บ้านสองชั้นขนาดกะทัดรัด
“ขนาดของบ้านไม่ได้เป็นสิ่งที่กำหนดความสุขเสมอไป” ข้อความนี้ดูจะมีความจริงอยู่ไม่น้อย เพราะสำหรับบางคนการได้อยู่ในบ้านที่ขนาดเล็กลงมา แต่มีคนที่รักและเข้าใจอยู่ด้วยการตกแต่งสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้อบอุ่น บริบทรอบบ้านจัดอย่างน่าอยู่ ทุกองค์ประกอบที่ว่ามาล้วนมีส่วนสร้างความสุขใจที่แท้จริงในการเป็นครอบครัวได้ทั้งนั้น บ้านหลังนี้ที่มีชื่อ Little home ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่สร้างเพื่อเริ่มต้นครอบครัวเล็ก ๆ แม้จะมีพื้นที่ขนาดกว้างพอจะสร้างบ้านหลังใหญ่ได้ แต่เพื่อพิจารณาถึงจำนวนสมาชิกที่มีเพียง 2 คน ประกอบกับการใช้งานและการดูแล ทำให้ตัดสินใจได้ว่าขนาดเท่านี้ก็พอดีอย่างลงตัว
ออกแบบ : OOstudio
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
Little Home เป็นบ้านสองชั้นขนาดกะทัดรัด ที่สร้างเพิ่มในพื้นที่บ้านคุณพ่อคุณแม่เพื่อใช้เป็นเรือนหอ โดยตั้งอยู่บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าแยกตัวออกจากบ้านใหญ่ ด้วยพื้นที่ที่จำกัดเพียง 80 ตารางวา จึงต้องคิดใหม่เพื่อให้บ้านมีพื้นที่ใช้สอยที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์มากที่สุด ในสไตล์ที่ดูเรียบง่ายแต่ดูมี “อะไร” ที่แทรกอยู่อย่างน่าสนใจ เริ่มจากในส่วนของดีไซน์จะเห็นจากด้านข้างว่าเป็นบ้านหลังคาจั่วที่มีองศาไม่เท่า เพราะมีความลาดเอียงลงมาข้างหลังมากกว่า ซึ่งจะทำให้การไหลของน้ำฝนระบายออกจากหลังคาได้ดี
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
ผนังบ้านฝั่งที่หันออกสู่ถนนเป็นอีกหนึ่งจุดโฟกัสสายตาที่ทำให้ต้องหันกลับมามอง เพราะพื้นผิวผนังไม่ได้ฉาบเรียบเหมือนบ้านที่เราคุ้ยเคยทั่วไป แต่เหมือนมีปล่องเล็ก ๆ ยื่นออกมาเกือบเต็มพื้นที่ ตรงจุดนี้เป็นช่องลมที่ตั้งใจติดตั้ง เพื่อเป็นเสมือนถุงลมเล็ก ๆ ให้บ้านได้สร้างการไหลเวียนของลม เข้าไปสู่พื้นที่ภายในบ้านได้โดยไม่เสียความเป็นส่วนตัว
หันกลับไปมองภายในบริเวณบ้าน จะเห็นว่ามีบ้านหลังใหญ่กว่าอยู่ข้าง ๆ เมื่อวางต่อกันจะเหลื่อมกันเป็นรูปตัว L ซึ่งวิธีนี้สถาปนิกตั้งใจวางตำแหน่งไม่ให้อาคารบังทิศทางแสงและลมซึ่งกันและกัน ทั้งสองอาคารมีรูปลักษณ์ สี และวัสดุ ให้ความรู้สึกกลมกลืนกันไม่แปลกแยก แม้จะสร้างกันคนละยุคสมัยก็ตาม
