เมนู

5 เทรนด์บ้านปี 2021 อยู่สบายในยุค New Normal

เทรนด์บ้านอยู่สบาย 

เทรนด์ในการออกแบบบ้านไม่เคยหยุดนิ่ง ในแต่ละปีจะมีทิศทางใหม่ ๆ ที่น่าจับตามอง อย่างในปีก่อนต้องยกให้บ้านสำหรับผู้สูงวัย ซึ่งเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางประชากรศาสตร์ ส่วนในปี 2021 ซึ่งเป็นปีที่มีความเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์โรคระบาด และฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกมิติการใช้ชีวิต จนสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดคำถามว่า “บ้านสำหรับยุคปัจจุบันควรเป็นเช่นไร” 

เทรนด์บ้านปีนี้จึงเริ่มเห็นการปรับเปลี่ยน เพื่อให้สอดคล้องกับปัจจัยภายนอกที่ไม่เหมือนเดิม ต้องมีความชัดเจนด้านฟังก์ชันหรือประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” รวบรวม 5 เทรนด์บ้านที่น่าสนใจควรค่ากับการลงทุน ทั้งในเรื่องการจัดฟังก์ชันควบคู่ไปกับนวัตกรรมที่มุ่งเพิ่มคุณภาพในการใช้ชีวิตที่ยิ่งอยู่ ยิ่งคุ้ม ลงทุนครั้งเดียวก็สามารถใช้งานได้ดีในระยะยาว

สนับสนุนโดย : SCG Active AIRflow System
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

Work From Home

1. บ้านทำงานได้ พร้อมอยู่ตลอดทั้งวัน 

ปกติแล้วเรามักจะแยกบ้านออกจากการทำงาน แต่ในช่วงหลายปีมานี้รูปแบบของการใช้ชีวิตและมุมมองการทำงานของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปมาก เพราะโลกถูกเชื่อมต่อด้วยการสื่อสารไร้สาย ทำให้หลาย ๆ อาชีพไม่จำเป็นต้องมีออฟฟิศ สามารถนั่งทำงานที่ใดก็ได้ขอเพียงแค่มีคอมพิวเตอร์และสัญญาณอินเตอร์เน็ต ประจวบกับไวรัสโควิดที่กำลังระบาด ทำให้หลายออฟฟิศจำเป็นต้องแยกห่าง ต่างคนต่างทำงานที่บ้านลักษณะ Work From Home บางออฟฟิศแค่ชั่วคราวและมีหลายออฟฟิศเปลี่ยนแปลงการทำงานไปตลอดกาล

เมื่อการทำงานที่บ้านกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน บ้านสมัยใหม่จึงไม่ใช่แค่พื้นที่พักผ่อนหลับนอนเท่านั้น แต่ต้องมีพื้นที่สำหรับนั่งทำงานของคุณพ่อ คุณแม่ นั่งเรียนออนไลน์หรือทำกิจกรรมของเด็ก ๆ ใครที่กำลังออกแบบบ้านใหม่จึงต้องวางแผนห้องเหล่านี้เผื่อไว้ ซึ่งตำแหน่งห้องทำงานที่ดีหากเป็นไปได้ควรจัดให้ตำแหน่งอยู่ห่างจากห้องนอน เพื่อให้ระยะห่างของพื้นที่ช่วยเบรคอารมณ์ ไม่รบกวนการพักผ่อน กรณีบ้านสองชั้นที่มีห้องนอนชั้นบน ควรเลือกห้องทำงานไว้ชั้นล่าง จัดไว้ฝั่งทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ เป็นทิศที่แสงแดดไม่ร้อนมาก แสงที่ส่องเข้ามาจะไม่กระทบรบกวนสายตา การจัดวางห้องทำงานไว้ชั้นล่างยังมีข้อดีหลายด้าน ช่วยให้ผู้ใช้งานใกล้ชิดพื้นที่สวน และโดยปกติแล้วชั้นล่างจะเย็นสบายกว่าชั้นบน จึงช่วยลดพลังงานไฟฟ้าได้ดีครับ

