บ้านหน้าแคบสองชั้น สร้างง่ายอยู่สบาย

17 ปี กับการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ใน Bahia de Caráquez สองครั้ง ที่มีขนาดใหญ่กว่า 7 แมกนิจูด และนั่นทำให้เกิดการถล่มของบ้านมากกว่า 60% หลังจากเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2016 ผู้คนแถบชายฝั่งทางตอนเหนือของเอกวาดอร์นับร้อยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว 7.8 แมกนิจูด เช่นเดียวกับบ้านของ Cristina López de Guillem ซึ่งมีถึงอายุ 79 ปีแล้ว Cristina สูญเสียบ้านและรายได้ที่เกิดจากการขายเสื้อผ้า จึงต้องเริ่มต้นใหม่ด้วยการแบ่งปันทรัพย์สินกับหลานชาย เป็นพื้นที่หน้าแคบเพียง 3 เมตรกว่า ๆ ซึ่งเจ้าของทั้งสองมีความต้องการที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการทำที่อยู่อาศัย แต่ก็เจรจาสำเร็จออกมาลงตัวเป็นบ้านเล็ก ๆ ที่แบ่งเป็นสองส่วนคือ ชั้นล่างสำหรับอยู่อาศัยและชั้นบนสำหรับแบ่งเช่า โดยมีบันไดให้ใช้ร่วมกัน

ออกแบบ : Juan Alberto Andrade
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านหน้าแคบ ตกแต่งผนังบล็อกช่องลม

บ้านสองชั้นทรงกล่องขนาด 98 ตารางเมตร หลังนี้ เป็นที่อยู่อาศัยขนาดเล็กหน้าแคบ หน้าตาบ้านโปร่ง ๆ ชั้นล่างตกแต่งผนังด้วยบล็อกช่องลม ชั้นบนเป็นโครงสร้างไม้กรุวัสดุโปร่งใสซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับลักษณะภูมิประเทศชายฝั่งเอกวาดอร์ใน Bahia de Caraquez ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่งทะเลขนาดเล็กที่มีประชากรประมาณ 20,000 คน เขต Sucre จังหวัด Manabí สภาพภูมิอกาศเป็นแบบร้อนชื้นอยู่ระหว่าง 22-26 องศาเซลเซียส และยังเป็นส่วนหนึ่งของวงแหวนไฟ ในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกที่เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงที่ใหญ่ที่สุดในเอกวาดอร์

คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่

พื้นที่สร้างบ้านส่วนหน้ากว้าง 3.60 เมตร และมีส่วนที่แคบที่สุดคือ 2.80 เมตร ด้วยพื้นที่ที่จำกัดจึงต้องพยายามสร้างบ้านที่ดูไม่อึดอัด ใช้งานได้มาก และตอบโจทย์สภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศไปพร้อม ๆ กัน บ้านใหม่ของ Cristina มีพื้นที่ใช้สอย 46 m2 ต่อหนึ่งชั้น (สองชั้น) ถูกแบ่งออกเป็นสองหน่วยที่อยู่อาศัยที่เป็นอิสระจากกัน คือ ชั้นล่างสำหรับผู้ใช้หลัก และชั้นบนเปิดให้เช่าเเพื่อชดเชยรายได้ของครอบครัวที่หายไปในช่วงแผ่นดินไหว แต่ละชั้นจะมีห้องนอนหลัก ห้องนอนเสริม ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องอาหารและห้องสังคม ด้านวัสดุที่ใช้ หลัก ๆ คือไม้และบล็อกช่องลม เพื่อให้สถาปัตยกรรมตอบสนองในเชิงยุทธศาสตร์กับสถานการณ์ภัยพิบัติจากธรรมชาติ และภัยพิบัติเกิดจากมนุษย์ด้วย

เปลือกบ้าน หรือ façade ที่ทำจากบล็อกช่องลมในชั้นล่าง ทำให้บ้านมีความเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากบ้านอื่น ๆ ในละแวก ช่วยให้บ้านสามารถรวมสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติภายนอกเข้าไว้กับบ้านได้ดีขึ้น เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างภายในและภายนอกกับถนนสายหลักของเมือง ในขณะที่ทำหน้าที่เป็นพื้นที่กันชนที่ส่งเสริมความปลอดภัย

