ต่อเติมเฉลียงนั่งเล่นเชื่อมต่อสวน
บ้านทุกหลังที่เป็นทรัพย์สินส่งต่อมาเจ้าของคนก่อน จะมีร่อยรอยประสบการณ์และความทรงจำบางอย่างหลงเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรม รสนิยมการตกแต่ง รอยขูดขีดที่ถูกจารึกไว้บนพื้นผิวผนังบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านใหม่อาจไม่อยากทำลายสิ่งที่มีอยู่เดิม แต่ใช้การเพิ่มเติมใหม่มาหลอมรวมพื้นที่ให้ดูเหมือนมีเรื่องราวต่อเนื่องกันในบ้านหลังเดียว ในภาพรวมอาจจะดูแปลกเพราะไม่ได้เจาะจงการตกแต่งในสไตล์ใดเป็นพิเศษ แต่แนวการแต่งบ้านแบบนั้นไม่มีถูกผิด เพราะความขัดแย้งความต่างก็นำมาจับรวมกันได้หากเจ้าของพึงพอใจ เหมือนเช่นบ้านหลังนี้ที่มีทั้งความคลาสสิคและทันสมัยในหลังเดียว
ออกแบบ : Tribe Studio
ภาพถ่าย : Katherine Lu
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
กรณีของ Dulwich Hill House นั้น อาคารเดิมเป็นบ้านพักตากอากาศในแคลิฟอร์เนียที่ยังคงสภาพดีไม่บุบสลาย แต่ก็มีการปรับปรุงตลอดทั้งในช่วงทศวรรษ 1950 และ 1980 จนมาถึงปี 2020 ก็มีต่อเติมบ้านโดยเน้นการนำเรื่องราวในอดีตมาผสมผสานกับความรู้สึกใหม่ๆ นอกจากนี้ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ องค์ประกอบที่ทำให้รู้สึกว่าใช้ชีวิตสบายขึ้น ในขณะที่ผ่านการทำความเข้าใจคุณค่าของอาคารเดิม กล้าเพิ่มเติมสีและความคอนทราสต์ในบางจุด
อาคารหลังเก่าที่ยังดูดี ใช้รูปทรงหลังคาจั่วตัวบ้านเป็นอิฐแดงก้อนใหญ่ตกแต่งหินแม่น้ำแบนๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นน่ารักปนคลาสสิค
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
ส่วนเสริมด้านหลังใหม่มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมบ้านเข้ากับสวน ได้รับการออกแบบด้วยหลังคาสีแดงสด เพื่อเสริมความโดดเด่นให้ผนังและเพดานสีขาว Tribe Studio Architects เรียกการต่อเติมและตกแต่งใหม่นี้ว่า “การผสมผสานและการทดลอง” บ้านในซิดนีย์ โดยการทำเฉลียงนั่งเล่นยกพื้นที่ด้านหลัง พื้นที่กึ่งกลางแจ้งที่โล่งรอบด้าน เสาที่รองรับหลังคามีฐานทำจากแผ่นอิฐแดงล้อกับบ้านเก่า ภายในมีฟังก์ชันครัวสีขาวตัดด้วยหินอ่อนสีเทาดำ ให้อารมณ์ความทันสมัย แต่เมื่อขยับมาพื้นที่วางโซฟาจะพบกับชุดโต๊ะเก้าอี้หลังสีน้ำตาล โต๊ะกลาง อาร์มแชร์สไตล์เรโทรยุคคุณพ่อคุณแม่ เมื่อมองในภาพรวมก็ไม่รู้สึกแปลกแตแต่อย่างใด
ถัดจากเฉลียงเปิดประตูเข้าสู่พื้นที่ภายใน จะเห็นองค์ประกอบการออกแบบภายในที่บอกถึงยุคสมัยหลายสิบปีก่อน เช่น เตาผิงตกแต่งไม้และหินแม่น้ำ บ้านตกแต่งไม้วีเนียร์แบบดั้งเดิม ฝ้าหลุมฉาบปูนตกแต่งลวดลายจำลองแบบวิกตอเรีย หน้าต่างเหล็กดัดที่หน้าต่างตกแต่งกระจกสี (leadlight) เป็นงานศิลปะที่ทำจากกระจกสีและเชื่อมต่อกันด้วยตะกั่วต่างๆ ที่เคยใช้ตกแต่งผนังในมหาวิหารทางคริสต์ศาสนา เป็นศิลปะยุคกลางที่น่าตื่นตาที่ค่อย ๆ คืบคลานมาประดับอยู่ในบ้าน คุณค่าของงานเหล่านี้ทำให้เจ้าของใหม่ให้ความเคารพต่อลักษณะเฉพาะของบ้านที่ค่อยๆ เพิ่มเข้ามาในช่วงหลายปี จึงยังคงไว้ไม่รื้อถอนออก
ผนังสีขาวเป็นฉากหลังสำหรับคอลเล็กชันภาพพิมพ์และภาพวาดของครอบครัว ที่ทำให้งานศิลปะโดดเด่นออกมา ผลงานเหล่านี้ไม่ว่าจะอยู่คู่กับการตกแต่งในยุคสมัยไหนก็เข้ากันได้ทั้งหมด
จากภาคอดีตข้ามมาสู่ภาคปัจจุบัน จะพบว่ามีการใส่ความรู้ในงานสถาปัตยกรรมรูแปบบใหม่ ๆ เข้าไป อาทิ การทำบ้านเพดานเฉียงสูงกรุฝ้าตามแนวอาคาร ความสูงของเพดานและช่องเปิดสกายไลท์ระดับสูงด้านบน ยังช่วยให้มีกระแสลมและแสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างเพียงพอทั่วทั้งบ้าน บันไดใช้พื้นผิวไม้สีอ่อนลายสวย สีอ่อน ๆ ของไม้จะสร้างความรู้สึก “ใหม่” มากกว่าสีน้ำตาลเข้ม ในจุดอื่นๆ ก็มีการใช้สีสันสดใสเพื่อเน้นความชัดเจนของชั้นวางของแบบบิวท์อิน เคาน์เตอร์ล้างหน้า และตู้เก็บของในห้องน้ำ ที่เห็นได้ชัดบนพื้นหลังสีขาวเรียบๆ ที่นี่จึงเป็นพื้นที่สำหรับหายใจสำหรับครอบครัวที่ใช้หลีกหนีจากการใช้ชีวิตที่มีความหนาแน่นสูงในซิดนีย์ และยังได้อยู่ท่ามกลางความหลากหลายของสไตล์
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : ในการตกแต่งบ้านนั้นวัสดุและสี มีส่วนอย่างมากในการกำหนดบรรยากาศ อารมณ์ หรือความรู้สึก อย่างเช่น การใช้งานไม้ โดยปกติจะให้ความรู้สึกอ่อนโยน อบอุ่น ลดทอนความแข็งกระด้างของอาคารได้ดี แต่ Texture และสีของไม้ ก็แยกย่อยลงไปได้อีก อาทิ ไม้เก่านำเสนอความรู้สึกร่วมสมัย มีเรื่องราวแบบคันทรีหรือรัสติก ไม้แผ่นเรียบสีไม้น้ำตาลเข้ม แดงเข้มจะดูแก่มีอายุ เหมาะกับบ้านสไตล์ Contemporary ดูขรึมๆ เนื้อไม้โทนสีขาวและสีเหลืองอ่อนๆ จะให้ความโมเดิร์นสบายดีมีกลิ่นอายญี่ปุ่นนิดๆ |
แปลนบ้าน