บ้านโมเดิร์นบล็อกช่องลม
การเล่าเรื่องราวของบ้านแต่ละหลัง ย่อมต่างกันไปตาม Background ของผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นหน้าที่ของสถาปนิกที่จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เพื่อตกผลึกทางความคิดให้ออกมาในรูปแบบของดีไซน์ วัสดุ และฟังก์ชันภายในที่จะช่วยบ่งบอกคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนที่สุด ซึ่งนักออกแบบแต่ละท่านก็มีลายเซ็นต่างกันไป สำหรับบ้านหลังนี้ออกแบบโดย Aanonym Studio สตูดิโอออกแบบบ้านที่โดดเด่นเรื่องการทำความเข้าใจผู้คน พื้นที่ว่าง และแลนด์สเคป เมื่อครั้งแรกที่ได้มาสัมผัสไซต์นี้ก็รับรู้ได้ถึง “สายลม” ที่พาดผ่านเย็นสบาย จึงใช้จุดนี้มาเป็นแรงบันดาลใจหลักในการออกแบบบ้านที่เต็มไปด้วยช่องว่างให้หายใจ
ออกแบบ : Aanonym Studio
ภาพถ่าย : Soopakorn Srisakul
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านสายลมเป็นบ้านขนาดพื้นที่ 1,026 ตารางเมตร 4 ชั้น ที่ประกอบด้วยมวลของอาคาร 3 ก้อนใหญ่ ๆ เรียงกันลึกเข้าไปคั่นด้วยคอร์ทยาร์ด ภาพลักษณ์จากภายนอกจะเห็นองค์ประกอบหลัก ๆ ของบ้านที่โดดเด่น สอดคล้องกับแนวคิดในการดึงสายลมเข้าสู่ตัวบ้าน โดยการทำฟาซาดหรือเปลือกบ้านจากอิฐบล็อกลายต่าง ๆ กัน จับมาเรียงในแพทเทิร์นที่ไม่ต้องการความเหมือน ทำให้เกิดมิติทางสายตา และได้ประโยชน์จากช่องว่างสลับทึบในการรับลมธรรมชาติให้ไหลเวียน กรองแสงแดดที่เกินความต้องการ พร้อม ๆ กับการสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ใช้ชีวิตภายในบ้านแบบคูลๆ
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
จากลานจอดรถที่มี Open Space หรือที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้าจะมีสเต็ปนำทางเข้าสู่โถงทางเข้า และต้อนรับการมาด้วยความน่าตื่นตาหน้าผาจำลองสูงหลายชั้น จุดนี้เป็นความต้องการของเจ้าของบ้านที่ชื่นชอบกีฬาปีนหน้าผาเป็นงานอดิเรก เมื่อต้องการฝึกซ้อมหรือมีเวลาว่างก็เข้ามาปีนป่ายได้ทันที จากจุดนี้หากเงยหน้าขึ้นไปจะเห็นหลังคา Skylight ใสๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังปีนเขาอยู่กลางแจ้งจริง ๆ แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องฝน
ขยับเข้ามาสู่พื้นที่ใช้ชีวิตภายในกันบ้าง ชั้นแรกจัดแปลนแบบ open plan ประกอบด้วยพื้นที่ส่วนกลางอย่าง ห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว และห้องครัวที่ต่อเนื่องกันในบริเวณเดียว โดยมีเฟอร์นิเจอร์เป็นตัวบ่งบอกขอบเขตใช้งานโดยไม่ต้องมีผนัง
