ทาวน์เฮาส์สามชั้นที่เย็น โปร่ง สว่าง
พื้นที่ขนาดเล็กในขณะที่ความต้องการขนาดใหญ่ ความจริงที่สวนทางกันนี้พบได้บ่อยๆ แต่ใช่ว่าจะไม่มีหนทางแก้ไข อย่างบ้านหลังนี้ เป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ขนาดพื้นที่เพียง 5×18.5 ม. ที่ต้องรองรับความต้องการใช้งานของสมาชิกถึง 3 รุ่น ดังนั้นสถาปนิกจึงต้องแก้ปัญหาตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบอย่างระมัดระวัง เพื่อให้บ้านนำประสบการณ์ที่น่าสนใจในกิจกรรมประจำวันของครอบครัว นอกจากนี้ยังต้องออกแบบทิศทางการรับแสง การระบายอากาศ ในบ้านที่ไม่มีช่องเปิดด้านข้างด้วย
ออกแบบ : NỐI studio
ภาพถ่าย : Prince Production
เนื้อหา: บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
เมื่อมองจากภายนอกโดยรวม จะเห็นอาคารที่เรียงซ้อนกันขึ้นไป โดยค่อยๆ ลดความสูงลงเหลื่อมกันขึ้นไป เพื่อช่วยสร้างการเชื่อมต่อทางสายตา และทำให้บ้านไม่ดูเป็นเส้นตรงที่แข็งกระด้างเกินไป ระหว่างตัวอาคารมีต้นไม้เขียวๆ ที่ตัดกับสีขาวของอาคารอย่างสดชื่น ด้านหน้ามีระเบียงจัดเป็นสวน โดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ให้เจ้าของบ้านออกมานั่งเล่นรับลมและสัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น ผ่านช่องเปิดต่างๆ โดยเฉพาะบล็อกช่องลมที่ช่วยสร้างทางเดินให้ลมพัดผ่านบ้าน
จากหน้าบ้านที่ดูปิดออกจากสายตาของผู้คนที่ผ่านไปมา เมื่อเปิดประตูรั้วแล้วเดินผ่านสวนเล็ก ๆ ก็เข้ามาภายในตัวบ้าน ซึ่งจะมีผนังฉากกั้นแบ่งบ้านออกเป็นสองฝั่งแบบหลวมๆ ด้านหนึ่งเป็นพื้นที่ใส่และถอดรองเท้า มีตู้ไม้ใช้เก็บหมวกกันน็อคและอื่นๆ ส่วนนี้จะช่วยปิดบังสายตาตรงบันไดทางขึ้นชั้นบนพอดี ส่วนอีกด้านจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ตกแต่งง่ายๆ แบบโมเดิร์นมินิมอล
ความน่าสนใจของบ้านนี้จุดสำคัญจะอยู่ที่ การจัดแปลนบ้านให้โปร่งทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ไม่มีเฟอร์นิเจอร์มากเกินจำเป็น เพื่อสร้างสเปซโล่งกว้างภายใน ดังนั้นจึงระหว่างพื้นที่นั่งเล่น โต๊ะรับประทานอาหาร และครัวจึงจัดเรียงให้ต่อเนื่องกัน โดยก่อผนังเพียงครึ่งด้านช่วยเพิ่มความเป็นสัดส่วนแยกโซนใช้งานครัว ในขณะที่เจาะช่องเปิดให้มองเห็นกันได้ และยังสัญจรจากด้านหน้าไปหลังบ้านอย่างลื่นไหล ไม่รู้สึกว่าบ้านคับแคบแต่อย่างใด
พื้นที่สีเขียวเป็นสิ่งที่ไม่ขาดในบ้านนี้ ตั้งแต่สวนด้านหน้าบ้าน เข้ามาในตัวบ้านชั้นล่างก็มีสวนขนาดเล็ก (pocket door) อยู่ใต้บันได เพิ่มความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
บ้านมีชั้นระบายอากาศแบบพาสซีฟ 2 ชั้น ชั้นแรกคือ การจัดช่องทางระบายอากาศสำหรับแต่ละห้อง และชั้นที่สอง คือ การระบายอากาศทั้งบ้าน โดยการเปิดที่ว่างภายในให้มากที่สุดในแนวนอน ลดผนังที่ไม่ได้ใช้งาน ส่วนระหว่างชั้นบนและล่างจะลดพื้นที่พื้นเพดาน สร้างการเชื่อมต่อในแนวตั้ง ให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงและระบายออกผ่านหน้าต่างขนาดใหญ่ และถ้าเปิดประตูห้องนอนส่วนตัวทุกห้องก็จะระบายอากาศได้ทั่วทั้งหลัง ทำให้พื้นที่ไม่อับชื้น ซึ่งเป็นผลจากการออกแบบที่คิดมาอย่างดี
ภาพการจัดระบบระบายอากาศภายในบ้าน
เมื่อเงยหน้าขึ้นไปบนบันได จะเป็นช่องแสงสกายไลท์ยาวหลายเมตรเหนือบริเวณโถงบันไดขนาดใหญ่ ทำให้แสงกระจายลงมาให้ความสว่างสำหรับทั้งบ้าน
ชั้นบนมีพื้นที่ทำงานและห้องนอน เมื่อปิดประตูห้องเพื่อการอยู่อาศัยส่วนตัว แต่ละห้องจะมีด้านหนึ่งที่สามารถเปิดรับธรรมชาติ และช่องระบายอากาศจากผนังอิฐช่องลม จึงมั่นใจเรื่องการระบายอากาศ นอกจากนี้แต่ละห้องมีทิศทางเปิด 2 ทิศทางที่อยู่เยื้องตรงข้ามกัน เป็นการออกแบบตามหลักการระบายอากาศแบบข้ามของห้อง ช่วยให้ลมพัดผ่านห้องและลมสามารถพัดจากหน้าไปหลังบ้านได้เมื่อทุกห้องเปิดพร้ออมกัน
ผนังช่องลมที่เป็นช่องทึบสลับโปร่ง นอกจากช่วยเรื่องการรับลมระบายอากาศ ยังเป็นองค์ประกอบที่ทำหน้าที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องนอน และกรองแสงแดดที่รุนแรงในช่วงกลางวันได้เป็นอย่างดี
แปลนบ้าน
