บ้านหน้าแคบ
บ้าน 2 ชั้น เปลือยอิฐ เปลือยปูน เปลือยผนัง
ถ้าพูดถึงบ้านในยุคใหม่ที่นำเอาวัสดุท้องถิ่นมาปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์แบบโมเดิร์นได้ดี หนึ่งในนั้นน่าจะมีประเทศเวียดนามอยู่ด้วย ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าสถาปนิกเลือดใหม่ในเวียดนามทำบ้านได้เป็นเอกลักษณ์และน่าสนใจ ตรงที่มักจะเปิดบ้านให้บ้านเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และจัดระบบการระบายอากาศได้ดีเพราะเป็นเมืองร้อนเหมือนบ้านเรานี่เอง วัสดุที่ใช้หลัก ๆ จะเป็นอิฐมอญธรรมดา ปูนเปลือย และแทรกด้วยฝ้าเพดานกรุไม้สาน ซึ่งเคยเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ดูเชยไปแล้ว แต่ในประเทศเวียดนามยังเคารพในสิ่งที่มีมาก่อนแล้วปรับให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างน่าชื่นชมทีเดียวครับ
ออกแบบ : Nghia-Architect
เรียบเรียง : บ้านไอเดีย
ถ้าถนนทั้งเส้นเป็นเหมือนดนตรีซิมโฟนี อาคารบ้านเรือนรูปแบบต่าง ๆ คือ ตัวโน้ตจากเครื่องดนตรีหลากชนิดที่เคลื่อนไหว ให้เสียงเพลงโลดแล่นมีชีวิตชีวา บ้านหลังนี้ก็คงจะเป็นตัวหยุดเล็ก ๆ ที่ช่วยลดกระแสความรวดเร็วของท่วงทำนอง และเติมเต็มจังหวะของเพลงให้น่าฟังยิ่งขึ้น ในขณะที่รอบตัวเต็มไปด้วยอาคารสูง แต่สถาปนิก Nghia-Architect เลือกลดขนาดบ้านให้ตัวเล็กลง เพื่อเพิ่มปอดและเว้นจังหวะหายใจให้ชุมชนและผู้อยู่อาศัยภายในไม่ถูกบีบอัดจากตึกที่ขนาบทั้งสองข้าง
บ้านเปลือกอิฐมอญเก่าในฮานอย เป็นของชายหนุ่มรุ่นใหม่ที่เพิ่งเดินทางกลับจากใช้ชีวิตในต่างประเทศนานปี เมื่อกลับมาบ้านเกิดเขาต้องการบ้านที่บรรยากาศดีให้พักผ่อนได้ทุกวัน มีความเป็นส่วนตัวแต่ต้องไม่ปิดกั้นจากภายนอก ภายในต้องการความโล่งเปิดให้บ้านโปร่งรับแสงและลมธรรมชาติได้ดี มีพื้นที่มากพอให้เพื่อน ๆ มาสังสรรค์ในวันหยุด แถมเจ้าของยังมีเพื่อนรักสี่ขามาอยู่ด้วยกัน ดังนั้นจึงต้องแบ่งสเปซของบ้านให้น้องหมาได้อยู่ร่วมกับเจ้าของแบบสบาย ๆ
Facade หน้าบ้านทำจากอิฐเก่าดูไม่ค่อยมีสีสัน วางสลับให้เกิดจังหวะโปร่งของอิฐช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวให้พื้นที่บ้านจากถนนแต่ไม่ปิดกั้นตัวเอง แล้วยังช่วยแบ่งปันบรรยากาศความร่มรื่นภายในออกสู่ชุมชนด้วย เห็นหน้าบ้านเรียบง่ายเป็นธรรมชาติแบบนี้ ชวนให้ลองเดินเข้ามาดูด้านในคงจะได้เห็นความสบายกระจายอยู่เต็มพื้นที่บ้าน
ในฮานอยซึ่งเป็นเมืองใหญ่ของเวียดนาม จะมีพื้นที่สำหรับสร้างบ้านเดี่ยวค่อนข้างน้อยและราคาแพงมาก ถึงกับมีคำกล่าวว่า “ที่ดิน 1 นิ้วมีค่าเท่ากับทองหนึ่งออนซ์” กันเลยทีเดียว เมื่อได้มาเป็นเจ้าของก็มักสร้างบ้านและตกแต่งแบบจัดเต็ม แต่ไม่ใช่กับที่นี่ เพราะด้วยพื้นที่เพียง 40 ตารางเมตร เจ้าของยังแบ่งเนื้อที่สำหรับสวนประมาณ 1 ส่วน 4 ของพื้นที่ เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในจึงได้รับความสดชื่นจากพื้นที่สวนกว้างหน้าบ้าน มีทางเดินนำเข้าสู่ตัวบ้านซึ่งเป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น
การตกแต่งภายในสถาปนิกออกแบบให้ที่นี่เป็นบ้าน “เปิด” มีเพียงผนังเป็นกรอบให้ตัวบ้าน ภายในเป็นบ้านแบบ open plan เป็นผนังล่องหน คือ ไม่มีขอบเขตผนังกั้นแบ่งพื้นที่ห้อง ทำให้ทุกพื้นที่เข้าถึงกันได้หมด ทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสอง ชั้นล่างเป็นส่วนนั่งเล่น ครัว ชั้นสองเป็นห้องนอน (ไร้ผนัง) เมื่อต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัวในโซนพักผ่อนก็เพียงแต่ขยับผ้าม่านมาปิดเอาไว้เท่านั้น
ส่วนใช้งานของบ้านทั้งสองชั้นไม่ได้สร้างเต็มพื้นที่ แต่จะทำเป็นฐานปูนขึ้นมาแล้วเหลือพื้นที่ว่างด้านข้างอาคารเอาไว้เพื่อให้อากาศระบายถ่ายเทได้ดี และเปิดให้แสงส่องลอดเข้ามาได้
ภาพจำลองการออกแบบระบบการไหลเวียนอากาศแบบธรรมชาติภายในอาคาร
สถาปนิกเลือกวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นเพื่อนำความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติและสะดวกสบายเข้าสู่ตัวบ้าน แต่ยังคงมีคุณภาพสำหรับการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย โดยภาพรวมการตกแต่งบ้านเน้นปูนเปลือยเป็นหลัก และตกแต่งเพิ่มเติมด้วยงานไม้จริง และไม้สานขัดแตะที่กรุอยู่บริเวณเพดานทุกชั้นของตัวบ้าน พื้นที่ครัวก่อปูนเปลือยตกแต่งกรุหน้าบานตู้ด้วยไม้สีธรรมชาติ เคาน์เตอร์ทำเป็นมุมมนเพื่อลดความแข็งกระด้างของพื้นที่ ซึ่งทำล้อกันกับส่วนห้องนอนชั้นบนที่ทำเป็นแท่นปูนมุมมนเหมือนกัน
ห้องน้ำคุมคอนเซ็ปปูนเปลือยและไม้เอาไว่ เพิ่มวัสดุที่ทันสมัยอย่างกระจกเข้ามาทำให้การใช้งานสะดวกสบายขึ้น และช่วยเปิดวิสัยทัศน์ให้ห้องสามารถรับความเป็นธรรมชาติได้ในขณะเข้ามาใช้งาน
บริเวณด้านข้างของอาคารนอกจากจะเว้นพื้นที่เอาไว้ให้บ้านมีช่องได้หายใจแล้ว ยังติดช่องแสง Skylight จากวัสดุโปร่งแสงเพื่อรับแสงที่ส่องเข้ามาเพิ่มความสว่างของพื้นที่ได้ทั่วถึง ห้องสุขาที่นี่จึงเท่มาก ๆ ตรงที่ไม่มีผนังปิดด้านข้างแล้วยังรับทั้งแสงและลมธรรมชาติได้เต็มพิกัด
ห้องนอนมีเฟอร์นิเจอร์เพียงเตียงติดพื้นหรือฟูกธรรมดา ถัดจากเตียงก่อผนังขึ้นแบ่งเป็นพื้นที่ห้องน้ำซึ่งต้องการความเป็นส่วนตัวมากหน่อย นอกนั้นก็มีเพียงเก้าอี้นั่งเล่นแค่ตัวเดียว เป็นการตกแต่งสไตล์มินิมอลที่เน้นเฉพาะสิ่งที่จำเป็นในการใช้ชีวิตแบบเพียงพอก็พอใจ
แม้ว่าบ้านจะเป็นปูนซึ่งมีสีเรียบให้ความรู้สึกเย็น ๆ ชืด ๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะตกแต่งให้น่าสนใจไม่ได้ ลูกเล่นที่จะใช้สร้างความน่าสนุกให้พื้นที่อย่างเช่น การจัดแสงไฟตามส่วนต่าง ๆ ของบ้าน เฟอร์นิเจอร์สีสด หรือใช้เส้นสายสีดำเข้ามาตัด ในบ้านหลังนี้โดดเด่นตรงไฟที่มุมเคาท์เตอร์ครัว ผนัง และการทำไฟให้เป็นเส้นโค้งติดกับฐานชั้นสองของบ้าน ซึ่งช่วยดึงสายตาให้บ้านน่าสนใจได้มาก
เก้าอี้โซฟาทำจากผ้าตัดปะหลากสีและบันไดเหล็กสีดำทำให้บ้านมีมิติของสีสันมากขึ้น อย่าลืมเติมต้นไม้เข้าไปในทุกจุดที่จะวางได้ เพราะสีเขียวของใบไม้ช่วยให้บ้านปูนสดชื่นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อทีเดียวครับ
การสร้างบ้านใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้ เป็นแนวทางในการเติมเต็มบ้านสำหรับใช้ชีวิตได้อย่างผ่อนคลาย โดยไม่จำเป็นต้องใช้งานพื้นที่ให้เต็มที่ทุกส่วน การได้เว้นให้พื้นที่ได้หายใจก็เหมือนกับการเปิดโอกาสให้เราได้เพิ่มลมหายใจให้ตัวเองเช่นกัน ลองนำไปเป็นอีกหนึ่งไอเดียในการทำบ้านในแบบของตัวเองกันดูนะครับ