เหนือมุมนั่งเล่นที่เจาะเพดานแบบ Double Volume เปิดระนาบแนวตั้งให้ทะลุขึ้นไปตั้งแต่ชั้นล่างถึงชั้นบนสุด พร้อมเชื่อมต่อกับทางเดินในแต่ละชั้น จึงเกิดช่องว่างระหว่างสเปซที่เป็นตัวกลางเอื้อให้แสงธรรมชาติและอากาศไหลเวียน ทั้งยังทำให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างชั้นทำได้อย่างอิสระและแตกต่าง สำหรับการคเลื่อนไหวใช้ชีวิตในส่วนสาธารณะนี้ แต่ละจุดจะเชื่อมโยงต่อเนื่องกันและกว้างขวางพอรองรับการเข้ามาใช้งานพร้อมกัน ในขณะที่สมาชิกครอบครัวกำลังทำครัว ก็ยังมองออกไปเห็นลานปีนผา ทางเดินชั้นบน และสวนหลังบ้าน จึงมีความรู้สึกว่ามีส่วนร่วมในกิจกรรมโดยไม่ถูกตัดขาดออกจากกัน
หลายคนอาจจะพอใจเมื่อได้อยู่ท่ามกลางงานสถาปัตยกรรมที่เรียบเนี้ยบจนดูไร้ที่ติ แต่บางครั้งการมองหาความพอใจในความไม่สมบูรณ์แบบ ความหยาบ ดิบ มีร่องรอย ก็อาจจะทำให้เกิดเรื่องราวใหม่ ๆ ขึ้นได้ อย่างบริเวณหลังห้องนั่งเล่น สถาปนิกจงใจเปิดเผยให้เห็นโครงสร้างเพดาน งานระบบที่ร้อยในท่อเหล็ก ท่อแอร์ ซึ่งด้านหนึ่งก็บ่งบอกถึงปรัชญาความเคารพต่อธรรมชาติที่สร้างสรรค์ความงามในรูปแบบที่แตกต่าง
ทางเดินของแต่ละชั้นจะถูกจัดวางตำแหน่งให้เหลื่อมกันไปมา เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับสเปซได้อย่างน่าสนใจ และเป็นสะพานสานต่อพื้นที่ความสุขเข้าด้วยกันไม่ให้ขาดตอน จุดที่สำคัญคือทางเดินทุกชั้นของบ้านจะมองเห็นหน้าผาจำลองนี้ เสมือนเป็นจุด Landmark ของบ้านที่ตามติดกันไปทุกที่
สิ่งที่น่าสนใจในสถาปัตยกรรมชิ้นนี้อีกจุดที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย คือ การออกแบบให้อาคารดูเป็นมิตกับธรรมชาติ ไม่ใช่ลักษณะการจัดสวนในบ้านให้เป็นเหมือนสเปซเดียวกันอย่างแนบเนียน แต่เลือกดึงจุดสนใจให้ชวนโฟกัสสายตาไปยังต้นไม้มากขึ้น เช่น การทำกล่องคอนกรีตยื่นออกมาในคอร์ท เหมือนเป็นกระถางขนาดใหญ่ลอยตัวอยู่อย่างท้าทายเหนือที่ว่าง
จากโซน living ในชั้นล่างจะขยับขยายพื้นที่ใช้สอยให้กว้างขวางในระนาบแนวนอน ออกไปเชื่อมต่อกับบริเวณลานหน้าผาและสวนหลังบ้าน ผ่านผนังกระจกรับแสงและวิวธรรมชาติหลายด้าน สะท้อนถึงความผ่อนคลายเสมือนทุกวันในบ้านนี้เป็นวันหยุดที่แสนรื่นรมย์
ฟาซาดบล็อกช่องลมรูปแบบต่างๆ ที่เป็นหนึ่งตัวเอกในการดำเนินเรื่องราวของบ้าน นอกจากจะช่วยป้องกันบ้านจากความร้อน และควบคุมทิศทางลมให้ไหลหมุนเวียนในตัวบ้านแล้ว ยังสร้าง effect ของแสงเงาที่สวยงามบนพื้นผิวผนังและพื้นบ้าน ทั้งในช่วงกลางวันที่แสงเงาจะเปลี่ยนรูปร่างไปตามการเดินทางของแสงอาทิตย์ และเปล่งประกายเหมือนตะเกียงดวงใหญ่ในยามค่ำคืนจากแสงไฟประดิษฐ์ แต่งเติมอารมณ์และบรรยากาศให้บ้านด้วยมุมมองของแสงที่คำนวณมาอย่างดี
แปลนบ้าน
