บ้านโมเดิร์นบนเนินเขา

El Cielo เป็นโครงการบ้านที่ตั้งซ่อนอยู่ในใจกลางของภูเขา La Sierra Nevada โคลอมเบีย ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 1,890 เมตร สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยในวันหยุดที่สะท้อนความงามของบริบทดั้งเดิม ด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายระหว่างเหล็กและกรระจกเป็นหลัก ออกมาเป็นสิ่งปลูกสร้างแนวนอนสองชั้นที่รวมสถาปัตยกรรมเข้ากับภูมิประเทศอย่างกลมกลืน ในความถ่อมตัวของวัสดุที่โปร่งเบากลับโดดเด่นด้วยมุมมองที่น่าประทับใจ และล้อมรอบด้วยม่านสีขาวของเมฆที่สร้างความรู้สึกของบ้านที่กำลังลอยอยู่บนท้องฟ้า

ออกแบบ : Ricardo Decastro
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านโมเดิร์นโครงสร้างเหล็กในเนินเขา

พื้นที่นี้ตั้งอยู่บนเนินต่างระดับ ซึ่งสถาปนิกเลือกใช้โครงสร้างเหล็กและวัสดุสำเร็จรูปเป็นหลัก ด้วยเหตุผลเรื่องการขนย้ายและก่อสร้างที่สะดวกกว่า ตัวอาคารเป็นแนวนอนแบ่งเป็นสองชั้นวางเหลื่อมกันเพื่อปรับให้เข้ากับภูมิประเทศของภูเขาในทิศทางตะวันออกเฉียงเหนือติดผนังกระจกและบานประตูขนาดใหญ่ ช่วยให้สามารถเปิดรับทิวทัศน์ได้อย่างเต็มที่ราวกับบ้านไร้ผนัง และอนุญาตให้ลมเคลื่อนตัวเข้ามาไหลเวียนสร้างความสบายภายใน ในขณะที่รับปริมาณแสงแดดในระดับปานกลางทั้งกลางวันและช่วงบ่าย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

พื้นที่ส่วนกลางขนาด 78.68 ตร.ม. ล้อมรอบด้วยระเบียงขนาด 47.40 ตารางเมตร ประกอบด้วยหนึ่งในองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดของบ้าน คือ ห้องนั่งเล่นที่เปิดผนังชนมุมทั้งสองด้าน ภายในวางโซฟาสีเทาตัวใหญ่ดูหนานุ่ม มีเตาผิงอยู่ตรงกลางคั่นระหว่างห้องครัวแบบเปิด ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น การตกแต่งภายในเน้นสไตล์ร่วมสมัยด้วยการใส่วัสดุพื้นถิ่น เช่น ไม้และหินลงไป ทำให้บรรยากาศโดยรวมของบ้านมีจุดร่วมที่เกี่ยวเนื่องกับธรรมชาติแวดล้อมอยู่ด้วย

มุมครัวแบบเปิดที่ต่อเนื่องมาจากโซนรับประทานอาหาร ตกแต่งด้วยไม้และเหล็กสีดำ ให้เข้าชุดกับโต๊ะทานอาหารที่ทำจากท่อนไม้ผ่าซีกขาเหล็ก ใส่ความน่ารักโมเดิร์นแบบร้านกาแฟด้วยการตกแต่งผนังจากกระดานดำ

บ้านที่น่าอยู่ต้องมีพื้นที่ใช้ชีวิตทั้งในอาคารและนอกอาคาร ซึ่งในบ้านนี้เราจะเห็นสถาปนิกทำเฉลียงเรียงตามแนวบ้านหลายทิศทาง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ออกมานั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ในมุมมองที่ชอบได้ตลอดทั้งวัน

ชั้นล่างเป็นพื้นที่ใช้งานส่วนรวม ส่วนชั้นบนนั้นจะเป็นห้องพักส่วนตัวที่เข้าถึงผ่านบันไดวนที่ทำจากเหล็กทั้งหมด แผ่นเหล็กสีดำที่วนพลิ้วอยู่ในใจกลางบ้านนี้ทำให้รู้สึกเหมือนมีชิ้นงานประติมากรรมวางโชว์อยู่อย่างน่าสนใจ

ห้องนอนมีสองห้อง แต่ละห้องเต็มไปด้วยความโปร่งเบาจากผนังกระจกและอบอุ่นด้วยพื้นไม้ การใช้วัสดุเช่นไม้และกระจกเป็นไปตามแนวคิดของการผสมผสานพื้นที่ชีวิตเข้ากับสภาพแวดล้อม แม้จะนอนอยู่ในห้องก็เหมือนกับใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก นอกจากนี้ห้องพักแต่ละห้องยังมีระเบียงที่ยื่นออกไปเป็นอิสระขนาด 16.4 ตารางเมตร ให้แต่ละคนดื่มด่ำกับการชมทัศนียภาพอย่างเป็นส่วนตัว เท่านั้นยังไม่พอขอเสริมด้วยระเบียงขนาด 62.47 ตารางเมตร ที่ปูด้วยหญ้าเทียมดูเขียวขจีให้สมาชิกในครอบครัวมารวมตัวทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ชื่นชอบด้วยกัน