ผนังที่ก่อด้วยบล็อกช่องลมเป็นช่องเปิดที่เอื้อให้ลมและแสงเดินทางเข้าสู่ตัวบ้านผ่านช่องว่างเล็ก ๆ เหล่านี้ ซึ่งเป็นความใหม่ของรูปแบบสถาปัตยกรรมในแถบนี้ และด้วยความตั้งใจที่จะเสริมความสว่างในชั้นบน สถาปนิกจึงใช้แผ่นโพลีคาร์บอเนต วัสดุพลาสติกที่มีน้ำหนักเบาและไม่คมซึ่งแบ่งเป็นแผงแบบปรับได้ สร้างฉากหน้าบ้านที่ช่วยให้การกระจายของแสงเข้าสู่ภายในทั้งชั้นบนและชั้นล่างในทิศทางเดียวกัน

บ้านแคบแต่โปร่งสบายภายใน

เมื่อเข้าสู่ตัวบ้านจะพบกับพื้นที่นั่งเล่น โปร่ง ๆ สบาย ๆ ด้วยบานหน้าต่างติดแผ่นโพลีคาร์บอเนต ทำให้แสงส่องสว่างช่วงกลางวัน แต่ความขุ่นของวัสดุทำให้คนที่อยู่ในบ้านยังคงความเป็นส่วนตัวจากถนนในระดับหนึ่ง ในส่วนของบล็อคช่องลมมีกรอบบานประตูซ้อนอยู่ด้านใน จึงไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่น ควัน จากภายนอกเข้าสู่ภายใน ในช่วงที่ต้องการรับอากาศจากนอกบ้านก็สามารถเลื่อนประตูออกได้

ห้องครัวและโซนรับประทานอาหารต่อเนื่องกันไป ผนังบ้านเน้นทาสีขาวเพื่อพรางตาให้บ้านแคบ ๆ ดูกว้างขึ้น เฟอร์นิเจอร์ ชุดโต๊ะเก้าอี้ ชุดเครื่องครัว เลือกใช้ขนาดกระทัดรัด วางชิดติดผนังด้านเดียว เพื่อให้เกิดทางสัญจรภายใน ส่วนนี้แบ่งขอบเขตการใช้งานพื้นที่ออกจากส่วนนั่งเล่นด้วยการปูพื้นกระเบื้องลายพื้นเมืองสีขาวน้ำเงิน เหมือนปูพื้นด้วยพรมผืนยาว

วัสดุพื้นบ้าน ไม้ ไม้ไผ่ ยืดหยุ่นลดร้อน

จากโจทย์การสร้างบ้านให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ที่ต้องต้านทานแผ่นดินไหวพร้อม ๆ กับต้านทานความร้อน โครงสร้างบ้านจึงทำจากจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและมีความยืดหยุ่น เช่น แผ่นไม้ โพลีไบคาร์บอเนต ไม้ไผ่กัวดัว เป็นวัสดุในท้องถิ่นที่ทำหน้าที่ฉนวนป้องกันความร้อนให้บ้านได้และง่ายต่อการสร้าง บ้านหลังนี้ใช้แรงงานในท้องถิ่น 100% การก่อสร้างใช้เวลาเกือบ 4 เดือน

ผนังโพลีคาร์บอเนต เปิดทางให้แสงซึมเข้าบ้าน

โครงสร้างผนังจากโพลีคาร์บอเนต เป็นวัสดุราคาถูกซ่อมแซมง่าย มีความยืดหยุ่น ทำให้การซึมผ่านของความสว่างและแสงเข้าสู่ตัวบ้านได้ดี เป็นผนังง่าย ๆ ที่แสดงถึงรูปแบบของความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับสภาพแวดล้อมของเมืองที่ไม่ตัดขาดออกจากกัน ในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัวอยู่