง ห้องนี้จะมีผนังกระจกเต็มพื้นที่ถัดไปเป็นระเบียง ผนังชั้นนอกเป็นฟาซาดไม้ระแนงทำหน้าที่ช่วยกั้นกรองแสงไม่ให้ร้อนเกินไป

ห้องนอนที่ถูกออกแบบให้มีช่องระบายอากาศบนเพดาน ใส่ skylight เพื่อให้เจ้าของห้องได้ชมท้องฟ้าผ่อนคลายก่อนนอน และรับแสงแดดยามเช้าที่จะปลุกให้ตื่นแทนนาฬิกาปลุก บรรยากาศของบ้านที่ดีได้รับการเติมเต็มแบบนี้ทำให้บ้านน่าอยู่ ถึงจะใช้ชีวิตคนเดียวก็ไม่รู้สึกเหงา