บ้านโมเดิร์นมินิมอล

นครโฮจิมินห์เป็นหนึ่งในเมืองหลวงที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การใช้ชีวิตในเมืองนั้นแออัดมาก จนรู้สึกหายใจไม่ออกและคับแคบ นอกจากนี้ในยุคที่โควิด-19 แพร่ระบาด ผู้คนยังเหมือนกับต้อง “ติดอยู่ในบ้าน” ด้วยวิถีชีวิตแบบ “Work from home” บ้านจึงไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังถูกแปลงเป็นสถานที่ทำงานอีกด้วย วิกฤตในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสให้บ้านหลังใหม่ ๆ ตีความคำว่าบ้านในแง่มุมใหม่ให้เป็นโลกส่วนตัวที่ตอบได้หลายๆ โจทย์ และอยู่ได้ทุก ๆ วันไม่มีเบื่อ

ออกแบบ : UX Space
ภาพถ่าย : Nguyen Nhat Linh
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

PHI house เป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ที่ออกแบบโดย UX Space ในบริบทของการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่อย่างนครโฮจิมินห์ บ้านจึงต้องการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงความท้าทายในช่วง “New Normal” ของการระบาดของโควิด-19 โดยใช้แนวคิดการออกแบบ P.H.I = P (pace) จังหวะการเคลื่อนไหว + Hybrid + I บุคลิกภาพแบบเก็บตัว (Introvert) เพราะความแออัดทำให้บ้านต้องการความเป็นส่วนตัวสูง เมื่อรวมกับปัจจัยด้านงบประมาณของครอบครัวและความเร่งด่วนในการย้ายบ้าน ทำให้เกิดความท้าทายมาก ดังนั้นทีมงานจึงเสนอการออกแบบสไตล์โมเดิร์นมินิมอลรูปทรงกล่องสีขาวดำเรียบง่าย เพื่อลดต้นทุนการก่อสร้างและลดเวลาในการก่อสร้างให้น้อยที่สุด แต่ยังคงความสะดวกสบาย

pace หรือการสร้างจังหวะการก้าวในบ้าน เป็นหนึ่งภารกิจหลักของสถาปนิก คือ การช่วยให้สมาชิกในครอบครัวและผู้มาเยือนมีโอกาส ค่อย ๆ เดินเพื่อสัมผัสกับพื้นที่หน้าบ้าน โซนนั่งเล่น ห้องทานอาหาร ครัว ใช้ชีวิตอย่างช้า ๆ เมื่อเข้าบ้านมาเราจึงได้รับความรู้สึกที่ต่างจากภายนอก เพราะดูเปิดโล่งสว่างจากช่องว่างใจกลางบ้าน จัดสวนกรวดภายในล้อมรอบด้วยพื้นที่ใช้งานติดกระจกใสที่มีทางเดินเชื่อมถึงกัน ตอบโจทย์ความตั้งใจพร้อมให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับสเปซที่ว่างใจกลางบ้าน จนลืมความเร่งรีบในการใช้ชีวิตนอกบ้านไปได้ชั่วขณะ

Hybrid หรือไฮบริด หมายถึง ภายในบ้านจะไม่มีขอบเขตเฉพาะระหว่างช่องว่าง เราจะสังเกตเห็นว่าสถาปนิกจะไม่ก่ออิฐฉาบปิดทึบแยกส่วนเป็นห้อง ๆ ออกจากกัน แต่จะพยายามสร้างความต่อเชื่อมผ่านทางเดิน ช่องว่าง และผนังประตูหน้าจากที่ทำจากกระจกใสบานใหญ่ เพื่อให้รู้สึกถึงความเป็นสเปซเดียวกัน ในขณะที่หลายๆ ฟังก์ชันที่กล่าวมาจะถูกผสมผสานเบลอขอบเขตเข้าด้วยกันหมด พื้นที่แบบไฮบริดที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ตามทางเดินหลักที่มีชั้นวางบิลท์อินใช้สำหรับจัดเก็บ มีเคาน์เตอร์ครัว ตู้กับข้าว เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ชั้นวางรองเท้า ชั้นวางหนังสือ ฯลฯ ทำให้เกิดความหลากหลายและความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต ในระยะทางยาวกว่า 14 เมตร

Introvert บุคลิกภาพแบบเก็บตัวของเจ้าของบ้าน ทำให้ที่นี่ไม่เหมือนทาวน์เฮาส์ทั่วไปในโฮจิมินห์ เพราะบ้านหลังนี้ไม่ได้เปิดออกสู่ภายนอก แต่เลือกเปิดภายในอาคารแทน ซึ่งต้องขอบคุณพื้นที่บ้านที่มีความลึกยาวจึงสามารถแบ่งสัดส่วนอาคารเป็น 2 ส่วน ใส่ที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้าระหว่างอาคารถึง 2 แห่ง แล้วจัดให้มีช่องเปิดที่เพียงพอ สำหรับรับแสงแดดและการระบายอากาศ ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะรักษาความเป็นส่วนตัวของพื้นที่กลางแจ้งแล้ว ยังป้องกันเสียงรบกวนจากถนนและมลพิษทางอากาศได้ด้วย

บรรยากาศบ้านที่เต็มไปด้วยแสง ลม ธรรมชาติ สร้างความผ่อนคลาย ทำให้ไม่รู้สึกว่าถูกกักขังจากผนังที่รายล้อม สามารถใช้ชีวิตอยู่ภายในได้วันแล้ววันเล่าอย่างมีความสุข

บ้านสำหรับคนเก็บตัวไม่ใช่บ้านของคนขี้อาย แต่เป็นบ้านที่ออกแบบให้มองเข้าไปข้างในและรับพลังงานจากการสะท้อนจากภายในมากกว่าภายนอก ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีส่วนที่เปิดออกสู่ภายนอกเลย อย่างเช่น ห้องนอนก็จะมีด้านหนึ่งที่ใส่ช่องหน้าต่างแนวนอนขนาดใหญ่พอสมควร ให้นั่งพัก ทำงาน หรืออ่านหนังสือพร้อมกับมองความเคลื่อนไหวภายนอกไปด้วย