บ้านผนังไม้

ความงามแบบยุโรปที่มีความสง่างามเหนือกาลเวลา ตั้งแต่ถนนสายศิลปะของปารีสไปจนถึงแนวชายฝั่งอันสวยงามของกรีซ เป็นความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมที่กลายเป็นแหล่งแรงบันดาลใจให้ทั้งสถาปนิกและเจ้าของบ้านอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หรือแม้จะเป็นเพียงกระท่อมเล็ก ๆ สไตล์นอร์ดิกก็ยังดูมีเสน่ห์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” มีแบบบ้านที่สถาปนิกเลือกใช้ปีกไม้หรือไม้เป็นแผ่นๆ มีทำผนังหรือหลังคา ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบบ้านยุโรปสมัยใหม่ที่ดูอบอุ่น สร้างพื้นที่ที่มีทั้งความร่วมสมัยและความสวยงามแบบคลาสสิก น่าลองนำไอเดียมาปรับใช้เข้ากับบ้านในฝันของคุณดูครับ

ออกแบบ : Kolman Boye Architects
ภาพถ่าย : Johan Dehlin
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้าน Saltviga เป็นบ้านพักตากอากาศสำหรับการพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ ริมชายฝั่งทะเล Skagerrak ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ มองจากไกล ๆ จะเห็นว่าบ้านผสมผสานอย่างลงตัวกับป่าที่เต็มไปด้วยโขดหิน ตะไคร่ เฟิร์น ต้นสน และต้นไม้ผลัดใบบนหน้าผา โดยเลือกปรับรูปทรงให้เข้ากับลักษณะเฉพาะของภูมิประเทศในท้องถิ่น และหยิบจับเศษไม้โอ๊คและ Douglas ที่ใช้ทำผลิตภัณฑ์ไม้พื้นมาสร้างสถาปัตยกรรมทรงกระท่อมแบบใหม่ ที่เน้นประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรสูงสุด

สถาปนิกพบว่าวัสดุไม้พื้นของ Dinesen (แบรนด์ไม้ปูพื้นสัญชาติเดนมาร์ก) มีเศษเหลือจากการผลิตจำนวนมาก ไม้เหล่านี้มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพแวดล้อม และใช้งานได้ทั้งภายนอกภายใน ทีมงานจึงคิดที่ใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุที่จะกลายเป็นฟืน นำสร้างเป็นบ้านที่อบอุ่น โดยปล่อยให้ไม้ได้แสดงออกถึงสัมผัส เนื้อ สี รวมถึงตำหนิต่างๆ ที่ก่อตัวขึ้นตามกาลเวลา เราจะเห็นว่าไม้บางส่วนก็เปลี่ยนเป็นสีเทาเงิน ซึ่งจะกลมกลืนกับภูมิทัศน์หินชนวนและหินแกรนิตที่มีอยู่รอบบ้าน นอกจากความสวยงามแล้วการนำไม้มาสร้างบ้านยังมีคาร์บอนต่ำและสามารถเป็นทางเลือกแทนวัสดุที่ใช้กันทั่วไปที่มีคาร์บอนเข้มข้น เป็นวิธีการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกทาง

สำหรับโครงการนี้ บ้านจะได้รับการปรับให้สอดคล้องกับภูมิประเทศตามธรรมชาติของไซต์ ที่ลาดเอียงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยสร้างแบ่งเป็นสามระดับในขณะที่พื้นที่ไซต์ทั้งหมดมีความแตกต่างกันถึงห้าระดับ จากภายนอกจะเห็นอาคารทั้งสามส่วนค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปแยกเป็นสองอาคาร โดยคั่นด้วย Breezway เหมือนกล่องกระจกใสแบบเปิดปิดได้ มีลานที่หันไปทางป่าและชานที่เปิดออกสู่ทะเล ซึ่งสามารถมองเห็นวิวผ่าน “กรอบหน้าต่าง” ที่มีต้นสนอยู่ภายใน ทำให้บ้านเหมือนภาพวาดไม่มีผิด

การออกแบบภายในกระตุ้นประสาทสัมผัสของเสียง สัมผัส และกลิ่น โดยอาศัยวัสดุไม้เป็นหลัก ผสมผสานกับการเปิดให้บ้านมีปฏิสัมพันธ์กับภูมิทัศน์ ในทุกมุมของบ้านจะมองเห็นวิว รับรู้สึกเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ได้กลิ่นไม้และทะเลหอมๆ สร้างบรรยากาศความผ่อนคลายแบบที่หาไม่ได้ในเมือง

ภายในแต่ละพื้นที่ของบ้านจะมีปริมาตรและความสูงของเพดานที่แตกต่างกัน โดยมีโถงทางเดินกลางที่มีบันไดคอนกรีตเล็ก ๆ อยู่ จึงมองเห็นภาพความต่างของระดับได้ชัดเจน ทางเดินนี้ขนานกับผนังกระจกทอดยาวตลอดแนวของอาคารสู่ทะเล ทำให้เกิดความลื่นไหลและเชื่อมโยงกันในระดับต่างๆ ที่ smooth เริ่มจากส่วนที่อยู่สูงสุดจะเป็นห้องนั่งเล่นผิงไฟที่ติดกับชาน ต่ำลงมาเป็นครัวและห้องทานข้าว และมีทางแยกไปห้องส่วนตัว ห้องเก็บเสื้อผ้า ซึ่งจะมีชมวิวมีมุมอ่านหนังสือและเตาผิงด้วยเช่นกัน

การจัดวางแต่ละพื้นที่ใช้งานโดยใช้ความต่างของระดับ ทำให้บ้านแยกฟังก์ชันออกจากกันให้ความเป็นสัดส่วนแบบหลวมๆ โดยที่ยังสามารถเข้าถึงกันได้ง่าย และไม่ทำให้บ้านขนาดเล็กดูทึบแคบลงแต่อย่างใด

ห้องรับประทานอาหารที่มองเห็นธรรมชาติเขียวขจีและมหาสมุทรโดยรอบ เติมเต็มช่วงเวลาดี ๆ ให้กับสมาชิกในบ้านในทุกมื้ออาหาร

ในส่วนการเลือกใช้ไม้ในการหุ้มตัวบ้าน ทีมงานจะใช้ไม้โอ๊กสำหรับภายนอก ส่วนผนังภายในจะใช้ไม้ Douglas เพื่อคุมโทนสีขาวที่ดูอุ่นกว่าเล็กน้อย ซึ่งจะสมดุลกับพื้นคอนกรีตขัดที่มีสีกลาง ๆ เย็นๆ โดยบ้านนี้ใช้ไม้โอ๊กกว่า 12,000 ท่อนประกอบเป็นชั้นของผนังอาคาร ไม้แต่ละชิ้นต้องใช้การจัดการที่แม่นยำ และตัดให้ได้ขนาดโดยมีของเสียน้อยที่สุด ตลอดจนผ่านการสร้างแบบจำลอง 1:1 หลายๆ ชิ้นมาจนแน่ใจ และใช้สกรูสแตนเลสมากกว่า 20,000 ตัวสำหรับการยึดเสริมความแข็งแรง สร้างสถาปัตยกรรมที่คำนึงถึงความยั่งยืน ซึ่งตอบสนองต่อบริบทในรูปแบบเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรายละเอียด