บ้านโมเดิร์นที่อยู่อย่างสุขใจ

ในสังคมสมัยใหม่ของเวียดนาม มีคุณแม่ยังสาวจำนวนมากประสบปัญหาหลังจากให้กำเนิดบุตร เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้เหล่าคุณแม่ต้องออกมาทำงานในบริษัทต่างๆ หลังจากกลับบ้านก็ต้องดูแลลูกในเวลาเดียวกัน เข้าทำนองมือก็ไกวดาบก็แกว่ง ภาวะกดดันแบบนี้ทำให้คุณแม่จำนวนมากมีอาการเครียด ผสมกับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจจะทำให้ซึมเศร้าหลังคลอดได้ง่าย สถาปนิกจึงต้องการดีไซน์บ้านที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย สามารถใช้ชีวิตได้ง่าย และดูแลเด็ก ๆ ได้สะดวกสบายใจ

ออกแบบ : Story Architecture
ภาพถ่าย : Quang Dam
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านโมเดิร์น สร้างสุขสู่ครอบครัว

บ้านนี้ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองตรังบอม, ดองไน ประเทศเวียดนาม ซึ่ง Story Architecture ตั้งใจออกแบบมาเพื่อครอบครัวหนุ่มสาว ที่ต้องการลดแรงกดดันในการเลี้ยงดูสมาชิกเด็กเล็กในครอบครัวเพิ่มอีก 2 คน ทีมงานเห็นว่าในขณะที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำงาน ประหยัดค่าใช้จ่ายและดูแลเจ้าตัวน้อยไปพร้อม ๆ กัน “บ้าน” จึงจำเป็นต้องมีส่วนอย่างมากในการช่วยสนับสนุนการดูแลเด็กให้เติบโตในสภาวะที่ดี และช่วยผ่อนเบาแรงพ่อแม่ได้ด้วย ซึ่งบ้านโมเดิร์นสีขาวสะอาดตาหลังนี้สามารถตอบโจทย์ชีวิตของครอบครัวนี้ได้เป็นอย่างดี

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้านที่ดีนั้นควรจะมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนได้อย่างสบาย ๆ เพื่อเอาไว้ให้สมาชิกในบ้านได้ใช้เวลาว่างผ่อนคลายหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากกิจกรรมประจำวัน บ้านนี้จึงมีเฉลียงกว้างๆ กึ่งกลางแจ้งโล่งๆ ที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นในร่ม ในช่วงที่แดดร่มลมตก อากาศเย็นสบาย ก็มาซึมซับบรรยากาศ ดูเด็ก ๆ เล่นสนุกหน้าบ้าน พร้อมทักทายเพื่อนบ้านที่เดินผ่านไปมา

ในบ้านที่มีเด็ก ความปลอดภัยในการใช้งานเป็นส่วนที่สำคัญ นักออกแบบจึงพยายามลดพื้นที่ต่างระดับให้เหลือเท่าที่จำเป็น พื้นวัสดุลายไม้ป้องกันการเดินสะดุดหกล้ม เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นเพื่อสร้างพื้นที่ใช้งานที่โปร่งโล่งให้เด็ก ๆ เดินหรือวิ่งได้สะดวก เลือกวัสดุที่ไม่เป็นอันตรายไม่ค่อยมีเหลี่ยมมุมแหลมคม

วางครัวกลางบ้านมองเห็นลูกทุกทิศทาง

เพื่อให้ง่ายต่อการปรุงอาหารในครัวในขณะที่ต้องดูแลเด็กทารกไปด้วย พื้นที่ห้องครัวจึงถูกวางไว้ใจกลางบ้าน จากตำแหน่งนี้คุณแม่จะสามารถสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของลูกในพื้นที่เล่นที่เปิดอิสระได้ ช่องว่างโถงสูงที่อยู่เหนือพื้นที่ครัวสร้างพื้นที่โล่งสบายช่วยให้แม่ผ่อนคลายเมื่อทำอาหาร จากที่นี่แสงแดดและลมพัดจะผ่านลงมาจากด้านบนถึงพื้นผ่านช่องแสงและช่องลมที่จัดไว้ในตำแหน่งต่าง ๆ ทำให้บ้านเต็มไปด้วยสุขภาวะที่ดี นอกจากช่วยลดภาระการใช้ไฟฟ้าประหยัดค่าไฟฟ้าส่องสว่างได้มากแล้ว แสงธรรมชาตินี้มีผลดีอย่างมากกับการป้องกันสภาวะซึมเศร้าของคุณแม่ด้วย

โถงสูงโล่งสบาย แดดส่องลดค่าไฟ แถมต้านเศร้า

บ้านปกติทั่วไปแต่ะชั้นจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ประมาณ 2.6 – 3.0 เมตร ซึ่งเป็นความสูงที่พอดีกับการอยู่อาศัย แต่สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มความรู้สึกพิเศษให้กับพื้นที่ในบ้าน สามารถทำให้ด้วยเพิ่มระยะจากพื้นถึงฝ้ามากขึ้นอีกเท่าแบบ double volume ไม่ว่าจะเป็นโถงต้อนรับหน้าของบ้าน ห้องนั่งเล่น หรือครัว ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความโอ่โถงโปร่งสบายให้พื้นที่ภายในบ้านได้มากขึ้น Double Space ยังช่วยให้การหมุนเวียนอากาศภายในดีขึ้น เพราะเอื้อให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงและระบายออกจากตัวบ้านในตำแหน่งที่ออกแบบรับไว้ได้ดีขึ้น บ้านนี้ยังจึงคงความเย็นสบายโดยแทบไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศให้สิ้นเปลืองเงิน

อีกหนึ่งผลพลอยได้ของการเจาะโถงสูงกลางบ้านแบบนี้ คือ สามารถใช้พื้นที่รอบ ๆ ช่องว่างสร้างประโยชน์ในการใช้งาน โดยที่มีการเชื่อมต่อพื้นที่ในแนวตั้งให้สามารถมองเห็นกันได้อย่างใกล้ชิดแม้จะอยู่คนละชั้น ซึ่งบ้านที่ปิดเพดานทึบทั้งหมดจะขาดส่วนนี้

ในวัฒนธรรมเดิม ๆ ของเวียดนามเด็ก ๆ มักจะนอนห้องเดียวกับพ่อแม่จนกว่าพวกเขาจะอายุมากกว่า 6 ปี ซึ่งจุดนี้ก็มีผลต่อการใช้ชีวิตคู่ของผู้ปกครองที่ไม่เป็นส่วนตัว ในบ้านนี้จึงขยายเตียงเสริมของทารก มีม่านแยกการใช้งานในบริเวณเดียวกัน เมื่อเลื่อนปิดม่านก็รับประกันความเป็นส่วนตัวในทุกกิจกรรม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มพื้นที่อ่านหนังสือและพื้นที่เล่นเพื่อให้เด็ก ๆ ได้ผ่อนคลาย ลดแรงกดดันต่อพ่อแม่ในการดูแลครอบครัวด้วย