ต้นไม้รอดง่าย ตายยาก สำหรับมือใหม่หัดปลูก
ปลูกต้นไม้ให้งาม เป็นความฝันดูเรียบง่าย สำหรับบางคนเพียงขุดหลุมง่ายๆ ใส่เมล็ดลงไป รอสักพักต้นก็ออกพรึ่บ หรือแค่ทานผักแล้วเหลือเมล็ดเทสาด ๆ ลงไปกับดิน เผลอแป๊บเดียวก็เตรียมเด็ดผลทานได้ ในขณะที่มีใครอีกหลายคน (รวมผู้เขียนเองด้วย) แม้จะอยากปลูกต้นไม้ช่วยโลกอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือปลูกผักทานเองสายออร์แกนิคส์ แต่ไม่ว่าจะพยายามลงมือทำตามตำราไหนๆ แถมใส่ใจดูแลอย่างดี ก็ได้กินแห้วตลอดทำให้รู้สึกเหนื่อยและท้อไปเอง จนบางครั้งก็เกิดคำถามในใจว่า “เอ๊ะ หรือเราเป็นคนมือร้อน อย่างที่โบราณว่าคนมือเย็นปลูกเป็น คนมือร้อนปลูกอะไรก็ตาย” เนื้อหานี้บ้านไอเดียจะชวนมาสู้ไปด้วยกัน ทลายอาถรรพ์นั้นด้วยการปลูกต้นไม้ที่ได้รับการการันตีว่าโตง่ายตายยาก ไม่ว่ามือจะเย็นเป็นน้ำแข็งหรือร้อนเป็นไฟก็ต้องรอดครับ
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
จริง ๆ แล้วเรื่องมือเย็นอาจจะไม่มีอยู่จริง ๆ แต่น่าจะเป็นการ “รู้จัก” และ “เข้าใจ” ธรรมชาติของชนิดพันธุ์พืชที่ปลูกมากกว่าว่า ชอบวัสดุปลูกแบบไหน ต้องการแดดหรือร่ม น้ำน้อยน้ำมาก ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะมีเวลาในการศึกษาและสังเกต เพราะฉะนั้น ถ้าอยากเสริมกำลังใจในขั้นเริ่มต้น ควรมองหาพืชที่ปลูกง่าย อดทนในทุกสภาวะแวดล้อมมาปลูกกันก่อน ณ จุดนี้ไม่ต้องเสียเวลาสืบค้นข้อมูล เพราะเราลิสต์มาให้แล้วกับ 7 รายชื่อต้นไม้พันธุ์แกร่งทนทรหดที่ปลูกง่ายมากๆ
ภาพประกอบ : nouveauraw.com
1. พลูด่าง (Golden Pothos) หากพูดถึงเทพเจ้าแห่งพืชเลี้ยงง่าย ต้องยกให้พลูด่างคือ Number one เพราะแค่ตัดก้านและใบใส่ภาชนะ จะเป็นแจกัน ขวด หรือแก้วกาแฟก็ได้ มาเทน้ําใส่แล้ววางตั้งทิ้งเอาไว้ รากต้นไม้ก็จะค่อย ๆ งอก ใบจะผลิเพิ่มเรื่อยๆ แบบไม่ต้องพยายามใด ๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย เพราะรากอยู่ในน้ำก็อยู่ยาว ๆ ไปตลอดปี สามารถหยิบไปวางตกแต่งไว้ในที่ร่มอย่างห้องน้ำ หรือบริเวณแดดรำไรอย่างหน้าต่างก็ได้เช่นกัน
ภาพประกอบ : ruralsprout.com
2. ก้ามปูหลุด (Silver Inch Plant) ไม้เลื้อยคลุมดิน สูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร ลำต้นจะทอดเลื้อยตามผิวดิน แต่ปรับประยุกต์มาปลูกในกระถางหรือแช่ในน้ำเหมือนพลูด่างก็ได้ ถึงคุณจะเป็นคนที่ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น แต่ถ้าลองมาปลูกต้นไม้ชนิดนี้จะต้องหันมามองตัวเองใหม่ เพราะก้ามปูหลุดปลูกยิ่งกว่าง่าย แค่เด็ดก้านแล้วปักจิ้มลงไปที่ดิน รดน้ำทิ้งไว้รอสัก 1-2 สัปดาห์จะเริ่มเห็นการเจริญเติบโตได้ แถมยังขยายตัวคลุมหน้าดินค่อนข้างไว หากปลูกในพื้นที่แคบๆ อย่างกระถางเล็ก ๆ แล้วไม่ค่อยได้แวะมาดูก็อาจจะขยายมากจนอัดกันแน่นเกินไป จนต้องหักทิ้งบ่อยๆ
ภาพประกอบ : nouveauraw.com
3. เฟิร์นข้าหลวง (Bird’s nest Fern) ชื่อเหมือนต้องมีพิธีรีตองในการดูแล แต่บอกเลยว่าตรงกันข้าม เพราะน้องดูแลง่ายมาก เพียงปลูกในกระถางที่มีดินดำผสมทรายหยาบ 1:1 หรือดินที่ผสมใยมะพร้าวก็ได้ วางไว้ในที่ที่มีแสงรำไร แล้วใช้กระบอกพ่นรดน้ำให้ชุ่มชื้น (แค่ชื้นๆ ไม่ชุ่มโชก) อย่างสม่ำเสมอ หมั่นดึงใบเหลืองทิ้งบ้าง ใส่ปุ๋ยบ้างเดือนละครั้ง เผลอแป๊บเดียวรากเต็มภาชนะปลูก ยิ่งเปลี่ยนภาชนะใหญ่ขึ้นใบก็ยิ่งโตขึ้นเรื่อย ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งขวัญและกำลังใจให้กับนักปลูกมือใหม่ได้เป็นอย่างดี สำหรับคนที่มองหาต้นไม้สีเขียวทรงใบสวย ดูแลไม่ยาก เหมาะสำหรับตกแต่งมุมห้อง สวนสไตล์ทรอปิคอล ต้องยกทั้งใจให้ต้นไม้ชนิดนี้
ภาพประกอบ : urbanplants.co.in
4. กวักมรกต (Zamioculcas-Zamiifolia) หนึ่งใน list รายชื่อต้นไม้โตง่ายตายยากต้องมีนี้ติดโผมาด้วยทุกครั้ง กวักมรกตมีใบสีเขียวมันเงา เป็นต้นไม้ประดับเหมาะปลูกในที่ร่ม นิยมปลูกในกระถางวางตั้งตามจุดต่างๆ ของบ้าน น้องไม่ค่อยต้องการแสงแดดโดยตรงจัดๆ ขอแอบมีแสงสว่างรำไร ๆ ก็อยู่ได้ และยังไม่ชอบดื่มน้ำ จึงไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย แค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็พอ และถ้าต้องการเพิ่มสารอาหารก็ใส่ปุ๋ยละลายน้ำรดเพียงเดือนละครั้ง น้องก็พร้อมจะผลิใบใหม่ออกมาเรื่อยๆ แล้ว
ภาพประกอบ : nouveauraw.com
5. ฟิโลเดนดรอน (Philodendron) หนึ่งชนิดไม้ใบเขียวสด ใบหนาผิวเกลี้ยงเป็นมัน ลักษณะใบมีหลายรูปแบบทั้งคล้ายรูปหัวใจและเหมือนใบมะละกอ แล้วแต่สายพันธุ์ย่อย ฟิโลเดนดรอนปลูกนอกบ้านก็ได้หรือตัวอาคารก็ดี ถ้าปลูกลงดินจะเห็นการเติบโตของก้านใบที่เติบโตสวยมาก หรือจะปลูกใส่กระถางโรยกรวดสีขาวให้สีตัดกันก็ทำให้ใจละลายได้เหมือนกัน พันธุ์ที่น่าปลูกขอเชียร์ ฟิโลเดนดรอน ซานาดู (Philodendron Xanadu) ที่ปลูกได้ในดินร่วนผสมวัสดุปลูกโปร่งๆ ไม่อมน้ำมาก เช่น กาบมะพร้าว ฟิโลเดนดรอน ซานาดูชอบน้ำปานกลางและแสงแดดรำไร ไม่ต้องรดน้ำบ่อย ให้รดน้ำเมื่อจับดูรู้สึกว่าหน้าดินเริ่มแห้งก็พอ
ภาพประกอบ : plantgab.com
6. สาริกาลิ้นใบด่าง, ไทรด่างรูปหัวใจ (Mistletoe Rubber Plant) ไม้ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับ รูปไข่กลับหรือรูปช้อน มีรอยด่างสีขาวที่ปลายใบทำให้ดูเหมือนหัวใจน่ารัก นอกจากรูปทรงใบที่ชวนให้ซื้อมาปลูกใส่กระถางไว้ดูเล่นแล้ว ยังปลูกง่ายโตได้ในดินทุกประเภท ดูแลไม่ยาก แข็งแรง ทนทาน วางที่แสงแดดได้เต็มวัน หรือจะยกไปวางที่แดดรำไรก็ได้ แถมยังบริโภคน้ำไม่มาก อาทิตย์หนึ่งให้น้ำครั้งก็ยังได้ เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราที่ร้อนจัด เพียงแค่มีต้นนี้ในบ้านก็รู้สึกว่าเราเป็นคนมือเย็นขึ้นมาทันที
ภาพประกอบ : crocus.co.uk
7. ต้นวาสนา (Cape of Good Hope, Dracaena) ต้นวาสนาเป็นไม้พุ่มขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบแหลม ขอบใบเรียบ การดูแลง่ายมากสามารถปลูกในกระถางหรือจะปลูกลงดินก็ได้ วาสนาชอบแดดอ่อนๆ ตอนเช้า ถ้าแดดจัดใบอาจจะไหม้ได้ จึงนิยมปลูกในจุดที่มีร่มรำไรให้เขาสักเล็กน้อย ไม่ให้โดดแดดตรงๆ เป็นเวลานาน ส่วนการรดน้ำปานกลาง เนื่องจากเป็นไม้อดทนต่อการถูกทอดทิ้ง จึงไม่ต้องรดน้ำบ่อยแค่วันละครั้ง สองวันครั้ง หรือถ้าไม่ว่างไปธุระต่างจังหวัด 3-4 วัน ไม่ได้รดน้ำกลับมาต้นไม้ก็ยังไม่ตาย ระดับแสงน้อยก็รอด ต้นวาสนามีหลากหลายพันธุ์ อาทิ วาสนามังกรหยก วาสนาอธิษฐาน วาสนาราชินี หรือจะเป็นวาสนาแคระก็น่าสนใจ
ต้นไม้ที่รวบรวมทั้ง 7 ชนิดนี้ ล้วนแล้วแต่มีขายในท้องตลาดหาซื้อตามไม่ยาก ราคาไม่แรง ซึ่งจะถูกอนุบาลให้มีชีวิตรอดมาแล้วในระดับหนึ่ง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการปลูกต้นไม้ไม่ขึ้นหรือตายจากไปก่อนเวลาอันควร ทั้งหมด หากซื้อหามาดูแลต่อก็อาจจะเปลี่ยนภาชนะ เครื่องปลูก หรือสถานที่วางตามความเหมาะสม สำหรับใครที่อยากปลูกพืชผักสวนครัว แล้วซื้อพันธุ์ผักแบบซองมาปลูกไม่ได้ผล อาจจะเป็นเมล็ดที่มีอัตรการงอกต่ำ แนะนำว่าลองปลูกจากผักสดที่ทานประจำวัน เช่น ต้นหอม ตะไคร้ ที่แค่ปักชำลงในดิน หรือผักมีเมล็ด อาทิ มะเขือเทศ พริกขี้หนู โปรยๆ ลงพื้นดินแล้วรดน้ำเช้า-เย็น ให้พอดินเปียก แล้วดูผล แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ลองซื้อหาต้นผักตามร้านที่ขายต้นกล้าอย่างมะเขือยาว พริก กระเพรา สะระแหน่ มาปลูกต่อในถุงดำก็ยังพอไหวครับ หวังว่าเนื้อหานี้จะพอสร้างกำลังใจให้คนที่อยากลองสู้กับต้นไม้อีกสักครั้งนะครับ