บ้านกล่องกระจก

ว่ากันว่าความต้องการของเจ้าของบ้านกับสถาปนิกบางครั้งก็ไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด เพราะลูกค้าแต่ละคนก็มีความต้องการเฉพาะเจาะลงที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งความชอบบนั้นอาจจะทำไม่ได้ในแง่ของงานสถาปัตยกรรม หรืออาจจัดกับหลักการที่สถาปนิกได้ร่ำเรียนมา ไม่เฉพาะสถาปนิกท้องถิ่นเท่านั้นที่ต้องเผชิญกับปัญหานี้ สถาปนิกระดับโลกอย่าง Richard Neutra ก็เคยผ่านช่วงเวลานี้มาแล้วเหมือนกัน แม้ว่าจะรู้สึกขัดใจเล็ก ๆ แต่ก็สร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ตรงใจผู้อยู่อาศัย จนได้โอกาสเปลี่ยนแปลงบ้านใหม่ในยุคหลัง

ออกแบบ : Richard Neutra
ภาพถ่าย : Michael Biondo
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

Glen House เป็นหนึ่งในสามบ้านในคอนเนตทิคัตที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังช่วงกลางศตวรรษ ตั้งอยู่ในสแตมฟอร์ด ห่างจากสถานี Grand Central Station เพียง 50 นาที เป็นบ้านที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1959 เจ้าของได้ระบุข้อกำหนดเป็นความต้องการเฉพาะสำหรับครอบครัว ซึ่งบางจุดก็ขัดกับรูปแบบสถาปัตยกรรมของ Neutra สถาปนิกที่รับงานออกแบบบ้านนี้ อย่างเช่น การขอแบ่งพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนตัว การทำครัวปิดสำหรับแม่บ้านของครอบครัว ความต้องการแบบนี้ขัดแย้งกับความตั้งใจที่จะดีไซน์พื้นที่เปิดโล่งแบบ open plan ของ Neutra ต่อมาในยุคหลังบ้านนี้ได้รับการแก้ไขและขยายโดย Rolfs Elert Office ให้มีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Neutra ที่ต้องการความโปร่งโล่งและรวมบ้านเข้ากับภูมิทัศน์โดยรอบได้มากขึ้น

บ้านชั้นเดียวทอดยาวไปตามเนิน ที่ผ่านการการปรับปรุงการบูรณะอย่างรอบคอบ เพื่อให้มีรายละเอียดตามแนวคิดของของ Neutra ที่หลงเหลือไว้ระหว่างการสร้างเดิม ขณะเดียวกันก็เพิ่มการอัพเกรดปรับแปลนและฟังก์ชันใหม่ให้เข้ากับการใช้ชีวิตสมัยใหม่

เค้าโครงแปลนใหม่เป็นแผนผังเปิด (Open Plan) รื้อผนังที่เคยปิดบางจุดออกเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ใช้สอยที่อยู่ตรงกลาง อย่าง ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องทานข้าวให้เป็นไปอย่างอิสระ ห้องพักยังได้รับการจัดเรียงใหม่เพื่อใช้งานได้ง่ายขึ้น และสร้างการเชื่อมต่อที่ดียิ่งขึ้นระหว่างภายในและภายนอก นำแสงสว่างมาสู่พื้นที่ส่วนกลางของบ้านผ่านหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานและสกายไลท์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบดั้งเดิมของ Neutra ที่ทำให้บ้านดูโปร่งเบาราวกับไร้ผนัง ส่วนเพดานกรุไม้แบบลิ้นและร่องที่สวยงามดูอบอุ่น เข้ากันได้ดีกับผนังอิฐโชว์แนวทาสีขาวโฮมมี่ตรงเตาผิง

การจัดวางบ้านคำนึงถึงการได้รับแสงแดดที่พอเพียง ไม่เพียงเท่านั้นยังรวมถึงการดึงภูมิทัศน์ที่รายล้อม ต้นไม้ ดิน ท้องฟ้า ไปจนถึงดวงจันทร์ในยามค่ำมาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเด้วย โจบ มัวร์กล่าว เขาได้ออกแบบผนังกระจกที่รายล้อมรอบด้าน แต่ก็มีชายคาบ้านยื่นยาวออกไป ทำให้ภายในไม่ได้รับผลกระทบจากความร้อนมากเท่าที่คิด ในบ้านยังมีสกายไลท์ที่นำทั้งแสงแดดเข้าสู่ตัวบ้านจากมุมบนในตอนกลางวันและแสงจันทร์ในตอนกลางคืนให้แสงสว่างแก่พื้นที่อย่างเป็นธรรมชาติ ในขณะที่สกายไลท์ดั้งเดิมบางดวงก็เล็กเกินกว่าจะได้ผลอย่างที่ต้องการ มัวร์จึงขยายสกายไลท์เหล่านี้ให้เป็นช่องไฟขนาดใหญ่ อาทิ เหนือไอสแลนด์ห้องครัว เป็นต้น

เดิมบ้านถูกสร้างขึ้นด้วยห้องครัวแบบปิด อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงใหม่ของ Joeb Moore แทนที่ด้วยห้องครัวแบบเปิดโล่งที่ทันสมัยซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น มีห้องรับประทานอาหารแบบเปิดอยู่ตรงข้ามกับห้องครัว ไอส์แลนด์ในห้องครัวที่ทำด้วยโลหะทำให้พื้นที่ครัวมีกลิ่นอายแบบอุตสาหกรรม สะท้อนยุคสมัย Mid Century ที่เป็นช่วงปฏิวัติงานอุตสาหกรรมได้ดี

ห้องนอนใหญ่เพิ่มขนาดให้กว้างขึ้นและใส่ผนังกระจกเต็มบริเวณที่ติดสวนป่า เพื่อใช้ประโยชน์จากแสงตะวันตกและรวมพื้นที่เข้ากับภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงาม ทำให้ขอบเขตระหว่างภายนอกภายในหายไป เหมือนได้พักผ่อนอยู่ใจกลางธรรมชาติ ทำให้ทุก ๆ วันเป็นวันสบายได้ชาร์ทแบตใหม่พร้อมเริ่มต้นรับพลังงานดี ๆ ตั้งแต่ตอนเช้าไปจนถึงก่อนเข้านอน