บ้านโมเดิร์น ใส่ลมหายใจของธรรมชาติลงในบ้าน
บ้านหนุ่มโสด 2 พี่น้องในไซง่อนที่ต่างก็ต้องการโลกส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้อยากให้บ้านถูกตัดแบ่งให้แปลกแยก จึงต้องหาจุดร่วมที่จะทำให้ความชอบของแต่ละคนมาอยู่ด้วยกันได้ โชคดีที่ทั้งคู่ชอบบ้านที่ให้ความรู้สึกโมเดิร์นแต่ผ่อนคลาย มีสเปซที่ใช้งานได้ยืดหยุ่นและหลากหลายสำหรับต้อนรับแขกและเพื่อน ๆ แต่ก็ต้องการความเป็นส่วนตัว สถาปนิกจึงรวมพื้นที่ใช้ชีวิตร่วมกันแบบโปร่ง ๆ เปิดเชื่อมต่อถึงกันได้หมดในชั้นล่าง และสร้างพื้นที่อาณาจักรพักผ่อนตามสไตล์ส่วนตัวของแต่ละคนเอาไว้ในชั้นบน
ถ่ายโดย : Quang Trần
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
บ้านคอนกรีต รั้วธรรมชาติ
บ้านโมเดิร์นในเมืองไซง่อน ประเทศเวียดนาม ออกแบบโดย QIB Corp สร้างบนที่ดินขนาด 295m2 พื้นที่ใช้สอย 556 m2 ตัวอาคารเป็นคอนกรีตดิบ ๆ มีฟาซาดเป็นแท่งคอนกรีตบังสายตา ผนังเจาะช่องแสงแนวนอนสลับแนวตั้งให้มิติที่น่าสนุกกับตัวอาคาร รอบบ้านปลูกต้นไม้เป็นรั้วธรรมชาติสลับกับคอนกรีต กำแพงที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้สีเขียวไม่เพียงแต่สร้างความโดดเด่น แต่ยังช่วยลดทอนความแข็งกระด้างของสถาปัตยกรรม เป็นตัวช่วยดักกรองฝุ่นควัน และเพิ่มความสดชื่นจากธรรมชาติอากาศภายในบ้านบริสุทธิ์ขึ้น
มุมมองจากภายนอกจะเหมือนโคมไฟดวงใหญ่ห้อมล้อมด้วยคอนกรีตเจาะเป็นช่อง ๆ สลับกับต้นไม้ ซึ่งอารมณ์ของบ้านจะแตกต่างไปตามแสงที่สาดส่องในแต่ละช่วงเวลาของวันและวิธีใช้แสงภายในบ้าน
ในขณะที่เจ้าของบ้านอยากให้บ้านมีความเป็นส่วนตัวออกจากสายตาเพื่อนบ้าน แต่ก็ต้องการให้รู้สึกถึงความโปร่งสบาย สถาปนิกจึงต้องใช้วิธี closed-open คือการปิดบางส่วนด้านนอกแล้วค่อย ๆ เปิดพื้นที่ใช้งานในแต่ละส่วนให้เห็นโปร่งโล่งภายใน โดยเน้นการใช้ผนังกระจกที่เปิดได้กว้างเป็นตัวช่วยในการเปิดมุมมองและเชื่อมพื้นที่ทั้งหมด
บ้านโมเดิร์น ครบฟังก์ชั่นสำหรับใช้ชีวิต
โดยภาพรวมของที่ดินไม่ได้กว้างมาก แต่ก็จัดสรรพื้นที่ให้มีครบฟังก์ชั่นที่เจ้าของบ้านต้องการ อย่างเช่น สระว่ายน้ำ ซาวน่า สวนหย่อมกลางแจ้ง สระว่ายน้ำด้านหน้าและด้านข้างของบ้าน เชื่อมต่อกับภายในบ้านอย่างลื่นไหลผ่านหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ 2 แห่ง ด้านหนึ่งเปิดออกจากห้องนั่งเล่นและอีกด้านหนึ่งจากห้องครัว ชั้นล่างที่ตกแต่งแบบเปิดกว้างรวมครัว มุมนั่งเล่น และโต๊ะรับประทานอาหาร ทำให้สะดวกในการอยู่อาศัยและพร้อมรองรับเมื่อมีผู้คนมาเยี่ยมเยือนบ้านหรือมีปาร์ตี้
บ้านผนังกระจก เปิดรับวิว แสง ลม ตกแต่งเพดานเก๋ๆ
