RK Park

รีวิวบ้านทาวน์โฮม @รามอินทรา – ซาฟารี

บ้านทาวน์โฮม หนึ่งในเทรนด์ที่อยู่อาศัยภายในเมืองที่ช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของบ้าน ประหยัดต้นทุนของการมีบ้านได้เป็นอย่างดี นั่นเป็นเพราะต้นทุนหลักของการมีบ้านในเมืองคือ ที่ดิน การใช้ที่ดินน้อย ๆ ตามลักษณะบ้านทาวน์โฮม จึงก่อให้เกิดความคุ้มค่าและยังสามารถสร้างพื้นที่ใช้สอยให้กว้าง โปร่งสบายได้อย่างลงตัว

รีวิวชุดนี้ “บ้านไอเดีย“ พาไปเยี่ยมชม บ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น จากโครงการ RK Park มาพร้อมกับตัวอย่างการตกแต่งที่จะทำให้ผู้อ่านมองภาพออกโดยทันทีว่า บ้านทาวน์โฮมสามารถจัดสรรพื้นที่อยู่อาศัยได้อย่างคุ้มค่า ไม่ต่างไปจากบ้านเดี่ยวเลย

โครงการ : RK Park รามอินทรา ซาฟารี
เบอร์โทร : 0-2906-5656
พิกัด GPS : 13.860494, 100.712578
ภาพ | เนื้อหา : บ้านไอเดีย

โครงการ RK Park รามอินทรา-ซาฟารี ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลอง 2 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา ใกล้กับปากทางเข้าซาฟารีเวิลด์เพียง 600 เมตร บริหารงานโดย บริษัท รุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัด ภายในโครงการแบ่งเป็น 2 เฟสด้วยกัน เฟสแรกมีทั้งหมด 174 ยูนิต ซึ่งปัจจุบันปิดการขายทั้งหมดแล้ว และบ้านตัวอย่างที่พาไปชมในเนื้อหาชุดนี้ เป็นเฟส 2 มีทั้งหมด 128 ยูนิตครับ

บ้านแต่ละหลังสร้างบนที่ดินเริ่มต้น 22.8 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 130 – 218 ตร.ม. สำหรับแบบบ้านตัวอย่างนี้ เป็นแบบ Type J หน้ากว้าง 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอยภายใน 130 ตร.ม. แบ่งเป็น 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ สามารถจอดรถยนต์หน้าบ้านได้ 2 คัน โดยตัวบ้านพร้อมขายจะมีหลังคาโรงจอดรถยนต์มาให้ด้วยครับ

เปิดประตูเข้ามาภายใน ชั้นล่างออกแบบผังในลักษณะ Open Plan หากเป็นทาวน์โฮมทั่วไปนิยมออกแบบให้โซนนั่งเล่นอยู่ตรงประตูบ้าน ส่งผลให้การสัญจรผ่านเกิดการกีดขวาง แต่ผังทาวน์โฮมของ RK Park ได้แยกโซนนั่งเล่นไว้ทางขวามือ (ด้านขวาหรือซ้ายขึ้นอยู่กับแต่ละยูนิต) ทำให้เกิดการใช้งานที่เป็นสัดส่วน ไม่กีดขวางต่อกัน และทำให้บ้านดูโปร่งกว้างมากขึ้นกว่าเดิม

การตกแต่งเกือบทั้งหลัง เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวจากแบรนด์ SB & Koncept เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เห็นตัวอย่างว่า บ้านทาวน์โฮม RK Park สามารถตกแต่งได้ไม่ยาก แค่เพียงเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เลือกโทนสี เลือกสไตล์ให้เข้ากัน เพียงเท่านี้บ้านก็น่าอยู่และสวยได้โดยไม่ต้องสั่งทำ Built-in แพง ๆ เลย

โซนนั่งเล่น เลือกใช้โซฟาหนังเทียม ตัวโซฟาทำหน้าที่แบ่งโซนให้กับห้องนั่งเล่นโดยไม่จำเป็นต้องปิดกั้น ผนังฝั่งหน้าบ้าน ทางโครงการออกแบบให้มีช่องแสงลอดผ่านกระจก ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดโปร่งมากกว่าผนังทึบแสงทั่วไป

