บ้านชั้นเดียวรูปตัว U

Tribe Studio Architects ของออสเตรเลีย ได้สร้างบ้านรูปตัวยูที่หุ้มด้วยไม้ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็น “บ้านต้นแบบที่ราคาไม่แพงและยั่งยืน” ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศชั้นเดียวของสถาปนิกเอง ในหมู่บ้านริมทะเลของ Bundeena ตั้งอยู่ทางใต้ของซิดนีย์ใน Royal National Park การออกแบบสำหรับบ้านนี้แม้จะเป็นบ้านไม่หรูหรา แต่เน้นให้สอดคล้องตามสุนทรียศาสตร์ของพื้นที่และสภาพอากาศของออสเตรเลีย ในขณะเดียวกันก็ต้องคุ้มค่าคุ้มราคา ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการค้าในท้องถิ่น เป็นความสำเร็จเชิงเศรษฐกิจที่ไม่ธรรมดาที่พร้อมความสมบูรณ์ทางสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อมในระดับสูง

ออกแบบ : Tribe Studio
ภาพถ่าย : Katherine Lu
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

“บ้านหลังนี้เป็นสถานที่พักผ่อนจากชีวิตในเมืองที่วุ่นวาย ซึ่งส่งเสริมวิถีชีวิตริมชายหาดที่สามารถใช้ชีวิตได้ช้าลง Bundeena House เป็นบ้านพักตากอากาศที่เน้นสวนและพื้นที่ทำอาหาร และเป็นสถานที่ที่เชื่อมโยงระหว่างกิจกรรมของเด็กและผู้ใหญ่” Hannah Tribe สถาปนิกอธิบาย ตั้งอยู่ห่างจากหาด Gunyah 100 เมตร มีเพื่อนบ้าน 7 หลังที่อยู่ติดกัน ทำให้บริบทเป็นทั้งชายฝั่งและชานเมือง Tribe จึงเลือกที่จะไม่ไล่ตามแบบบ้านสองชั้นที่เพิ่มความสูงเพื่อเก็บภาพวิวผืนน้ำ แต่ใส่ความท้าทายด้วยการสร้างบ้านชั้นเดียวที่มีศักยภาพได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย สามารถมองเห็นตั้งแต่ชายหาด พุ่มไม้ ไปจนถึงพื้นที่ชานเมือง

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ภายในเต็มไปด้วยความงามที่ผ่อนคลายและดิบๆ จากการเลือกใช้วัสดุบ้าน ๆ มีความทนทาน มีความยั่งยืน และไม่แพง เช่น ไม้จริงที่ใช้ตลอดโครงสร้างเป็นไม้ปลูกจากสวนที่ผ่านการรับรอง ไม้วีเนียร์เคลือบลามิเนต (LVLs) ไม่มีแผ่นยิปซั่ม มีแต่ผนังไม้ทาสีและหน้าต่างไม้เนื้อแข็งใน Australian Blackbutt พื้นผิวคอนกรีตที่มีโครงสร้างไม่ขัดเงา จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับรอยเท้าเปียกและทราย ตัวอาคารมุ่งเน้นไปที่การรับลมที่พัดผ่าน ช่วยให้ภายในอาคารเย็นลงในวันที่อากาศอบอุ่น

บ้านชั้นเดียววางผังบ้านให้เป็นรูปตัว U แบ่งอาคารบอกเป็น 3 ส่วน โอบล้อมคอร์ทยาร์ทจัดเป็นสวนอยู่ตรงกลาง บ้านแบบไม่มีขั้นบันไดและการสร้างประตูหน้าต่างขนาดใหญ่หันหน้าเข้าหาสวนหลังนี้ยังมีความยั่งยืนทางสังคมอีกด้วย เพราะเจ้าของสามารถอยู่ในห้องโซนหนึ่ง ในขณะที่ผู้มาเยือนสามารถเลือกอยู่ในปีกอื่นๆ ของบ้าน แขกจึงมีความเป็นส่วนตัวแต่ยังเชื่อมต่อกันได้และใช้ประโยชน์จากธรรมชาติได้เท่าๆ กัน

ภายในบ้านมีห้องสว่างและผังห้องที่ลื่นไหล พื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วยห้องเปิดโล่งสำหรับทำอาหาร รับประทานอาหาร และพักผ่อน ผนังบางส่วนที่ออแบบให้ยืดหดได้ด้วยการใส่ประตู Pocket door ขนาดใหญ่ให้การเชื่อมต่อที่ราบรื่นกับภายนอกอาคาร โซฟาในตัวในห้องนั่งเล่นสามารถปรับเป็นเตียงได้ ทำให้บ้านสามารถรองรับแขกเพิ่มเติมได้พร้อมกันมากถึง 12 คน พื้นคอนกรีตไม่ได้ขัดเงาเพื่อจัดการกับรอยเท้าเปียกก่อนเข้าบ้าน ภายในก็เป็นวัสดุเดียวกันสร้างความรู้สึกต่อเนื่องของพื้นที่ พื้นแบบนี้ยังสอดคล้องกับสภาพอากาศที่เก็บความอุ่นได้ดีในฤดูหนาว และเย็นในฤดูร้อน

บ้านมีองค์ประกอบที่ยั่งยืนมากมาย รวมถึงหน้าต่างกระจกสองชั้น ม่านบังแสงแบบปรับได้ และฉนวนกันความร้อนที่แน่นหนาทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านบนหลังคาหรือด้านข้าง ภายในยังมีเตาผิง Philippe Chemise ของฝรั่งเศสที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นความฟุ่มเฟือยที่สุดในบ้านแต่สมเหตุสมผล เนื่องจากทำให้บ้านทั้งหลังอุ่นขึ้นได้ทันทีในฤดูหนาวที่หนาวจัด แสงสว่างเป็น LED ทั้งหมด บนหลังคาติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 5kw ช่วยให้บ้านพึ่งพาตนเองด้านไฟฟ้าได้ นอกจากนี้ยังมีระบบเก็บน้ำฝนและการรีไซเคิลน้ำฝนไปยังห้องสุขา เครื่องซักผ้า และใช้รดน้ำในสวน ทำให้บ้านใช้น้ำได้อย่างชาญฉลาด

ครัวแบบเปิดโล่งเป็นเสมือนหัวใจของบ้าน จึงออกแบบให้มีฟังก์ชันใช้งานครบครันรองรับงานปาร์ตี้ฤดูร้อนได้ทุกเมนู ส่วนผนังบ้านก็เปิดออกได้กว้างเหมือนจุดอื่น ๆ สร้างความเชื่อมต่อทั้งด้านมุมมองและพื้นที่ที่ไหลลื่น เมื่อมีอีเวนท์ที่นี่จะรองรับสมาชิกได้มาก ทุกคนใช้พื้นที่ภายในภายนอกได้เต็มประสิทธิภาพ

โซนส่วนตัวประกอบด้วยห้องนอนสำหรับผู้ใหญ่สองห้อง และห้องสำหรับเด็กที่สามารถรองรับเด็กได้หกคน การตกแต่งเป็นธีมเดียวกับพื้นที่อื่น ๆ ทั้งหลังคือ พื้นเป็นคอนกรีต เพดานตีด้วยไม้ กรอบประตูหน้าต่างไม้บาน กรุวัสดุกระจกบานเลื่อนที่เปิดออกได้กว้าง มองไปทางไหนก็ได้รับวิวธรรมชาติ