บ้านใหม่ยังเต็มไปด้วยช่องเปิดรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งที่เรียงตัวอยู่ถึง 8 บาน หรือประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง ซึ่งเป็นกลวิธีหนึ่งในการเบลอขอบเขตระหว่างภายในภายนอก ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถมองออกไปยังภายนอกได้เต็มที่ ในขณะเดียวกันภายในบ้านก็ได้รับแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอ พร้อมกับสามารถระบายอกากาศไหลเวียนผ่านช่องทางเหล่านี้ได้ตลอดเวลาแม้จะเปิดกว้างและมีส่วนประกอบของกระจกใสค่อนข้างมาก แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมา เพราะส่วนหน้าบ้านหันหน้าเข้าหาสวนในบ้าน มีพุ่มไม้ขนาดใหญ่ด้านหน้าช่วยบังสายตาอีกแรง
ในแง่ของการจัดการฟังก์ชัน สถาปนิกออกแบบให้บริเวณชั้นล่างเป็นส่วนห้องนั่งเล่นและครัว ที่เปิดออกต่อเชื่อมกับเฉลียงและและชานบ้านขนาดใหญ่ ทำให้ส่วนกลางแจ้งกับในร่มมีความต่อเนื่องเหมือนเป็นพื้นที่เดียวกัน
เมื่อก้าวเข้ามาในบ้านจะรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนและะผ่อนคลายกับพื้นปูด้วยวัสดุลายไม้ และผนังสีขาวสะอาดตา ที่ชั้นล่างจัดแปลนแบบเปิดมีห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อกับครัวเล็ก ๆ กะทัดรัดพร้อมเคาน์เตอร์ครัวแบบ open kitchen ไม่มีผนังแบ่งเป็นห้อง ๆ ทำให้บ้านลื่นไหลเข้าถึงกันได้หมด จุดนี้มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่เพดานบางส่วนจะถูกเจาะขึ้นไปเป็นที่ว่าง แล้วทำเป็นแนวช่องแสง sky light ด้านบน เพื่อให้มีแสง indirect light เข้ามาสู่ตัวบ้านอย่างน่าสนใจ ไม่เพียงแต่ทำให้บ้านสวยงามทันสมัยเท่านั้น ยังช่วยให้บ้านประหยัดไฟฟ้าส่องสว่างในช่วงกลางวันด้วย
ถัดจากครัวจะเป็นบันไดขึ้นสู่ชั้น 2 ซึ่งในส่วนโถงบันไดด้านหนึ่งเป็นราวไม้เรียงตัวขึ้นไป ส่วนผนังด้านข้างฝั่งตรงข้ามจะเป็นบล็อคช่องลม เพื่อให้มีอากาศถ่ายเทเข้ามาในตัวบ้าน ซึ่งก็คือจุดที่เราเห็นเป็นปล่องเล็ก ๆ จัดเรียงเป็น pattern บนผนังนอกบ้านนั่นเอง
ห้องนอนหลักกว้าง ๆ ปูพื้นและเพดานด้วยไม้ ยึดคอนเซ็ปการใช้วัสดุง่าย ๆ เหมือนบริเวณอื่น ๆ ของบ้าน ฝ้าเพดานที่ตีตามแนวหลังคาทำให้เห็นส่วนของสันจั่วชัดเจน ห้องจึงดูสูงโปร่งหายใจได้สบาย ๆ แต่ไม่ได้สูงเกินไปจนดูเวิ้งว้าง บริเวณปลายเตียงติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ที่เปิดออกรับลมรับวิวได้เต็มที่เหมือนห้องไร้ผนัง
เมื่อไหร่ที่อยากสูดอากาศดี ๆ ชื่นชมต้นไม้ มองผู้คนที่ผ่านไปมาก็เพียงแค่เอื้อมมือเลื่อนบานประตู แล้วออกมานั่งที่ระเบียงหน้าห้อง เพียงเท่านี้ชีวิตก็เต็มไปด้วยความสุนทรีแบบที่ไม่ต้องเติมเต็มอะไรเพิ่ม
