บ้านพักตากอากาศสไตล์โมเดิร์น

บ้านพักตากอากาศที่เจ้าของจะแวะมาใช้ชีวิตในวันหยุดหลังนี้ ซุ่มซ่อนในสวนที่โดดเด่นของ Palácio das Mangabeiras เมืองหลวงของรัฐ Minas Gerais ของบราซิล ชื่อโปรเจ็ค Sui มาจากคำว่า Sui Generis ในภาษาละติน ซึ่งมีความหมายว่าไม่ซ้ำใคร แปลกใหม่ ในแบบของตัวเอง แน่นอนว่าต้องมีความพิเศษบางอย่าง แม้ว่าจะดูเรียบง่ายด้วยดีไซน์ที่เข้าใจได้แบบไม่ซับซ้อน แต่ความน่าสนใจอย่างแรกเลยคือ อาคารนี้สร้างเสร็จภายในเวลาเพียง 20 วันเท่านั้น ด้วยเวลาที่รวดเร็วแต่สวยงาม ทำให้อยากรู้ว่าความพิเศษอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่มีอะไรอีกบ้าง

ออกแบบ : Nídia Duarte Arquitetura
ภาพถ่าย : Estúdio NY18
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

Casa Sui มีพื้นที่ทั้งหมด 120 ตารางเมตร ถูกสร้างขึ้นด้วยรูปแบบแนวนอนที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติในแต่ละด้าน ด้วยความเคารพต่อสิ่งแวดล้อมในขณะที่พยายามสร้างบทสนทนาที่อ่อนโยนระหว่างสิ่งที่มีอยู่แล้วกับสิ่งที่นำเข้ามา ด้วยการประสานภูมิทัศน์กับที่มนุษย์สร้างขึ้นผ่านสถาปัตยกรรมระบบโมดูลโครงสร้างเหล็ก การออกแบบรูปร่างและความกว้างความยาวบ้าน คำนึงถึงความยาวสูงสุดของวัสดุเหล็กที่มีอยู่ในท้องตลาด เพื่อหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองและการสร้างขยะ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัสดุ ความสะดวกในการดำเนินการ และความรวดเร็วของกระบวนการ จึงทำให้อาคารนี้สามารถปรับให้เข้ากับทุกสถานที่ได้อย่างง่ายดาย

ตัวบ้านวางอยู่บนฐานแผ่นคอนกรีตที่ยกสูงลอยขึ้นจากพื้น หลังคาแบนแบบโมเดิร์นมีผนังและประตูคั่นระหว่างแผ่นพื้นกับหลังคา รอบ ๆ เว้นที่ว่างเป็นเฉลียงและทางเดินเชื่อมต่ออกไปที่สวนอย่างง่าย ๆ แต่ใช้ประโยชน์ได้จริง

พื้นที่รับประทานอาหารเช้าบรรยากาศสบาย ๆ ติดกับเฉลียงด้านหน้า ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายมากขึ้นด้วยการยกชุดโซฟามาวาง outdoor ท่ามกลางต้นไม้และสวนสวย ตรงจุดนี้สะดุดตาด้วยเก้าอี้ออกแบบโดย André Ferri ศิลปินจาก Minas Gerais ทำจากแผ่นเหล็กและไม้เก๋ ๆ สำหรับนั่งอ่านหนังสือในธรรมชาติที่น่ารื่นรมย์ โดยมีแผงตาข่ายเหล็กสานตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง ช่วยให้แสงส่องเข้ามาได้อย่างอิสระและมองเห็นทิวทัศน์ที่ทอดยาวไปถึงแปลงดอกเจอเรเนียมและต้นปาล์มที่สวยงาม

องค์ประกอบที่สำคัญของบ้านนี้คือ ประตูหมุนบานเฟี้ยม ที่สมมาตรกันสองชุดเรียงตามความยาวทั้งหมดของส่วนหน้าอาคาร ซึ่งสามารถหมุนเปิดในองศาต่างๆ กลายเป็นเหมือนศาลาโปร่งๆ ที่พร้อมจะเชื้อเชิญให้ภูมิทัศน์โดยรอบเข้าสู่ภายใน รับสายลมเอื่อยๆ ไหลผ่านสวนสร้างความเย็นสบายได้ทุกด้าน หรือจะปิดไว้ทั้งหมดก็ทำหน้าที่เหมือนผนังกั้นให้เกิดความปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

ประตูบานหมุนเหล่านี้นอกจากการเปิดและปิดให้ธรรมชาติแทรกซึมเข้าสู่ภายในโครงสร้าง สร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวอาคารกับลมและทิวทัศน์ทั้งที่เกิดตามธรรมชาติและส่วนที่ทีมงานสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ยังทำให้พาวิลเลี่ยนดูสวยงามด้วยการใช้เชือกเดินเรือทอมือติดตั้งบนกระจก ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยกรองแสงธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังให้แสงและเงาสวยงามแปลกตาภายในบ้าน ที่จะเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ ตามทิศทางของแสงในแต่ละช่วงของวันอีกด้วย

พื้นที่นั่งเล่นของบ้านที่กว้างขวางและเปิดเชื่อมต่อไปนอกชานได้ คือศูนย์กลางการใช้ชีวิตในการพักผ่อนและสังสรรค์ในครอบครัวอย่างแท้จริง ภายในวางโซฟาหนานุ่มน่านั่งรูปทรงแบบออร์แกนิกโค้งไปมา สร้างการเชื่อมต่อโดยตรงกับเค้าโครงที่เปิดโล้งและลื่นไหล ใกล้ๆ กันเป็นห้องครัวเล็ก ๆ มีไอส์แลนด์ที่มีโต๊ะทานอาหารติดกันโชว์เส้นสายเรขาคณิตหลากหลาย ใส่จุดโฟกัสสายตาที่ไฟซ่อนให้แสงนวลตาตรงชั้นวางติดผนัง นอกจากนี้ยังมีห้องเก็บไวน์แบบควบคุมอุณหภูมิ มินิบาร์ และมุมกาแฟโดยเฉพาะ ในบริเวณนี้เน้นใช้ไม้ธรรมชาติสีอ่อนๆ สีทาภายในและเฟอร์นิเจอร์โทนสีครีมอ่อนไปจนถึงโทนสีเทาที่เข้มขึ้น ทุกสิ่งให้ความรู้สึกเป็นมิตรและอบอุ่น

ในส่วนที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นจะมีส่วนปิดทึบมากกว่าห้องใช้งานสาธารณะ เช่น ห้องนอนและห้องน้ำ โดยในห้องนอนจะวางเตียงตั้งอยู่กลางห้อง ผนังด้านหัวเตียงตกแต่งแผ่นหินควอตซ์สีเขียวมรกต ทำหน้าที่เป็นทั้งหัวเตียงและผนังที่ให้ความเป็นส่วนตัวกับห้องน้ำที่อยู่ด้านหลัง ผนังด้านข้างเตียงปิดทึบจากสายตาผู้คนภายนอก ส่วนปลายเตียงหันหน้าไปทางสวนด้านนอกมีประตูบานหมุนกระจกพร้อมม่านที่ดึงมาปิดเพิ่มได้ ในห้องอาบน้ำก็เช่นกัน