บ้านคอนกรีตดิบ ๆ โชว์สัจจะวัสดุ

ในขณะที่เราคิดว่า หากเลือกได้ใครกันล่ะที่จะอยากอยู่ในบ้านที่เหมือนถ้ำดูแข็ง ๆ มืด ๆ แค่คิดก็ขนลุกขึ้นมาแล้ว แต่เรื่องรสนิยมนั้นคงเป็นความเฉพาะที่ต้องยอมรับว่า แม้บางครั้งเราอาจจะเข้าไม่ถึงก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคนชอบ อย่างบ้านหลังนี้ในญี่ปุ่นที่เลือกแสดงออกถึงความดิบกระด้างตรงไปตรงมาของอาคารคอนกรีตไม่ทำสี สร้างสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเหมือนถ้ำที่นี่ ท่ามกลางอาคารข้างเคียงที่มีดีไซน์ร่วมสมัยธรรมดาก็ถือเป็นหนึ่งความท้าทายที่ทำให้อยากติดตามเข้าไปดูข้างในว่าภายนอกหน้าตาแบบนี้ ภายในจะเป็นอย่างไรบ้าง

ออกแบบ : Suppose
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้านหลังนี้สร้างอยู่ในย่านชิบูย่า กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พื้นที่ประมาณ 164 ตารางเมตร เป็นงานออกแบบบ้านในสไตล์ Brutalist Architecture ดิบ เรียบ เท่ ด้วยสัจจะวัสดุอย่างคอนกรีตแบบไม่ปรุงแต่ง ตามแบบแปลนนั้นชั้นใต้ดินจะเป็นชั้นแรก และชั้นบนอีก 2 ชั้นรวมดาดฟ้า สามารถเข้าสู่พื้นที่บ้านชั้นบนได้โดยตรงจากบันไดด้านข้าง ผนังส่วนหนึ่งทำเป็นช่องว่างขนาดใหญ่สร้างความรู้สึกของการเปิดกว้าง ในขณะที่ผนังอีกด้านปิดรักษาความเป็นส่วนตัว บนผนังดาดฟ้าปกคลุมด้วยไม้เลื้อยห้อยย้อยลงมา ทำให้ภาพรวมของอาคารเหมือนถ้ำที่ดูมืดแต่น่าค้นหา

หากเปิดประตูจากด้านหน้าจะพบว่า เมื่อเข้ามาจะเป็นลานคอนกรีตโล่งกว้าง ผนังกระจกเป็นกระจกสีที่ให้ความรู้สึกทึม ๆ ตั้งแต่ก้าวแรกเลยทีเดียว

ความแปลกของบ้านประการหนึ่ง คือ บ้านโดยทั่วไปจะสร้างการไล่ระดับของแสงให้มีความสว่างมากกว่ามืด แต่ในทางกลับกันที่นี่ออกแบบเพื่อสร้างความมืดมากกว่าความสว่าง ให้การปรากฏของความรู้สึกหนาหนักมากกว่าความบาง และเพิ่มจำนวนเส้นเพื่อสร้างเงา พื้นและผนังบ้านเป็นคอนกรีต มีทั้งคอนกรีตเปลือยฉาบเรียบและพื้นผิวโชว์ร่องรอยแม่แบบเห็นเส้นสายลายคล้ายแผ่นไม้ตามเส้นกรอบรอบ ๆ ด้านนอกของบ้านส่วนด้านในเน้นความโล่งด้วยแปลนแบบเปิด (Open plan) เพื่อให้การสัญจรลื่นไหลและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

ในพื้นที่ชั้นนี้ประกอบไปด้วยส่วนใช้งานสาธารณะแบบ Mixed Useให้อยู่รวมกัน อาทิ ครัว โต๊ะรับประทานอาหาร มุมเลาจน์นั่งเล่นพักผ่อนหน้าเตาผิง ให้ครบจบได้ในพื้นที่เดียว หากสังเกตให้ดีจะพบว่า แม้บ้านจะดูปิดและมืดแต่ไม่ได้ไร้ช่องเปิด เพราะผนังด้านหน้าและด้านหลังเปิดกว้างให้รับแสงได้ในปริมาณและตำแหน่งที่บ้านต้องการ เป็นการรักษาพื้นที่ส่วนตัวในขณะที่อนุญาตให้เข้าถึงธรรมชาติได้จากหลายทิศทาง

ความงาม บางครั้งก็ไม่ได้เท่ากับความเนี๊ยบ ในความไม่เรียบ ขรุขระ มีร่องรอยที่ไม่สมบููรณ์แบบ บางครั้งก็เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ทำให้ได้เรียนรู้คุณค่าของบางสิ่งที่ดูธรรมดาแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ซึ่งบ้านนี้มีให้เห็นตั้งแต่พื้นจนถึงหลังคา

บ้านหลังนี้เน้นการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีการใช้เครื่องปรับอากาศแม้แต่ห้องเดียว ในฤดูร้อนนอกจากจะรับลมผ่านช่องเปิดขนาดใหญ๋แล้ว ตรงเพดานจะระบายความร้อนด้วยน้ำเย็นที่ส่งผ่านท่อน้ำวางพาดบนเพดาน ทำให้บ้านเย็นลง และในฤดูหนาวความร้อนจะถูกส่งผ่านใต้พื้นและให้ความอุ่นด้วยไฟจากเตาผิง

งานตกแต่งภายในเลือกใช้วัสดุในโทนสีดำทึบ ตัดด้วยความแวววาวของเมทัลลิก ที่ทำให้บ้านมีความเท่และแอบทันสมัยหรูหราในบางรายละเอียด ซึ่งจะเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อเปิดไฟในบ้านช่วงค่ำ ๆ

แสงสีส้มที่สว่างจากเตาผิงและที่นำความอบอุ่นมาสู่พื้นที่มืดและเงียบสงบ รวมเข้ากับไฟฟ้าส่องสว่างสีส้มส่องสะท้อนลงบนพื้นผิวของเสา คาน และผนังพื้นผิวคอนกรีตที่ขรุขระแต่ประณีต ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นพื้นที่ที่อบอุ่น ซึ่งเจ้าของบ้านบอกเล่าความรู้สึกว่า บรรยากาศของบ้านทำให้ฉุกคิดถึงความทรงจำเชิงลบในวัยเด็กที่บ้านดูไม่สะดวกและยากแก่การอยู่อาศัย แต่เมื่อเวลาผ่านไปในใจกลับใฝ่หาภูมิทัศน์เชิงพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกในสมัยนั้นและอยู่ได้อย่างสุขใจ