แต่สำหรับบ้านคนที่อาศัยอยู่บ้านหลังเดิม การปรับปรุงบ้าน Home Renovation ให้สอดคล้องกับการใช้งานในรูปแบบใหม่ ๆ นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียว โดยอาจเปิดผนังในส่วนที่ปิดทึบให้กว้างด้วยกระจก เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่ง นั่งทำงานได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด หรือกั้นผนังแบ่งโซนเป็นมุมนั่งทำงานเล็ก ๆ ให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และไม่เพียงแค่การปรับปรุงในโซนพื้นที่ทำงานเท่านั้น เพื่อให้บ้านพร้อมอยู่ตลอดทั้งวัน อาจทำการปรับปรุงห้องครัว ให้ทำอาหารได้สนุกกว่าเดิม รองรับยุค New Normal ที่ใคร ๆ ก็เป็นเชฟได้

courtyard-design

ภาพประกอบ : decoralert.com

2. บ้านในสวน สวนในบ้าน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าบ้านที่มีแต่สิ่งก่อสร้างขาดพื้นที่สีเขียว เป็นบ้านที่ดูแห้งแล้งไร้ชีวิตชีวา เทรนด์ที่อยู่อาศัยยุคปัจจุบัน ผู้คนเน้นสิ่งแวดล้อม เน้นอนุรักษ์ธรรมชาติกันมากขึ้น โดยการนำแนวคิด “Inside out-Outside in” ที่มีหลักการนำพาธรรมชาติเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบ้านอย่างใกล้ชิดและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับผู้พักอาศัยมากขึ้น  วิธีการง่าย ๆ คือการนำไม้ประดับมาวางไว้ในมุมหนึ่งของห้อง จัดโต๊ะทำงานด้วยแคคตัสต้นเล็ก ๆ เพื่อเพิ่มความสบายตา หรือบ้านไหนที่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ สามารถสวนแนวตั้งตามจุดต่าง ๆ ได้เช่นกัน ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น

ส่วนบ้านที่สร้างใหม่หรือกำลังรีโนเวท อาจออกแบบคอร์ทยาร์ดไว้ใจกลางตัวบ้าน เสมือนสวนเป็นองค์ประกอบหนึ่งของภายในบ้าน ไม่ได้ถูกจัดแยกอยู่หน้าบ้านหรือหลังบ้านเหมือนบ้านยุคก่อน ๆ เป็นสวนที่ก่อให้เกิดการใช้งานจริง ผู้อยู่อาศัยมองเห็นสวนในขณะนั่งอยู่ภายในบ้าน หากบ้านที่มีที่ดินจำกัดหรือทิศทางบังคับ จำเป็นต้องออกแบบให้เปิดโปร่งจากหน้าบ้าน อาจแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีเพิ่มฟาซาด ออกแบบให้มีระแนงบังตา จะช่วยให้บ้านสัมผัสธรรมชาติมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันยังได้การอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัว

scg-solar-roof

3. บ้านยุคใหม่ ต้องผลิตพลังงานเองได้

เมื่อการอยู่อาศัยภายในบ้านยุคปัจจุบัน มีระยะเวลายาวนานกว่าอดีต สิ่งที่ตามมาคือค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงขึ้น ประจวบกับเทรนด์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ต้องการพลังงานสะอาดเพื่อลดการสร้างมลพิษ บ้านยุคปัจจุบันจึงต้องการพลังงานทางเลือก อย่างพลังงานแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซลล์

ปัจจุบันการนำโซลาร์เซลล์มาใช้กับบ้านพักอาศัยในประเทศไทยได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้อยู่อาศัยตลอดทั้งวันจะเกิดความคุ้มค่ามากกว่าบ้านที่อยู่อาศัยเฉพาะช่วงเย็นหรือกลางคืน เนื่องด้วยพลังงานแสงอาทิตย์สามารถผลิตได้ในยามกลางวัน การใช้เครื่องไฟฟ้าขณะที่แสงแดดเจิดจ้า จึงสามารถใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ได้โดยตรง ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้ารายเดือนได้มากถึง 60% แต่สำหรับบ้านที่ใช้งานเฉพาะกลางคืน อาจยังไม่คุ้มค่าต่อการใช้งานครับ

สิ่งที่ผู้ออกแบบต้องคิดเผื่อ คือ พื้นที่การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ หลังคาบ้านตำแหน่งดังกล่าวจะต้องหันรับแสงแดดได้ดี โดยแนะนำให้หันด้านทิศใต้หรือตะวันตกเฉียงใต้ จะช่วยให้การผลิตไฟฟ้าเต็มประสิทธิภาพ การนำระบบโซลลาร์เซลล์มาใช้ร่วมกับบ้าน เป็นหลักการออกแบบแนวคิด Passive Design แม้เจ้าของบ้านจะต้องลงทุนจ่ายก่อนในตอนแรก แต่ต้นทุนนี้จะถูกผ่อนให้กับค่าไฟฟ้ารายเดือนในระยะ 7-9 ปี และหลังจากนั้นคือกำไรที่เจ้าของบ้านจะได้ใช้ไฟฟ้าฟรีไปอีก 20-30 ปี หรือตลอดอายุการใช้งานของแผงโซลาร์เซลล์ เป็นอะไรที่ ยิ่งใช้ ยิ่งคุ้มครับ

smart home

4. บ้านแห่งเทคโนโลยี ( Smart Home )

ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ยุค 5G ยุคที่ช่วยให้อุปกรณ์ Smart Home ต่าง ๆ ใช้งานได้อย่างลื่นไหลและเสถียร ปัจจุบันเราจึงสามารถเปิดดูทีวีได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่จำเป็นต้องต่อสายจากเสาอากาศหรือต่อดาวเทียมให้วุ่นวาย เพียงแค่มีกล่องรับสัญญาณและอินเตอร์เน็ต เพียงเท่านี้ก็สามารถเปิดดูทีวีแบบไร้สายได้อย่างคมชัดและลื่นไหล

เทคโนโลยี Smart Home จะถูกนำมาใช้กับบ้านยุคปัจจุบันมากขึ้น เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตที่ต้องการความสะดวกสบายให้มากขึ้นไปอีกระดับ มีการใช้นวัตกรรมอัจฉริยะทั้งภายนอกและภายในมาช่วยในการควบคุมระบบต่าง ๆ ของบ้านผ่านเครื่องมือสื่อสารไร้สายทางไกลหรือทำงานร่วมกับอุปกรณ์เฉพาะของบ้านโดยอัตโนมัติตามคำสั่งของเรา เช่น คำสั่งเปิดปิดไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ , การตั้งเวลาทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้า, การตรวจสอบกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ แม้ไม่อยู่บ้านก็สามารถดูแลบ้านให้เรียบร้อย สะอาด ปลอดภัย พร้อมต้อนรับการกลับบ้านและยังช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้นด้วย  หรือแม้แต่ผู้ช่วยทำความสะอาดอย่าง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น หุ่นยนต์ถูพื้น ปัจจุบันสามารถตั้งค่าให้หุ่นยนต์เหล่านี้ทำงานอัตโนมัติได้เช่นกัน บ้านสร้างใหม่หรือบ้านที่กำลังปรับปรุง จึงมักออกแบบให้พื้นมีความราบเรียบ ไม่ต่างระดับกันจนเกินไป เพื่อให้หุ่นยนต์ทำงานได้อย่างทั่วถึง และแม้ว่าการลงทุนเกี่ยวกับอุปกรณ์ Smart Home  จะมีต้นทุนค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ ทั้งการทุ่นแรง การสร้างความปลอดภัย การประหยัดไฟฟ้าในระยะยาวก็นับว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียว

Active- AIRflow-system
5. บ้านสุขภาพดี  (Home Wellness)

