ตกแต่งร้านด้วยโคมไฟหวายสาน

ความประทับใจแรกนั้นสำคัญเสมอ โดยเฉพาะร้านค้าที่ต้องมองหาความแตกต่างเพื่อสร้างจุดโฟกัสสายตา บางครั้งแค่หน้าร้านดีไซน์สวย เก๋ แปลก ก็สามารถดึงผู้คนผ่านไปมาเข้าไปอาจจะยังไม่ทราบถึงคุณภาพและตัวสินค้าเลยด้วยซ้ำ สำหรับธุรกิจที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดในช่วงนี้คงไม่มีอะไรแรงไปกว่า “เครื่องดื่ม” ที่มีทั้งคาเฟ่ใหญ่ ๆ ร้านเล็ก และเป็นลักษณะคีออส คือ ตู้ขายขนาดเล็ก เคาน์เตอร์กึ่งซุ้ม ซึ่งเนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” จะพาไปชมโปรเจ็ค Hygge ซึ่งเป็นบาร์เครื่องดื่มแบบซื้อกลับบ้าน ที่สร้างขึ้นเพื่อให้บริการแก่ผู้คนในสวนสาธารณะเมือง Sarah Kubitschek ในบราซิเลีย ระหว่างการจัดนิทรรศการ Janelas Casacor ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังเกิดการระบาดใหญ่ของ Covid-19 พอดี จึงเน้นสถาปัตยกรรมที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับพื้นที่ โดยใช้แนวความคิดในการักษาระยะห่างผ่านวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ และใช้วัสดุตกแต่งที่ไม่เหมือนใคร

ออกแบบ : LEZ
ภาพถ่าย : Júlia Tótoli
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

Hygge เป็นอาคารสำเร็จรูปเล็ก ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในลักษณะโมดูล มีส่วนประกอบของผนังโลหะขนาด 6.00×3.75 ม. (พื้นที่ใช้สอยประมาณ 13.5 ตร.ม.) ปิด 3 ด้านเปิดด้านหน้าเหมือนตู้คอนเทนเนอร์ โซลูชันภายในอย่างเคาน์เตอร์ต่างๆ เป็นแบบรองรับตัวเองและยึดกับพื้นโดยตรง ด้านหน้ามีเคาน์เตอร์บาร์กั้นกระจกเปิดปิดได้ เป็นทำงานผ่านโมเดล “to-go” ที่หลีกเลี่ยงการสัมผัสกันโดยตรงระหว่างผู้คนที่มานั่งและผู้ให้บริการ ด้านข้างตกแต่งไม้เป็นพาร์ทิชันไม้โค้งขนาดใหญ่ที่แยกพื้นที่การผลิตออกจากพื้นที่ให้บริการ เส้นโค้งยังให้ความรู้สึกเสมือนเป็นการต้อนรับที่อ่อนโยน

เคาน์เตอร์สำหรับการสั่งซื้อ มีฉากกั้นที่ทำด้วยโลหะและกระจกเทมเปอร์ ซึ่งเป็นกระจกนิรภัยกั้นพื้นที่สัมผัสและแบ่งเขตใช้งานภายนอกกับภายใน เคาน์เตอร์จะเป็นลักษณะไอส์แลนด์รูปวงรีทำจากหินปูน Baiteg หยาบๆ ใช้เป็นโต๊ะทำงาน วางสินค้าเตรียมกลับบ้าน และแคชเชียร์ ส่วนเคาน์เตอร์ด้านหลังมีเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องชงกาแฟ ตู้แช่เครื่องดื่มโดยที่เคาน์เตอร์ซิงค์ล้างข้างในก็ทำจากจากวัสดุเดียวกัน

การนำเสนอร้านค้าต้องมีความเป็นมิตรและน่าดึงดูด นักออกแบบจึงเลือกใช้ตัวช่วยสำคัญคือ โคมไฟหวายสานในรูปทรงและขนาดต่าง ๆ กัน ที่ถูกร้อยอยู่บนตาข่ายโลหะสีแดงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเพดานด้านในทำหน้าที่ซ่อนโครงสร้างไฟฟ้าและให้แสงทางอ้อม โคมไฟที่ติดตั้งระดับความสูงต่ำไม่เท่ากันเรียงยาวเต็มหลังคาหน้าร้าน ทำให้รู้สึกสะดุดตาในขณะที่เต็มไปด้วยบรรยากาศความอบอุ่น ลดทอนความแข็งกระด้างของโครงสร้างแผ่นเหล็กสีแดง ๆ ที่รายล้อมได้ทันที

การตกแต่งภายในเน้นความรู้สึกเหมือนบ้าน โดยในโซนเตรียมวัตถุดิบจะมีชั้นแบบเปิดวางของใช้ ของตกแต่งน่ารัก ๆ ที่ให้สีกลาง ๆ อย่างสีขาวและสีไม้อ่อน ๆ ตัดกับสีแดงของผนังโลหะได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ back splash ยังเลือกไอเท็มที่คุ้นตาในบ้านมาตกแต่ง อาทิ แปรงทาสี สะดึงปักผ้า และของใช้ทำจากไม้และไผ่สานเติมความเป็นกันเองให้ร้านเหมือนมาเที่ยวแวะคุยบ้านเพื่อน นอกจากนี้สถาปนิกยังเลือกใช้แสงไฟประดิษฐ์สร้างมิติทางสายตาที่น่าสนใจ โดยใช้เป็นไฟซ่อนส่องสะท้อนออกมาหลังชั้นวาง

การตกแต่งพื้นที่ร้านให้น่าอยู่ ให้ประโยชน์เช่นเดียวกันกับการตกแต่งบ้าน ลองนึกภาพว่าได้ที่นี่คือ “บ้าน” มีมุมดื่มชาร้อน ๆ ในวันที่อากาศหนาว พร้อมกับได้ลิ้มรสอาหารดีๆ กับสมาชิกครอบครัวและเพื่อนฝูงที่แวะมาทักทายพูดคุยกัน ก็คงสุขใจน่าดู จากแนวคิดนี้ทำให้ Hygge เป็นช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายจากความตึงเครียดในการใช้ชีวิตประจำวัน หลังการแพร่ระบาดของเชื้อโรค แม้จะเป็นเพียงทางผ่าน แต่ก็มีศักยภาพที่จะเพิ่มความอบอุ่นใจผ่านสี พื้นผิว และแสงได้