พื้นบ้านเลือกใช้วัสดุแกรนิโต้ จัดโซนทานอาหารอย่างเรียบง่าย เชื่อมต่อกับครัวสำเร็จรูปในลักษณะครัวเบา เหมาะกับการเตรียมอาหารหรือปรุงอาหารที่ไม่มีกลิ่นฉุนมากนัก ส่วนการทำอาหารหนัก ทางโครงการได้เว้นพื้นที่ด้านหลังบ้าน สามารถต่อเติมครัวไทยแบบโปร่งได้ครับ

ห้องครัว เชื่อมต่อหลังบ้านด้วยกระจกบานเลื่อน

ชั้นล่างทางโครงการได้ออกแบบห้องนอนไว้ 1 ห้อง แต่ในบ้านตัวอย่าง ตกแต่งไว้เป็นห้องทำงาน ซึ่งหากจัดสวนไว้หลังบ้าน ห้องดังกล่าวนี้จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก เหมาะกับบ้านที่มีผู้สูงอายุ ซึ่งอาจไม่สะดวกต่อการเดินขึ้นลงบันได หรือใครจะทำเป็นห้องดูหนัง, ห้องอเนกประสงค์, ห้องเก็บของ , ห้องครัวใหญ่ หรือห้องทำงานตามตัวอย่างดังกล่าวได้เช่นกัน

ห้องน้ำชั้นล่างอยู่ตำแหน่งใกล้กับทางขึ้นบันไดบ้าน จัดผังตามลำดับการใช้งาน เริ่มจาก อ่างล้างหน้า, ชักโครก และโซนอาบน้ำ ท่านใดที่ซื้อบ้านทาวน์โฮมดังกล่าวไป แนะนำติดตั้งประตูกระจกในโซนอาบน้ำเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเซ็นออกมา เป็นการแยกโซนเปียกแห้งเพื่อให้ดูแลห้องน้ำง่ายยิ่งขึ้น

ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ การออกแบบบันไดจึงจำเป็นต้องบริหารพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุด บันไดจึงอยู่ในลักษณะวน เพื่อให้เกิดจำนวนขั้นที่มากขึ้น แต่ใช้พื้นที่ของบ้านไม่มากนัก หลังจากขึ้นบันไดมาบนชั้น 2 แล้ว จะพบกับห้องนอนต่าง ๆ แบ่งเป็น 3 ห้องนอนและ 1 ห้องน้ำรวมครับ

ห้องนอนแรก เป็นห้อง Master ที่มีขนาดกว้างใหญ่มาก อยู่ตำแหน่งโซนหน้าบ้าน ตกแต่งในสไตล์ Mix & Match ผสมผสานดีไซน์ยุค Mid Century ร่วมกับสไตล์ Modern ปัจจุบัน คุมธีมสีแบบเอิร์ธโทน ช่วยให้ห้องดูอบอุ่น หรูหรา และน่าอยู่เป็นอย่างมาก ผนังหัวเตียงติดตั้งวอลเปเปอร์ ให้ลวดลายแบบ Minimal ช่วยเพิ่มความทันสมัยให้กับห้อง

ด้านข้างมาพร้อมกับช่องหน้าต่างที่กว้าง ช่วยให้สามารถรับลม รับแสงได้ดี ทำให้การอยู่อาศัยรู้สึกปลอดโปร่ง ไม่แตกต่างจากบ้านเดี่ยวทั่วไป

ด้วยขนาดที่กว้าง จึงสามารถแบ่งโซนนั่งเล่นภายในห้องนอนได้ ผนังอีกด้านจึงเลือกตกแต่งด้วยชั้นวางทีวี ส่วนพื้นห้องชั้นบน เป็นพื้นไม้ลามิเนตทุก ๆ ห้องครับ

เฟอร์นิเจอร์ยุค Mid Century Modern

โถงหน้าห้องนอนแต่ละห้อง

ห้องนอนเล็ก ในตัวอย่างนี้ ตกแต่งเป็นห้องแต่งตัว สำหรับเก็บเสื้อผ้ารวมของครอบครัว

อีกหนึ่งห้องนอนเล็ก จัดไว้เป็นห้องนอนเด็ก มาพร้อมกับการวาดภาพบนผนัง ช่วยให้เด็กเกิดจินตนาการ และได้รับความสุขสดใสทุก ๆ วัน