บ้านที่สวยงามไม่ใช่แค่ใส่ใจกับการเลือกเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งห้องเท่านั้น แต่การตกแต่งเพดานสวย ๆ จะช่วยเพิ่มจุดโฟกัสทางสายตาให้บ้านดูดีมีสไตล์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ บ้านหลังนี้ไม่อยากให้ทุกอย่างดูเป็นสี่เหลี่ยม เรียบ ไม่มี Texture ที่ดูน่าเบื่อ จึงใส่ลูกเล่นบนฝ้าเพดานด้วยไม้สีน้ำตาลเข้มตัดกับฝ้าเรียบสีขาว รูปลักษณ์เหมือนการตัด เฉือนให้ดูเหมือนแผ่นไม้หลุดออกมาจากเพดาน นอกจากจะทำให้เพดานเหมือนเป็นภาพเล่นระดับแบบ 3 มิติแล้ว ยังสร้างช่องแสงด้านบนได้อีก
เคาน์เตอร์ครัวที่ตกแต่งด้านหน้าด้วยไม้แกะสลัก ใส่งานฝีมือช่างพื้นถิ่นในบ้านโมเดิร์น แสดงออกถึงความหลงไหลในรากเหง้าของความเป็นเวียดนามที่ประยุกต์ใช้ได้ในโลกยุคใหม่
ไอเดียการเปิด ตัด เฉือน ของทีมงานออกแบบเพื่อให้บ้านมีความหลากหลายทางสายตานั้นไม่ได้มีอยู่เฉพาะบนฝ้าเพดาน แต่ด้านล่างเราจะได้เห็นแนวความคิดนี้ในบริเวณพื้นและบันได ในส่วนครัวที่จะเห็นเส้นสายการพับไปมา การใช้ผนังกระจกโปร่ง ๆ และการใช้สีสดใสอย่างสีฟ้า ชมพู บนพื้นหลังสีขาวและเขียวจากธรรมชาติภายนอก ตอบโจทย์ที่ต้องการให้เกิดมิติของการรับรู้ที่น่าสนุก
ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวสไตล์ธรรมชาติ เหมือนมีสวนในห้องส่วนตัว
ห้องนอนชั้นบนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง แต่ละห้องเหมือนเป็นโลกส่วนตัวขนาดใหญ่ที่ตกแต่งตามรสนิยมของแต่ละคน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ การเปิดห้องรับแสงสว่าง และจัดภายในให้รู้สึกได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติให้มากที่สุด
ห้องน้ำในตัวที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องสไตล์เรโทรตัดกับคอนกรีตเรียบ ๆ และผนังไม้ที่ดูอบอุ่น ภายในตกแต่งพื้นห้องด้วยกรวดและไม้ ใส่กระจกขนาดใหญ่ให้มองออกไปเห็นวิวต้นไม้และท้องฟ้ายามเข้าไปใช้งาน บรรยากาศภายในจึงเต็มไปด้วยความโปร่งสบายเหมือนได้อาบน้ำกลางแจ้ง
ในห้องนอนอื่น ๆ ก็ตกแต่งไปในทิศทางเดียวกัน คือ พยายามสร้างความโปร่งเบา เชื่อมต่อส่วนพักผ่อนเข้ากับห้องน้ำอย่างลื่นไหล ใส่ความร่มรื่นจากต้นไม้เข้าสู่ห้องนอน รู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายของสวนส่วนตัวที่ยกเข้ามาเก็บไว้ใกล้ ๆ
ห้องสวดมนต์ไหว้พระบริเวณใต้หลังคาที่แสดงออกถึงความเรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกสงบ ขลัง เจ้าของบ้านวางพระพุทธรูปบนขอนไม้ที่เจาะออกไปนอกหลังคา รับพอดีกับแสงสว่างที่ส่องลงมา ให้ความรู้สึกว่าพุทธะเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เป็นมุมทำสมาธิที่สามารถใช้เวลาปลีกวิเวกได้เท่าที่ต้องการ
บ้านทั้งหลังค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์และเป็นไปตามรสนิยมและวิถีชีวิตของทั้งสองเจ้าของ ชั้นบนของบ้านเป็นสองโลกที่แตกต่างกัน แต่กลับไม่มีความขัดแย้งระหว่างความชอบส่วนบุคคลที่ไม่มีอะไรเหมือนกัน กลายเป็นการผสมผสานและร่วมสร้างความทรงจำให้กับบ้านมากขึ้น