เทรนด์สุขภาพในปี 2021 ไม่ใช่แค่ตื่นตัวเรื่องการออกกำลังกายหรือทานอาหารสุขภาพเท่านั้น หลังจากต้องเผชิญกับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และไวรัสมากว่า 1 ปี จึงเริ่มไม่มั่นใจกับการทำกิจกรรมนอกบ้านและหันมาทำกิจกรรมในบ้านมากขึ้น หลายคนจึงลงทุนกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ภายในบ้านปลอดฝุ่นพิษและสามารถกรองเชื้อโรคได้ เพื่อรักษาระดับคุณภาพอากาศที่ดีและเหมาะกับการสูดลมหายใจในทุก ๆ เวลา อาทิ การติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ, ติดตั้งมุ้งลวดกันฝุ่น หรือการติดตั้งระบบ Active Airflow ที่ครอบคลุมทั้งในการระบายอากาศ ป้องกันฝุ่น ลดความอับชื้น รวมถึงลดความร้อนสะสมภายในบ้าน

ระบบ Active AIRflow นวัตกรรมลดร้อน กันฝุ่น PM 2.5

เอสซีจีมีนวัตกรรมทางเลือกใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ภายในบ้านมีคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นกับ Active AIRflow™ System ซึ่งออกแบบภายใต้แนวความคิด Cool Comfort Technology เป็นการสร้างกลไกการหมุนเวียนอากาศให้กับบ้านทั้งหลัง ระบายความร้อนออกจากตัวบ้านและใต้โถงหลังคา ประกอบด้วยการทำงานควบคู่กัน 3 กระบวนการ

  • เริ่มต้นจากการเติมอากาศเข้าทางผนังบ้านผ่าน Intake Air Grille (ช่องเติมอากาศติดผนัง)
  • Ceilling Ventilator (ชุดระบายอากาศฝ้าเพดาน) ทำหน้าที่ดูดอากาศร้อนออกสู่ฝ้าเพดาน
  • ระบายอากาศร้อนออกทางโถงหลังคาผ่าน Solar Roof The Ventilator (ชุดกระเบื้องระบายความร้อนในโถงหลังคา)

ระบบ Active AIRflow จะทำงาน 7-10 รอบต่อชั่วโมง จึงเป็นตัวกระตุ้นให้มีการถ่ายเทความร้อนออกจากตัวบ้านและโถงหลังคา แม้ผู้อยู่อาศัยจะปิดบ้านไว้ตลอดทั้งวัน อากาศภายในบ้านก็ยังหมุนเวียนได้ดีเพราะมีอากาศใหม่ตลอดเวลา จึงช่วยลดฝุ่นมลพิษ เสียงรบกวนจากภายนอก และควบคุมคุณภาพอากาศภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Active AirFlow System

Active AIRflow™ System ยังมีตัวกรอง (Filter) ที่ทำหน้าที่กรองอากาศก่อนที่จะเข้ามาสู่ตัวบ้านถึง 3 ชั้น สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ดี อากาศภายในบ้านจึงสะอาดปราศจากฝุ่น PM 2.5 ป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ภายในบ้านได้ ลดกลิ่นอับชื้น ตอบโจทย์บ้านที่มีสมาชิกเป็นภูมิแพ้หรือโรคระบบทางเดินหายใจ สามารถหลบภัยมลพิษภายนอกได้อย่างแท้จริง


สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจการติดตั้ง Active AIRflow™ System เพื่อให้บ้านอยู่สบาย ไม่ร้อนอบอ้าว มั่นใจในคุณภาพอากาศสามารถสูดลมหายใจได้เต็มปอด สามารถขอรับคำปรึกษาและใช้บริการได้ที่ SCG Experience, SCG Home solution ซึ่งมีบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การสำรวจหน้างาน ประเมินราคา ออกแบบ และติดตั้ง

รายละเอียดเพิ่มเติม

เว็บไซต์ :  https://bit.ly/3rxGY5c | โทรศัพท์ : 02-586-2222

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด Advertise


โพสต์ล่าสุด