บ้านสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนคลาสสิค

Patio House ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยอันเงียบสงบในเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เป็นบ้านสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนคลาสสิค พื้นที่ 180 ตร.ม. ออกแบบมาสำหรับครอบครัว 5 คน โดยชั้นล่างมีพื้นที่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของพื้นที่ทั้งหมด สถาปนิกตั้งใจออกแบบหลังคาแหลมเฉลียงสูงขึ้นไป เพื่อสร้างพื้นที่ภายในที่กว้างขวางพร้อมความสูงสองเท่าที่ใช้ประโยชน์แนวตั้งได้มากขึ้น ทำให้เหลือพื้นที่รอบบ้านทำสนามหญ้าให้มากที่สุดและสร้างบ้านที่อบอุ่น เป็นกันเอง มีความเป็นส่วนตัว แต่ยังคงความกว้างขวางและสะดวกสบาย

ออกแบบ : Jonathan Canetti Architecture & Design
ภาพถ่าย : Ido Adan
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

การเลือกดีไซน์บ้านไม่เพียงคำนึงถึงประโยชน์การใช้งานในเชิงพื้นที่เท่านั้น แต่ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน หรือแบบเขตกึ่งเขตร้อน ก็มีส่วนสำคัญในการออกแบบบ้านด้วย การออกแบบบ้านให้ลาดเอียงไปเหนือทางเข้า จะปกป้องบ้านจากแสงแดดและฝน ให้ร่มเงาที่จำเป็นมากในช่วงเช้าเมื่อดวงอาทิตย์กระทบหน้าต่างสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ในห้องครัว ในช่วงฤดูร้อนจะมีการระบายอากาศตามธรรมชาติไปยังพื้นที่โดยรอบ และในฤดูหนาวจะเป็นพื้นที่กลางแจ้งที่มีหลังคาโปร่งใสเอาไว้ให้นั่งเล่นอุ่นๆ

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

เมื่อเปิดประตูเข้าสู่ภายในจะเห็นว่า ตัวบ้านสร้างเป็นแกนตรงเชื่อมระหว่างประตูทางเข้า ประตูหน้า และประตูกระจกที่นำไปสู่สวนหลังบ้าน เมื่อยืนอยู่ที่ทางเข้า เจ้าของบ้านจะสามารถสัมผัสได้ถึงความยาวของแปลงนั้น ผ่านตัวที่มีเพดานสูงสองเท่าบ้านที่ตรงไปยังสนามหลังบ้าน ในขณะที่พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดของบ้าน คือ ห้องครัว ลานภายใน และห้องนั่งเล่น จะตั้งอยู่ด้านหนึ่งของแกนนี้ ส่วนอีกด้านจะเป็นฟังก์ชันส่วนตัว อาทิ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนอนแขก

จากประตูบ้านเลี้ยวซ้ายจะเป็นส่วครัว เมื่อมองดูภาพระยะใกล้ของพื้นที่ห้องครัว จะเห็นพื้นที่ทำอาหารที่ทันสมัยและสว่างสดใสด้วยผนังกระจกโปร่งๆ เต็มพื้นที่จากพื้นถึงเพดาน และช่องแสงสามเหลี่ยมเหนือเค่น์เตอร์ครัว เฟอร์นิเจอร์ตู้ไม้ ชั้นวางไม้ที่สอดคล้องกับโครงสร้างของบ้านที่โชว์งานไม้ในจุดที่ต้องการเน้นให้โฟกัสสายตา ทั้งห้องครัวและห้องนอนใหญ่มีเพดานลาดเอียงสูงไล่ระดับตั้งแต่ 3 ไปถึง 4.5 เมตร เพื่อให้ความรู้สึกถึงพื้นที่ โต๊ะอาหารถูกวางไว้ใต้จุดสูงสุดของหลังคาอย่างระมัดระวัง และอยู่ตรงไปที่หน้าประตูทางเข้าที่เชื่อมต่อคอร์ทยาร์ดได้

