เลือกที่นอนให้วัยทำงาน
หลับสบาย ได้สุขภาพ ด้วยที่นอนที่ดี
อ๊ะ ! อ๊ะ ! คิดอะไรกันอยู่ เรื่องบนเตียงในที่นี้หมายถึงเรื่องของการหลับนอนที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าที่คิด เพราะอาการปวดหลังไม่ได้จำกัดอยู่ในวัยสูงอายุอีกต่อไป วัยหนุ่มสาวอย่างเรา ๆ ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างต่ำ 8 ชั่วโมงต่อวันไปกับการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ขลุกอยู่กับเอกสาร โดยไม่ได้ลุกเปลี่ยนอิริยาบถ หรือจัดท่านั่งให้ถูกต้อง การทำงานที่ต่อเนื่องหลายวัน หลายเดือน หลายปี เป็นผลทำให้เกิดอาการตึง ปวดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ซึ่งอาการปวดแบบนี้จะคุ้นเคยกันดีในชื่อ “ออฟฟิศ ซินโดรม”
การป้องกันอาการบาดเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ เริ่มจากการนั่งทำงานในท่าที่เหมาะสม หมั่นปรับเปลี่ยนอิริยาบถอยู่เสมอ หาเวลาออกกำลังกาย และเลือกที่นอนให้เหมาะสมกับสรีระ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม คิดว่านอนบนที่นอนแบบไหนก็ได้ จนส่งผลให้หลังบอบช้ำได้อย่างไม่คาดคิด
สนับสนุนโดย : SB Design Square
“ที่นอนและชุดเครื่องนอน” เกี่ยวข้องโดยตรงกับร่างกายและสุขภาพมากกว่าที่คิด เพราะเป็นส่วนที่ต้องรองรับตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง ซึ่งเท่า ๆ กับเวลาที่เราใช้ร่างกายทำงานในตอนกลางวัน หากที่นอนมีคุณภาพ เหมาะสมกับสรีระและไม่กักเก็บฝุ่น ในระยะยาวจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากโรคทางเดินหายใจ นอนไม่หลับ อาการตึงเครียดของกล้ามเนื้อ หรือการบาดเจ็บทางร่างกายให้ดีขึ้นได้ ซึ่งการเลือกที่นอนและชุดเครื่องนอนเน้นที่ความสวยยังไม่เพียงพอ ต้องเลือกให้เหมาะกับโจทย์ของสุขภาพด้วยหลักการเลือกง่าย ๆ ดังนี้
1. เลือกที่นอนให้เหมาะกับพฤติกรรม
สำหรับคนที่ปวดหลังง่าย เป็นภูมิแพ้บ่อย
เหมาะกับที่นอนยางพารา ด้วยผิวสัมผัสที่ยืดหยุ่น ไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป โอบรับทุกการเคลื่อนไหวอย่างอ่อนโยน ช่วยประคองสรีระขณะนอนหลับจึงช่วยลดอาการปวดหลังได้ดี ใช้งานได้ทั้งในคนทำงานที่ต้องใช้ส่วนหลังรับน้ำหนักมากเป็นเวลานาน ๆ หรือผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องกระดูกสันหลัง
คนที่นอนหลับยาก
ควรเลือกที่นอนนุ่ม ๆ (แต่ต้องไม่ยุบตามตัว) สัมผัสที่นุ่มสบายจะช่วยให้หลับสบายง่ายขึ้น โดยเฉพาะท่านที่รู้สึกตัวตื่นง่าย หากต้องพักผ่อนกับคู่รักเมื่ออีกฝ่ายขยับตัวอาจรู้สึกได้เร็วและนอนต่อยาก ลองหันมาใช้ที่นอนระบบ Pocket Spring ที่ทำงานแยกกันอิสระ ช่วยป้องกันแรงสั่นสะเทือนได้ดี
คนที่ติดพฤติกรรมนอนท่าเดียว
อาจจะทำให้มีอาการเหน็บชา เกิดแรงกดทับที่ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวกและปวดกล้ามเนื้อ การใช้ฟูกที่ผลิตจากเม็ด Foam ที่มีคุณสมบัติคืนตัวรวดเร็ว ใส่ชั้นรองรับพิเศษช่วยกระจายแรงกดทับ จะช่วยให้ระบบการหมุนเวียนเลือดในร่างกาย ลดอาการเหน็บชา ช่วยให้การนอนหลังต่อเนื่องแบบไม่เสียสุขภาพ
2. เลือกหมอน ตื่นมาไม่ปวดคอ
อาการตกหมอน เชื่อว่า 7 ใน 10 คน อาจเคยเป็น เพราะในระหว่างนอนหลับพักผ่อน เรามักจะเปลี่ยนท่านอนโดยไม่รู้สึกตัว โดยเฉพาะตอนหลับลึกแล้วคอตกเอียงจากหมอนเป็นเวลานาน ๆ จนเกิดการยึดตึง หรือเกิดจากการใช้หมอนที่ไม่เหมาะสม ซึ่งหมอนที่ดีจะช่วยรองรับและจัดสรีระของผู้นอนให้เข้าที่ ทั้งคอ หลัง และสะโพก ซึ่งช่วยให้กระดูกสันหลังรักษาระดับตรงได้มากที่สุด ดังนั้นจึงควรดูแลและเลือกหมอนให้เหมาะกับตัวเอง
- ควรเปลี่ยนหมอนหนุนนอนทุก ๆ 2 ปี เพราะหมอนที่ใช้งานไปนาน ๆ รูปทรงอาจจะเปลี่ยนและยุบตัว
- การใช้หมอนไม่จำเป็นว่าต้องใบเดียว แต่ละคนอาจใช้หมอนขณะนอน 2-3 ใบได้ โดยใบอื่น ๆ ไว้สำหรับรองเข่า และเลือกใบบาง ๆ หรือหมอนเก่า ไว้สำหรับรองแผ่นหลัง จะช่วยให้การนอนหลับลดอาการปวดเมื่อย หลับสนิทยิ่งกว่าเดิม
- จากผลงานวิจัยพบว่า หมอนยางพารา เป็นหมอนที่รองรับคอได้ดีที่สุด เพราะมีส่วนโค้งรับกับรูปศีรษะและกระดูกต้นคอ ยางพารามีความยืดหยุ่นให้ความนุ่มสบายรู้สึกผ่อนคลาย และคืนตัวเร็วจึงไม่ยุบรั้งกล้ามเนื้อคอให้ตึง
- เลือกหมอนตามลักษณะสรีระและท่านอนที่ชอบ เพราะร่างกายของของแต่ละคนแตกต่างกันทั้งน้ำหนักและส่วนสูง คนชอบนอนหงายกับชอบนอนคว่ำก็ใช้หมอนที่แต่งต่างกัน จึงต้องดูให้ตรงกับความต้องการใช้งานด้วย เช่น คนที่ตัวเล็กก็ควรใช้หมอนขนาดเล็กกว่าคนที่รูปร่างสูงน้ำหนักตัวมาก
ข้อสังเกตในการเลือก คือ ทดลองวางหมอนดูว่าไม่แข็งเกินหรือนุ่มยุบตัว สามารถหนุนช่วงหัว คอ และไหล่ได้ครบทุกจุดหรือไม่ หากช่วงคอ ไหล่และหลังวางได้แนบชิดกับหมอนและที่นอน จะช่วยป้องกันอาการปวดคอจากนอนผิดท่าและรู้สึกผ่อนคลายบ่าไหล่ขึ้น
3. เลือกชุดเครื่องนอน ห่างไกลภูมิแพ้
ในบ้านที่มีสมาชิกในบ้านเป็นภูมิแพ้ อาจคิดว่าการใช้เครื่องฟอกอากาศและปัดกวาดฝุ่นภายในบ้านก็เพียงพอกับการปกป้องแล้ว แต่ทราบหรือไม่ว่า ไรฝุ่นบนที่นอนและปลอกหมอน เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ เพราะเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่แทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า จึงทำให้หลาย ๆ คนมองข้ามไป
ในปัจจุบันมีนวัตกรรมผ้าปูที่นอน ผ้าห่มที่ทำจากผ้ากันไรฝุ่น ผ้านี้จะผลิตมาเป็นพิเศษให้เส้นใยชิดกันมาก จนไรฝุ่นไม่สามารถลอดผ่านขึ้นได้ จึงป้องกันไรฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ในที่นอน หมอนหนุน และหมอนข้างได้ถึง 99 % ทำให้มั่นใจในสุขภาพทุกครั้งที่เอนกายลงนอน
เมื่อได้ที่นอนและเครื่องนอนที่เหมาะกับนอนหลับ แน่นอนว่าการพักผ่อนในทุกค่ำคืนต้องมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ส่งผลให้สุขภาพร่างกายและจิตใจดีขึ้นตามไปด้วย ผู้อ่านท่านใดที่กำลังมองหาที่นอน เครื่องนอนใหม่ ที่ SB Design Square นอกจากมี Bedroom & Healthy Sleep Solutions ตอบโจทย์ทุกการนอน ที่นอน ชุดเครื่องนอนหลากหลาย ทั้งยังมีบริการให้คำปรึกษาสำหรับผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนฟรี โดยแพทย์ผู้เชียวชาญอีกด้วย
และภายในเดือนมกราคมนี้ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ #หลับสบายได้สุขภาพดี ที่เอสบี ดีไซน์สแควร์ เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีโดยเฉพาะ อาทิ ที่นอนจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทย ลดสูงสุด 80%, ชุดเครื่องนอน ลดสูงสุด 70%, นำที่นอนเก่ามาแลกที่นอนใหม่ รับส่วนลดทันที 10 %, ชุดห้องนอนหลากสไตล์ ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 19,900 บาท, ช้อปชุดห้องนอนพร้อมที่นอน ครบ 40,000 บาท รับฟรี! ผ้าปูที่นอนป้องกันไรฝุ่น มูลค่า 2,000 บาท, ซื้อชุดห้องนอน หรือเตียง ครบ 30,000 บาท รับส่วนลดเพิ่มทันที 10% สำหรับการซื้ออินฟินิตี้หรือซีเนริโอ้ คอลเลคชั่น และผ่อน 0% ทุกชิ้น ทั้งร้าน นานสูงสุด 10 เดือน ช้อปครบรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 55,000 บาท แวะเข้าไปชมและเลือกซื้อได้ที่ SB DESIGN SQUARE ทุกสาขา หรือช็อปออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ : www.sbdesignsquare.com
รายละเอียดเพิ่มเติม
เว็บไซต์ : SB Design Square | แฟนเพจ : SB Home / SB Design Square http://www.tb-credit.ru/return.html