บ้านหน้าแคบลึก

ถ้าให้เลือกได้ใคร ๆ ก็คงอยากเป็นเจ้าของบ้านที่โล่งโปร่ง กว้างขวาง มีบริเวณให้ใช้พักผ่อนได้มาก ๆ แต่ถ้าไม่มีตัวเลือกก็คงต้องปรับใช้สิ่งที่มีให้ตอบสิ่งที่ต้องการให้ได้มากที่สุด อย่างเช่น โครงการนี้เป็นที่อยู่อาศัยขนาด 43ตารางเมตร ดูเหมือนเป็นพื้นที่ขนาดเล็กจิ๋วที่ไม่น่าจะใส่ฟังก์ชันการใช้งานให้มีครบและอยู่สบาย ๆ ได้ แต่ G+Architec ก็ก้าวข้ามความท้าทายของพื้นที่ สร้างบ้านสำหรับคนหนุ่มสาวที่ทำงานด้านไอทีให้มีทุกอย่างตามต้องการได้อย่างครบถ้วนและน่าอยู่

ออกแบบ : G PLUS ARCHITECTS
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านหน้าแคบที่กว้างกว่าที่คิด

ตามโจทย์เจ้าของบ้านทั้งคู่อยากได้บ้านที่มีพื้นที่ว่างมาก ๆ มีระบบการระบายอากาศร้อนและการใช้งานได้ดี บรรยากาศบ้านเป็นมิตรในบริบทของเมืองที่แออัด ด้วยงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัด จึงต้องพิจารณาข้อจำกัดอย่างรอบคอบ ทั้งการดีไซน์ภายนอก การจัดแปลนภายใน เลือกวัสดุที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ทางออกที่ดีที่สุด

สถาปนิกจัดการเรื่องพื้นที่แสงและลม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในสภาพแวดล้อมเมืองเขตร้อนที่แออัด โดยเลือกใช้อิฐช่องลมที่ราคาไม่แพงมาเป็นวัสดุหลัก ๆ ในการทำให้บ้านมีพื้นที่รับลมและระบายอากาศร้อน แม้จะเป็นของบ้านๆ แต่ใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติและลมที่ดีที่สุด ในขณะที่มอบความเป็นส่วนตัวจากสายตาบุคคลภายนอกที่ผ่านไปมา แต่ยังให้ความเป็นมิตรไปพร้อม ๆ กัน

คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่

พื้นที่ว่างด้านหน้าใช้งานอเนกประสงค์จะใช้นั่งเล่น จอดรถมอเตอร์ไซค์ เก็บรถจักรยานก็ได้ตามใจชอบ ส่วนถัดไปด้านในเป็นครัวและห้องรับประทานอาหาร ด้านหลังเจาะเพดาน ให้เป็นช่องว่างสร้างโถงสูง แล้วจัดเป็น pocket garden เล็กๆ เชื่อมต่อกับชั้นสองที่เป็นห้องนั่งเล่น

เชื่อมแนวนอนและแนวตั้ง

การจัดแปลนภายในบ้านเชื่อมพื้นที่ทั้งแนวนอนและแนวตั้งให้มีความต่อเนื่อง ด้วยการลดพื้นที่ผนังและเพดานที่ปิดทึบออก สร้างบ้านโถงสูงที่มีช่องว่างให้สามารถสื่อสารระหว่างชั้นได้ง่ายแม้จะอยู่ในบ้านหลายชั้น การลดผนังที่ไม่จำเป็นช่วยใส่พื้นที่ว่างเข้าไปในทุกชั้น ลดใช้พื้นที่แนวนอนเพิ่มพื้นที่ใช้งานแนวตั้ง เพื่อให้บ้านแคบ ๆ โปร่งและโล่งไม่รู้สึกอึดอัด

เมื่อเดินตามบันไดขึ้นมาบนชั้น 2 ที่ใช้พื้นที่ส่วนที่เหลือจากการเจาะโถงสูง ทำเป็นห้องนั่งเล่นดูทีวีที่นั่งห้อยขาเล่นได้ ใส่บันไดด้านหน้าช่วยให้มองเห็นและพูดคุยกับคนที่ชั้นล่างและชั้นที่อยู่เหนือขึ้นไปได้ บ้านจึงทำหน้าที่ของตัวเองได้ตามต้องการอย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องใส่โครงสร้างที่ซับซ้อน สำหรับการตกแต่งบ้านก็เน้นความง่าย ใช้ทั้งเครื่องเรือนสไตล์เวียดนามที่วิจิตรอ่อนช้อยมาอยู่ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินบนผนัง ซึ่งตอนแรกสถาปนิกอยากให้บ้านดูโมเดิร์นแบบน้อยแต่มาก แต่เจ้าของบ้านก็อยากใส่ของเก่าที่เก็บไว้ ท้ายที่สุดก็ได้พื้นที่ว่างลึกเข้าไปข้างในที่มีความขัดแย้งกัน มีทั้งเก่าและใหม่ลงไปในพื้นที่เดียวได้โดยมองไม่เห็นจากด้านหน้า

ที่ว่างโถงบันไดสร้างความต่อเนื่องในบ้าน

มุมมองจากชั้นบนลงมาข้างล่าง จะเห็นว่าแต่ละชั้นมีช่องว่างบริเวณบันไดที่กระจายอยู่อย่างยืดหยุ่น สร้างความต่อเนื่องของการสัญจรระหว่างชั้น ซึ่งเป็นปรัชญาการออกแบบของ Le Corbusier เกี่ยวกับความต่อเนื่องของพื้นที่ และการเพิ่มระยะห่างระหว่างห้องที่เพิ่มขึ้น ช่องเปิดสูงนี้ช่วยเอื้อให้อากาศด้านล่างลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงและระบายออกทางช่องลมบนผนังที่ทำรับเอาไว้ในจังหวะที่เหมาะสม ผนังอิฐนี้ก็เป็นช่องทางที่จะรับลมและแสงผ่านช่องว่างเล็ก ๆ เหล่านี้เข้ามาสู่ภายใน ทำให้อาคารสูงไม่ขาดแสง

ห้องนอนจัดตำแหน่งให้อยู่คนละด้านของบันได ซึ่งเป็นตัวกลางแบ่งโซนใช้งานให้มีระยะห่างออกจากกัน แต่ยังมีความเชื่อมต่อกันไปในคราวเดียว ผนังห้องด้านหนึ่งติดหน้าต่างขนาดใหญ่เปิดวิสัยทัศน์ออกสู่ภายนอก แม้จะเป็นผนังกระจกก็ยังมีความเป็นส่วนตัวจากผนังอิฐบล็อกช่องลมที่กั้นบังอยู่ข้างนอกอีกชั้นหนึ่ง ส่วนผนังอีกด้านที่อยู่ในบ้านเป็นผนังติดบานกระจกโปร่งแสงที่เปิดเชื่อมปฏิสัมพันธ์กับคนในบ้านได้ และทำให้ห้องสว่างขึ้นลดความรู้สึกปิดแยกส่วนของบ้านผนังทึบลง

บรรยากาศของบ้านในยามค่ำ จะเห็นอีกมิติหนึ่งของบ้านที่แตกต่างไปจากช่วงกลางวัน เพราะแสงไฟในบ้านที่ส่องลอดช่องว่างบนผนังออกมา ทำให้บ้านเหมือนส่องแสงได้ กลายเป็นตะเกียงดวงใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางบ้านตึกติด ๆ กัน

แปลนบ้าน

• Facebook
• Twitter
• Line