ต่อเติมบ้านด้วยสไตล์โมเดิร์น

Signalman’s Quarters ตั้งอยู่ใน Battery Point ท่ามกลางสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าประวัติศาสตร์ของโฮบาร์ตในอดีต ซึ่งประเทศออสเตรเลียมักจะเลือกอนุรักษ์บ้านเก่าเอาไว้แล้วทำการฟื้นฟู หรือการขยายโครงสร้างมรดกที่สำคัญนี้อย่างรอบคอบไม่ให้ของเก่าเสียคุณค่า บ้าน Signalman’s Quarters ก็เช่นกัน ตัวบ้านเก่าที่อยู่ด้านหน้าครั้งหนึ่งเคยเป็นส่วนสำคัญของสถาปัตยกรรมในยุคอาณานิคม หน้าที่ของสถาปนิกคือ การปรับปรุงและแสวงหาความสัมพันธ์ที่เสริมกันระหว่างเก่าและใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ วัสดุ รวมไปถึงความทรงจำที่กระจัดกระจายของไซต์เอาไว้ด้วยกัน ในขณะที่มีชีวิตก้าวไปข้างหน้า ก็ยังแสดงให้เห็นภาพอดีตได้ชัดเจน

ออกแบบ : 1+2 architecture
ภาพถ่าย : Joe Grey
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

ด้านหนึ่งของบ้านสร้างในสไตล์โคโลเนียลสร้างขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2396 ตกแต่งผนังด้วยแผ่นหิน ส่วนมุขและระเบียงสะดุดตาด้วยงานฉลุที่ดูอ่อนช้อยวิจิตรบรรจง ซึ่งความงามแบบนี้แม้จะทรงคุณค่าแต่ฟังก์ชันอาจจะไม่สอดรับกับการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ ๆ หากในบ้านเราอาจรื้อทิ้ง แต่ที่นี่หากไม่จำเป็นจริง ๆ จะไม่ทำแบบนั้น เจ้าของบ้านนี้ก็เลือกปรับปรุงของเดิมบางส่วนให้รับแสงและเชื่อมต่อรอบบ้านได้ดีขึ้น และต่อเติมอาคารใหม่ในพื้นที่ด้านหลัง ทำให้บ้านมี 2 ด้านสองอารมณ์

การปรับปรุงส่วนระเบียงและงานหินทำให้เกิดบรรยากาศแบบ ‘โลกเก่า’ ที่มีเสน่ห์ ใส่ความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งใหม่กับความเก่าอย่างไหลลื่น ด้วยการสร้างทางเดินเล็ก ๆ เพื่อนำทางไปยังส่วนต่อเติมหลังบ้าน ซึ่งทั้งสองส่วนสามารถเข้าถึงพื้นที่ใช้ชีวิตกลางแจ้งได้อย่างแนบสนิทเหมือนๆ กัน

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ส่วนต่อเติมใหม่ที่ออกแบบในรูปทรงสมัยใหม่ หลังคาจั่วสูงไม่มีชายคาแบบบ้านสไตล์นอร์ดิก เน้นใช้วัสดุหลังกในการนำเสนอเพียงแค่ 2 อย่างที่ให้ความรู้สึกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คือ ไม้และคอนกรีต เส้นสายและสีที่เรียบ ๆ ทำให้บ้านดูเฉียบคมแต่มีความสมดุลด้วยตัววัสดุเอง จุดประสงค์หลักของการสร้างอาคารนี้เจ้าของบ้านตั้งใจเพื่อสร้างพื้นที่ชีวิตใหม่ ๆ ที่เน้นความสะดวกสบาย โดยใช้แนวทางร่วมสมัยของหลักการออกแบบที่ยั่งยืนผ่านเลนส์ของคนรุ่นใหม่ที่ยังมุ่งเน้นที่ความเคารพในมรดกรุ่นเก่า

บ้านเดิมเป็นอาคารชั้นเดียวหลังคาไม่สูงมาก รอบบ้านมีช่องเปิดน้อยทำให้บ้านดูทึบ และไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้งได้อย่างสะดวก องค์ประกอบใหม่จึงเต็มไปด้วยช่องแสงในรูปแบบต่าง ๆ ส่งเสริมการดูดซับแสงแดดและโอบรับองค์ประกอบทางธรรมชาติโดยรอบที่เปิดกว้าง หลังคาแหลมสูงเพิ่มความรู้สึกโปร่งสบาย มองทางไหนก็เต็มไปด้วยความผ่อนคลายต่างจากบ้านเดิมอย่างสิ้นเชิง

ฟังก์ชันภายในส่วนนี้จะเพิ่มห้องครัวและ พื้นที่ทานข้าว ห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกันในอาคารเดียว และมีมุมนั่งอ่านหนังสือทำงานเล็ก ๆ ซึ่งจะเป็นบริเวณที่มีความเคลื่อนไหวมาก สามารถใช้งานร่วมกันได้ครั้งละหลายคน ต่างจากบ้านเก่าที่จะเน้นเป็นโซนพักผ่อนอย่างส่วนตัว มีความเคลื่อนไหวน้อยกว่า สมาชิกในบ้านชอบมุมครัวโมเดิร์นที่ไม่มีรายละเอียดการตกแต่งมากมาย แต่เต็มไปด้วยสุนทรียภาพอบอุ่น เรียบง่าย และน่าใช้งาน

“การปรับปรุงได้เปลี่ยนชีวิตของเราอย่างเกินความคาดหมาย ตอนนี้เราเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตแบบเปิดโล่งที่กว้างขวางพร้อมทางเข้าลานใหม่ ประตูที่เชื่อมต่อสวน หน้าต่างที่จับภาพดวงอาทิตย์ยามบ่าย ทุกองค์ประกอบสร้างความประทับใจใหม่ ๆ ที่สำคัญเอาไว้ทั้งหมดทั้งหมด” เจ้าของบ้านย้ำถึงความประทับใจ

เพื่อเป็นการการเตือนความจำของบ้านเดิมที่ยังคงอยู่เป็นกุญแจสำคัญในการออกแบบ เราจะเห็นชัดว่าผนังบางส่วนเป็นผนังหินทรายหนา ๆ สถาปนิกจึงย้ำความเชื่อมโยง ด้วยการทำซ้ำในส่วนต่อเติมบ้าน อาทิ ในผนังในห้องอาบน้ำ ซึ่งเข้ากันได้ดีเพราะคุม Mood&Tone สีขาว เทา ดำ และวัสดุธรรมชาติอย่าง หิน ไม้ และคอนกรีต