ตกแต่งบ้านเล็ก

หากจัดการสัญจรได้ดีจะสร้างพื้นที่ที่สะดวกสบาย ประโยคนี้เป็นคอนเซ็ปในการปรับปรุงบ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังนี้ที่ตั้งอยู่ในเมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน เมื่อใดก็ตามที่ HAO Design ได้รับโปรเจ็คใหม่สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การสังเกตสภาพแวดล้อมโดยรอบของบ้าน และหาจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งบ้านนี้รวบรวมได้ 4 ข้อ คือ ลานกว้าง หลังคาสูง แสงธรรมชาติที่ดี และแผนผังบ้านที่เป็นสี่เหลี่ยม จากนั้นจึงระดมความคิด มองภาพรวมของพื้นที่และเน้นที่การวางแผนการจราจร ที่จะทำให้บ้านหลังเล็ก ๆ ใช้งานได้สะดวกไม่รู้สึกอึดอัดหรือคับแคบ และแก้ไขปัญหาของบ้านได้อย่างน่าทึ่ง ส่วนการปรับปรุงจะดีขึ้นมากขนาดไหน ต้องลองไปชมด้วยกันนะครับ

ออกแบบ : HAO Design
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

ทีมงานปรับปรุงบ้านขนาด 116 ตารางเมตร เริ่มจากการเปลี่ยนการสัญจรเดิมโดยการย้ายทางเข้าไปด้านข้างของบ้าน ทางเข้าเดิมถูกปิดและบิวท์กล่องไม้ที่ยกขึ้นเป็นพื้นที่นั่งเล่นคล้ายบ้านญี่ปุ่นโบราณ ด้วยวิธีนี้ก่อนเข้าบ้านจึงเดินไปวนไปด้านข้างเพื่อเข้าสู่ตัวบ้าน แต่สิ่งที่ดีกว่าเดิมคือประตูทางเข้าใหญ่ติดกับผนังกระจกกว้างขึ้น ทำให้บ้านดูโปร่งใสเหมือนไร้กำแพง เปิดให้เห็นลานขนาดใหญ่ เหมือนกับการเดินจากตัวเมืองไปยังกระท่อมเล็ก ๆ เป็นบรรยากาศที่จะทำให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายทันที ปริมาณแสงธรรมชาติที่เหมาะสมทำให้บ้านมีพลังมากขึ้น

แปลนบ้านเดิมก่อนปรับปรุง

ผนังกระจกบ่งบอกขอบเขตระหว่างบ้านกับสวน

การตกแต่งภายในทำการปรับเปลี่ยนมากพอสมควร เช่น เอาผนังแบ่งห้องภายในออก เพื่อรวมห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารเข้าด้วยกัน กลายเป็นพื้นที่เปิดโล่ง ในระหว่างการปรับปรุงใหม่ HAO Design ได้รื้อบางส่วนของเพดานออกและค้นพบว่ามีความลาดเอียง จุดสูงสุดของเพดานมีความสูงสี่เมตรและกว้างมาก ดังนั้นจึงไม่ต้องปรับความสูงเพดาน ซึ่งนอกจากประหยัดแล้วความสูงที่เพิ่มขึ้นทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัดหรือรู้สึกว่าถูกกดทับ

หนึ่งจุดที่โดดเด่นของบ้านนี้คือครัว ด้วยความที่เจ้าของบ้านชอบทำอาหาร จึงต้องการพื้นที่ปรุงอาหารที่กว้างขวางและเป็นสัดเป็นส่วนหยิบจับของใช้ได้สะดวก สถาปนิกจึงออกแบบให้มีไอซ์แลนด์ความยาวถึง 280 เซนติเมตรอยู่กลางห้องครัว ใช้เตรียมอาหารได้มากและปรับเป็นโต๊ะทานข้าวสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ได้ เป็นห้องครัวในฝันที่ทั้งคู่สามารถสนุกกับงานอดิเรกของที่ชื่นชอบได้ทุก ๆ วัน แม้ว่าเพดานตรงส่วนนี้จะเอียงลาดลงต่ำกว่าจุดอื่น ๆ เล็กน้อย แต่เพราะมีพื้นที่ต่อเนื่องกับห้องนั่งเล่นรวมแล้วมีขนาดเกือบ 26.4 ตารางเมตร จึงยังทำให้รู้สึกถึงพื้นที่ขนาดใหญ่

ตีกรอบเหนือพื้นที่ครัวด้วยไม้ลายธรรมชาติไม่ทำสี ช่วยเบรคความรู้สึกแข็งและดิบของผนังคอนกรีตด้านข้าง สะดุดตาที่ Back Splash ทำจากเซรามิคเฉดสีเขียว เมื่อมารวมกับโคมไฟแขวนทำจากไม้ และต้นไม้เขียว ๆ ทำให้รู้สึกว่าที่นี่เป็นครัวที่สดชื่นเหมือนกำลังทำอาหารอยู่กลางสวนที่ร่มรื่น

ผนังปูนเปลือยที่ให้ความรู้สึกดิบและเย็น ถูกเจาะเป็นช่อง ๆ เพื่อให้พอดีกับเฟอร์นิเจอร์ที่จะใส่ เป็นกลยุทธ์ในการประหยัดพื้นที่ง่าย ๆ โดยใช้พื้นที่แนวตั้งให้มากขึ้น ไม่ต้องวางเฟอร์นิเจอร์กับพื้น ซึ่งจะรบกวนทางเดินสัญจร

ห้องนอนตกแต่งผนังให้อารมณ์ดิบคละเคล้าความอบอุ่น ด้วยวัสดุอิฐบล็อคคสีเทาคาดทับบริเวณหัวเตียงด้วยไม้ เป็นวัสดุที่แตกต่างทั้งความรู้สึกทางสายตาและผิวสัมผัส แต่เมื่อมารวมกันแล้วกลับเพิ่มความสมดุลและเสน่์ให้ห้องได้อย่างประหลาด อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ การเพิ่มช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเกล็ดบริเวณใกล้พื้นดิน เพื่อให้แสงสามารถเข้ามาในห้องได้ โดยที่ทีมงานได้ตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่าจุดนี้จะไม่ทำให้ห้องไม่สว่างเกินไป

เมื่อเริ่มแรกที่วางแผนการปรับปรุงบ้าน ทีมงานพบว่าเค้าโครงเดิมขาดช่องแสงที่เพียงพอและวางในทิศทางที่ไม่เหมาะสม ทำให้ยากสำหรับการป้อนแสงเข้าสู่ตัวบ้าน จึงแก้ไขด้วยการรวมช่องว่างขนาดเล็กแต่ละห้องเข้าด้วยกันเป็นช่องใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นประตูทางเข้า ห้องนอน หรือแม้แต่ในห้องน้ำที่ใช้วิธีเปิดเพดานทำช่องแสงสกายไลท์ เพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามาลดความชื้นได้มากขึ้น