บ้านนอร์ดิก หลังคาและผนังเมทัลชีทสีดำ
ถ้าหากที่ตั้งของบ้านมีภูมิทัศน์ธรรมชาติของทะเลและป่า คุณจะเลือกหันหน้าบ้านไปรับวิวด้านไหนดี คำตอบที่ได้ก็คงเป็นไปตามความชอบของแต่ละคน แต่ถ้าเราไม่ต้องการเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งล่ะ อยากจะเก็บเอาไว้ทั้งสองทางจะได้ไหม แน่นอนว่าหากมีสถาปนิกฝีมือดีเข้ามาช่วย ก็จะพยายามมองหาวิธีขจัดอุปสรรคในการมองเห็น และจัดวางตำแหน่งให้บ้านได้รับวิวที่ดีที่สุดในทุกด้านที่มี ซึ่งบ้านในอิหร่านหลังนี้ก็ออกแบบมาด้วยวัตถุประสงค์เดียวกันนี้เองครับ
ออกแบบ: L.E.D Architects
ภาพถ่าย : Hamon Digital Cinema
เนื้อหา: บ้านไอเดีย
DO DID Villa เป็นบ้านสองชั้น ตั้งอยู่ในเมือง Sisara ประเทศอิหร่าน สร้างเสร็จในปี 2565 ออกแบบโดยสถาปนิก LED โดยได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์โดยรอบของทะเลและป่าไม้ ตัวอาคารจึงพยายามผสมผสานพื้นที่ภายในและภายนอกได้อย่างลงตัว ด้วยรูปแบบภายนอกโดยรวมที่เรียบง่ายและเมทัลชีทแบบ seamless สีดำเข้ม เน้นเส้นสายให้เห็นส่วนบนของบ้านอย่างเด่นชัด มาพร้อมช่องเปิดขนาดใหญ่ที่จัดวางอย่างเหมาะสม เพื่อการระบายอากาศและแสงตามธรรมชาติ รวมทั้งรับวิวได้เต็มพิกัด
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
โครงสร้างของวิลล่ายังคงยึดถือสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นของภูมิภาค โดยยังคงรักษาหลังคาลาดเอียงแบบดั้งเดิม แต่สถาปนิกได้ยกระดับการออกแบบโดยขยายแนวหลังคาไปยังด้านหน้าอาคารและส่วนของผนัง ทำให้เห็นเหมือนบ้านสีดำกำลังลอยตัวอยู่ สีทูโทนขาวดำที่ตัดกันฉับ ช่วยเน้นภาพเงาที่โดดเด่นของวิลล่า แต่ละด้านของพื้นที่ชั้นสองจะเป็นรูปทรงจั่วไม่มีชายคาสไตล์นอร์ดิก และติดตั้งกระจกที่ปลายเปิดของหลังคาแต่ละด้านเหมือนกล้องส่องทางไกล ที่เชื่อมต่อภายในเข้ากับทิวทัศน์ที่อยู่ไกลออกไปอย่างไร้รอยต่อ
ภายในบ้านใช้โทนสีหลักของภายนอกคือ มีสีขาวเป็นฉากหลังและตัดเส้นสายตาด้วยสีดำ พื้นที่นั่งเล่นชั้นล่างมีความโปร่ง โล่ง และสว่างจากประตูและผนังกระจกขนาดใหญ่ให้ทิวทัศน์มุมกว้างของท้องฟ้าและป่าไม้ ในขณะที่ชั้นบนมีทัศนียภาพอันงดงามของทะเลและต้นไม้เขียวขจี เพื่อเพิ่มความเชื่อมโยงกับธรรมชาตินี้ สถาปนิกได้รวมเอาแนวต้นไม้มาสร้างมู่ลี่ธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างมีกลยุทธ์ ช่วยให้วิลล่าสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมกลางแจ้งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
แปลนบ้านเป็น open plan เชื่อมต่อสเปซระหว่างห้องนั่งเล่น มายังครัว และโต๊ะทานข้าว ที่เพิ่มสีน้ำตาลของไม้เข้ามาเพิ่มมิติทางสายตา ไม่ให้บ้านดูโล่งและเรียบเกินไปจนดูไม่มีชีวิตชีวา เหนือโซนครัวเป็นช่องว่างโถงสูงเชื่อมต่อกับชั้นบน ทำให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ภายในที่ใกล้ชิดขึ้น ถึงจะอยู่ต่างชั้นก็มองเห็นและสื่อสารกันได้
ตำแหน่งของช่องเปิดของวิลล่าได้รับการวางแผนอย่างพิถีพิถัน เพื่ออำนวยความสะดวกในการระบายอากาศตามธรรมชาติและปรับแสงให้เหมาะสม วิธีการออกแบบที่รอบคอบนี้ไม่เพียงแต่สร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสถาปนิกต่อหลักการออกแบบที่ยั่งยืน สร้างสถาปัตยกรรมที่เชื่อมต่อ บ้าน ธรรมชาติ และประสบการณ์ของมนุษย์มาบรรจบกันอย่างกลมกลืน
ห้องนอนตกแต่งง่ายๆ สไตล์มินิมอล ประตูหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ เป็นเหมือนกรอบเลนส์ให้มองเห็นธรรมชาติของป่าทางใต้และทะเลทางเหนือได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะก่อนเข้านอนหรือทันทีที่ตื่นก็สัมผัสกับความสดชื่นของภูมิทัศน์ที่สวยงามได้ตลอดเวลา
การจัดวางเชิงพื้นที่ของวิลล่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวขององค์ประกอบทางเรขาคณิต รูปแบบมุมฉากของหลังคาลาดเอียงสอดคล้องกับเรขาคณิตรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนของพื้นที่ภายใน ส่งผลให้เกิดประสบการณ์เชิงพื้นที่ที่แปลกใหม่ ซึ่งสามารถชื่นชมภูมิทัศน์ได้ทั้งจากภายนอกและภายใน ที่สำคัญคือ เลือกได้ว่าช่วงเวลาไหนอยากได้รับพลังงานจากป่า ท้องฟ้า หรือทะเลก็เลือกมุมไปใช้ชีวิตในโซนนั้นๆ ได้ ทำให้การใช้ชีวิตในบ้านเหมือนได้พักผ่อนทุก ๆ วัน
แปลนบ้าน