ขยับเดินเลยบันไดมาสู่ปลายอีกด้านของบ้าน จะค่อยๆ ผ่านโถงทางเดินที่มีโคมไฟทรงลูกโลกสีขาวแขวนอยู่จากเพดานสูง 6 เมตร นำทางไปสู่พื้นที่สาธารณะอีกด้านที่เป็นห้องนั่งเล่น ห้องอ่านหนังสือ และพื้นที่ทำงาน ซึ่งสถาปนิกได้สร้างความเชื่อมต่อระหว่างครัว ห้องทานข้าว มาที่ห้องนั่งเล่น โดยมีโถงทางเดินและลานภายในที่เชื่อมต่อด้วยประตูกระจกบานใหญ่ โอบล้อมลานกลางแจ้งเป็นรูปตัว U ตามแบบบ้านเมดิเตอร์เรเนียนคลาสสิคที่จะมีพื้นที่ลานโล่งๆ สำหรับนั่งเล่นชมสวน อาบแสงแดด

คอร์ทยาร์ดกลางแจ้งคลุมด้วยหลังคาโปร่งใส ที่เชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นและพื้นที่ห้องครัวที่วางตำแหน่งให้อยู่ละด้านของลาน จะนำแสงธรรมชาติเข้ามายังส่วนด้านในของบ้าน สามารถเปิดรับลมและสัญจรเข้าถึงกันได้หมดผ่านประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ทั้งสามด้าน สมาชิกในบ้านจึงสามารถมองเห็นลานได้จากเกือบทุกจุดในบ้าน

พื้นที่ห้องนั่งเล่นเต็มไปด้วยแสงจากผนังและประตูกระจกขนาดใหญ่ ที่เปิดออกเชื่อมต่อกับสนามหญ้ากลางแจ้งได้ทั้งสองข้าง ทำให้ห้องนี้ดูผ่อนคลาย โปร่งโล่ง รับแสงธรรมชาติเพิ่มความอบอุ่นได้ดีในฤดูหนาว แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อถึงฤดูร้อนก็เปิดระบายอากาศ พร้อมกับออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งได้แบบไร้อุปสรรค

หน้าบ้านมีหลังคาลาดเอียงทำฝ้าตามแนวเพดานแบบ lean-to ความสูงของเพดานยิ่งสูงมาก ประกอบกับการตกแต่งฝ้าด้วยคานไม้ขนาดใหญ่ ทำให้บ้านยิ่งดูมีพื้นที่สูงขึ้นไปอีก นอกจากลูกเล่นที่เติมความ”รู้สึก” ถึงพื้นที่และจุดโฟกัสสายตาแล้ว บนหลังคายังมีช่องแสงสกายไลท์แบบเปิด-ปิดได้สองช่อง โดยหนึ่งช่องอยู่เหนือโต๊ะอาหาร และอีกช่องหนึ่งอยู่ด้านบนสุดของบันได มีหน้าที่รับแสงเข้าสู่ตัวบ้านจากด้านบนลงมาสู่ภายใน เพิ่มความสว่างความอบอุ่นในฤดูหนาว และเปิดออกจะปล่อยให้มวลอากาศร้อนระบายออก หลังคาที่สูงจากพื้นถึงเพดานมากกว่าบ้านทั่วไปยังเอื้อให้มวลอากาศร้อนยิ่งลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงได้ดี รวมกับช่อง skylight เปิดได้บนหลังคารับอากาศร้อน ทำให้บ้านเย็นลงอย่างเป็นธรรมชาติในฤดูร้อน

อีกด้านหนึ่งของแกนมีห้องส่วนตัวทั้งหมด: ห้องนอนเด็ก ห้องน้ำหลัก ห้องพักแขก และห้องสุขาสำหรับแขก บันไดที่นำไปสู่ห้องนอนใหญ่ของผู้ปกครองแยกพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนตัว เนื่องจากมีเพียงห้องนอนใหญ่ของผู้ปกครองเท่านั้นที่วางอยู่บนชั้นบนสุด จึงกำหนดรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของหลังคา