บ้านโมเดิร์นฟาซาดเหล็กฉลุลาย

“หน้าอย่างหลังอย่าง” หากหมายถึงบุคคลก็คงจะรู้สึกไม่น่าไว้ใจ เพราะเบื้องหน้ากับเบื้องลึกเบื้องหลังที่ต่างกัน แต่ถ้าเป็นบ้านกลับทำให้รู้สึกสนุกกับการได้รับประสบการณ์ที่หลากหลาย ในบ้านหลังเดียวจึงดูไม่น่าเบื่อ ในบ้านเราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นรูปแบบบ้านสไตล์นี้มากนัก แต่ในออสเตรเลียมีการดีไซน์ให้บ้านสองด้านต่างกันมากขึ้น เนื่องจากด้านหน้ามักจะมีเป็นงานสถาปัตยกรรมที่คลาสสิคมีคุณค่าของยุคสมัย ซึ่งมักมีข้อกำหนดในการอนุรักษษ์เอาไว้ เมื่อครอบครัวขยับขยายก็ต่อเติมข้างหลังให้หน้าตาและฟังก์ชันต่างไปเพื่อตอบโจทย์ชีวิตใหม่ ๆ ได้มากขึ้น

ออกแบบ : Joead Sett
ภาพถ่าย : Scott Burrows
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

Joe Adsett Architects ได้ออกแบบบ้านแห่งใหม่ในบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ตัวบ้านภายในและภายนอกที่ขับเคลื่อนด้วยโทนสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรียบง่ายแบบเอิร์ธโทน อย่างสีเทา สีขาว น้ำตาลแทรกสีเขียวให้ดูสดชื่นเป็นการใส่กลิ่นอายธรรมชาติในชนบทห่างไกลของออสเตรเลีย แต่ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ชุดสีเท่านั้น แต่อยู่ที่ดีไซน์บ้านด้านหน้ากับด้านหลังที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง จากภายนอกสิ่งที่เห็นคือบ้าน contemporary หลังคาสีขาวค่อนข้างปิดจากถนน แต่ภายในประกอบไปด้วยฟาซาดเหล็กฉลุและไม้ที่เปิดกว้างออกสู่สนามหญ้า

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนเนินติดถนนที่มีความลาดเอียงด้านข้าง และต่างระดับลึกลงไปด้านใน สังเกตว่าข้างโรงรถหน้าบ้านที่ปิดอยู่จะมีประตูเล็ก ๆ เป็นทางเดินให้ลงไปสู่พื้นที่ใช้ชีวิตด้านล่าง

จากบันไดลงมาจะมีประตูกระจกที่เปิดออกสู่ภายใน ซึ่งตกแต่งแบบเปิดโล่งขนาดใหญ่ เดินไปตามพื้นที่ต่างระดับสองก้าวจะลงไปที่พื้นที่รับประทานอาหารที่มีเก้าอี้สีเขียวมะกอกล้อมรอบโต๊ะอาหารสีเข้ม และผนังกรุไม้ที่เป็นลอนคลื่น เติม texture ที่อบอุ่นและน่าสนใจให้กับบ้าน

ผนังไม้ทำหน้าที่เชื่อมสายตาระหว่างพื้นที่รับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ขึ้นไปยังช่องว่างสูงสองชั้นเหนือห้องนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยโคมไฟระย้าหลายดวง ในขณะที่ประตูเป็นบานสไลด์ติดตั้งกระจกใสให้ความโปร่งเบาและเชื่อมสายตาออกสู่สนาม ก็มีสกายไลท์ช่วยเพิ่มแสงธรรมชาติในระหว่างวัน ทำให้พื้นที่ใช้งานสาธารณะชั้นล่างเต็มไปด้วยความโปร่งเบาสว่างไสวมีชีวิตชีวา

ด้านตรงข้ามโซฟานั่งเล่นคือห้องครัวซึ่งมีตู้สีดำเข้มเรียบง่ายเรียงรายอยู่ตามผนัง และไอสแลนด์ที่มีที่นั่งสำหรับนั่งในบาร์ตกแต่งด้วยไม้ สีอ่อนตัดกับสีเข้มอย่างน่าสนใจ

ขยับจากห้องนั่งเล่นในบ้านออกมาอีกนิดจะค่อยๆ ไหลไปสู่พื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งที่เชื่อมต่อออกไปยังสนามหญ้าหลังบ้านที่โปร่งโล่ง บริเวณนี้ก็ทำเป็นโครงสูงสองชั้นเช่นเดียวกันจึงดูเหมือนเป็นส่วนเดียวกันกับตัวบ้าน แต่แม้ว่าบริเวณนี้จะอยู่นอกบ้านก็ไม่กังวลกับแสง เพราะมีบานเหล็กฉลุลายสามเหลี่ยมทำหน้าที่ช่วยกรองแสงให้ไปในตัว

ด้านหลังและข้างห้องรับประทานอาหารเป็นบันไดที่ทำจากไม้ทั้งหมด ความน่าสนใจอยู่ที่การติดตั้งแสงไฟที่ซ่อนอยู่ในราวจับ ทำให้มีความปลอดภัยง่ายต่อการใช้บันไดในเวลากลางคืน

ที่ด้านบนสุดของบันไดจะเป็นห้องนั่งเล่นรอง ที่สามารถมองลงไปเห็นพื้นที่นั่งเล่นและโต๊ะทานข้าวข้างหน้า ทะลุออกไปถึงสนามหญ้าหลังบ้านได้ อีกสองด้านจะนำไปสู่ห้องนอนที่อยู่คนละปีก การกำหนดมุมมองผ่านช่องว่างที่สอดคล้องกันทำให้ชั้นบนและชั้นล่างไม่ถูกตัดขาดออกจากกัน

ในห้องนอนห้องที่หนึ่งตกแต่งง่าย ๆ มีช่องหน้าต่างแนวนอนชนมุม 90 องศา และหน้าต่างบานเกล็ดที่บิลท์โต๊ะตั้งอยู่ตามความยาวผนังสำหรับนั่งอ่านหนังสือและทำงาน ในขณะที่หน้าต่างล้อมรอบมุมห้องเหนือหัวเตียงให้ทัศนียภาพของเมืองโดยไม่มีเสามากั้นบัง ในวันที่อากาศร้อนแสงแดดมากหรือต้องการความเป็นส่วนตัว ก็เลือกดึงม่านม้วนลงมาบัง ห้องนี้ช่องแสงไม่สูงมากจึงเลือกม่านม้วนที่ดูเข้ากันได้ดีกว่าม่านแบบอื่นๆ ในห้องนอนอีกห้องหนึ่ง ออกแบบผนังระบบ 2 ชั้น ชั้นในเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัวขนาดเล็ก ขณะที่เปลือกนอนเป็นบานโลหะฉลุลายกราฟฟิกให้ความเป็นส่วนตัวจากสายตาผู้คนที่ผ่านไปมา

ในห้องน้ำปูกระเบื้องสีเทาคลุมผนังและพื้น ทำให้รู้สึกถึงพื้นที่ที่เป็นผืนเดียวดูกว้างขึ้น ขณะที่ฉากกั้นกระจกแยกส่วนชาวเวอร์และอ่างอาบน้ำออกจากส่วนอื่นๆ ของห้องแบบไร้รอยต่อ เหนือโวนเปียกยังไม่ skylight ทำให้ห้องน้ำแห้งเร็วขึ้นไม่สะสมความชื้นภายใน