ตกแต่งสวนหน้าบ้านด้วยหญ้าเทียม

แปลนบ้าน ชั้นล่างและชั้นบน

ภาพบ้าน พร้อมขาย

ชมไอเดียตกแต่งจากบ้านตัวอย่างกันไปแล้ว พิเศษสำหรับผู้อ่านที่สนใจโครงการ RK Park รามอินทรา-ซาฟารี เฟส 2 นี้ มาพร้อมกับโปรโมชั่นที่ช่วยให้การตกแต่งบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ประหยัดขึ้น เพราะทางโครงการได้มอบเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก ๆ ของแต่ละห้องมาให้เรียบร้อยแล้ว ทั้งเตียงนอนที่วัดขนาดมาให้เหมาะสมกับห้อง ตู้เสื้อผ้าที่ดูลงตัวกับผนังห้อง หรือแม้แต่ห้องนั่งเล่น มีโซฟาและตู้วางทีวีมาให้ครบ ส่วนห้องครัว มีครัวเบาสำเร็จรูป ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน เจ้าของบ้านเพียงแค่ขนเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว ก็สามารถเข้าอยู่ได้เลยครับ

เตียงนอน มีลิ้นชักเก็บของ ทำพิเศษมาเพื่อลูกบ้าน

ตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์ ที่โครงการมอบให้เป็นของแถม

บรรยากาศโดยรวมของเฟส 2

โรงจอดรถ ทำหลังคามาให้พร้อมใช้งาน

ปิดท้ายกันด้วยคลับเฮ้าส์ คลับแห่งความสนุกสนานของเด็ก ๆ และผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความผ่อนคลาย ตัวอาคารดีไซน์ด้วยสัญลักษณ์ของต้นไม้ใหญ่ สื่อถึงการพักผ่อนไปกับธรรมชาติ บริเวณคลับเฮ้าส์ประกอบไปด้วย สวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น ห้องฟิตเนส และสระว่ายน้ำ นอกจากนี้ทางโครงการยังมีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยกล้อง CCTV ทั่วบริเวณหมู่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง ซุ้มประตูทางเข้าออก ใช้ระบบ Automatic Easy Pass ช่วยเพิ่มความสะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

สวนสาธารณะภายในโครงการ

สนามเด็กเล่น

ทางเดินออกกำลังกาย

ห้องฟิตเนส

สระว่ายน้ำ แยกระดับความลึกสำหรับเด็กเล็ก และผู้ใหญ่

ด้านทำเลที่ตั้งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ โครงการ RK Park รามอินทรา-ซาฟารี ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองสอง ซึ่งเป็นทำเลที่เหมาะกับการอยู่อาศัย สะดวกในการเดินทางทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะประจำทาง ใกล้กับแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรี ที่คาดว่าจะได้ใช้งานกันในอนาคตอันใกล้นี้

เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู

อีกทั้งยังมีความสะดวกสบายต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จับจ่ายใช้สอยง่ายอยู่ห่างจากตลาดหทัยมิตร 1 กิโลเมตร ใกล้กับศูนย์การค้า Big C หทัยราษฎร์ Max Valu ที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง รวมถึงโรงพยาบาล สถานศึกษา และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอย่าง ซาฟารีเวิลด์ เพียง 1.3 กิโลเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันต่อความต้องการในการใช้ชีวิตมากเลยทีเดียว

พิกัด GPS :13.860494, 100.712578

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ในพื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. แต่ให้ความรู้สึกโปร่งกว้าง อยู่สบาย เสมือนเป็นบ้านเดี่ยวเลยใช่ไหม สำหรับผู้อ่านท่านใดกำลังมองหาบ้านในทำเลรามอินทรา-ซาฟารี พร้อมกับงบประมาณที่เข้าถึงได้ไม่ยากนัก เริ่มต้นเพียง 2.79 ล้านบาท ส่วนคลับเฮ้าส์ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบนี้ เหมาจ่ายค่าส่วนกลางเพียงเดือนละ 900 บาทต่อครอบครัวเท่านั้น รีบมาจับ มาจอง เลือกยูนิตที่ชื่นชอบ ก่อนที่จะหมดครับ