บ้านโมเดิร์นทรอปิคอล

ในท่ามกลางเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างมากมาย ความแข็งกระด้างและขาดพื้นที่สีเขียว ก็ทำให้ผู้คนไม่น้อยที่ตั้งใจว่าหากมีบ้านจะพยายามคืนธรรมชาติให้ได้มากที่สุด เหมือนโครงการ TB House ที่เจ้าของบ้านต้องการมอบบ้านหลังนี้ให้ลูกๆ เป็นของขวัญ โดยมีโจทย์ว่าต้องการให้เด็กๆ เติบโตในบ้านที่มีแสงธรรมชาติและพืชพันธุ์มากมาย ในขณะที่ที่ดินพื้นที่ 100 ตร.วา มีลักษณะที่ลาดเอียงเล็กน้อยเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูไม่สมดุล ซึ่งมุมที่แหลมที่สุดของที่ดินอยู่ทางหลังบ้านติดกับซอยเล็ก ๆ ทำให้การออกแบบบ้านค่อนข้างมีข้อจำกัด และเป็นหน้าที่ของสถาปนิกที่จะแก้โจทย์เหล่านี้ออกมาให้ดีที่สุดได้อย่างไร

ออกแบบ : HA&A Design
ภาพถ่าย : Triệu Chiến
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านหลังนี้สร้างขึ้นในจังหวัด Vinh Phuc ประเทศเวียดนาม โดยปกติเมื่อเจ้าของบ้านต้องการพื้นที่ที่ใช้งานได้ดี ในขณะเดียวกันก็ต้องมีที่ว่างให้ต้นไม้และแสงเยอะๆ เป็นโจทย์ยากของสถาปนิกอยู่แล้ว สำหรับไซต์นี้นอกจากรูปทรงที่มีด้านไม่เท่าก็ยากเข้าไปอีก จากการเข้าดูที่ตั้งเบื้องต้นพบว่าด้านหน้าบ้านและหลังบ้านเป็นทิศรับแสงแดดโดยตรง ด้านเปิด 3 ด้านวิ่งจากหน้าไปหลังเป็นทิศรับลมหลักและทิศทางที่รู้สึกถึงวงโคจรของดวงอาทิตย์ นี่เป็นข้อมูลแรกสำหรับกลุ่มสถาปนิก HA&A Design เพื่อใช้ประโยชน์จากการออกแบบ

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

หลังจากศึกษารูปทรงโดยรวมของบ้านบวกความต้องการของเจ้าของบ้านแล้ว สถาปนิกจึงแก้ปัญหาด้วยการบวกหรือลบปริมาตร เราจะเห็นว่าบางส่วนของอาคารหดลึกเข้าไป บางส่วนก็ยื่นออกมา เกิดเป็นรูปทรงสูง-กว้างในตัวบ้าน ด้านหลังและด้านล่างด้านหน้า เพื่อให้เกิดช่องว่างที่ไม่ทำให้รู้สึกว่าบ้านสร้างอัดเต็มพื้นที่เกินไป ส่วนหน้าของบ้านทำระเบียงที่ชั้นบนและกระถางยื่นออกมาปลูกต้นไม้ ชั้นล่างสุดก็มีต้นไม้ตามแนวกำแพงบ้านทำให้อาคารคอนกรีตดูสดชื่นรอบด้านอย่างที่อยากให้เป็น

ภาพจำลองการออกแบบอาคาร

ส่วนหน้าของบ้านและด้านข้างบนชั้นสองที่ไม่ได้ทำระเบียงปลูกต้นไม้ จะหุ้มโดยรอบด้วยฟาซาดไม้ระแนงสีน้ำตาล ในการควบคุมแสงสำหรับชั้นบนของ TB House ซึ่งสามารถเปิดออกทำหน้าที่เป็นหน้าต่างรับลมได้เต็มที่ทั้งสองด้าน เมื่อรู้สึกว่าแสงเริ่มแรงก็ปิดเอาไว้ให้ช่วยกั้นกรองแสง แต่ยังคงรับอากาศภายนอกผ่านเข้าไปทางช่องว่างระหว่างซี่ระแนงได้

เมื่อเข้ามาสู่ตัวบ้านจะได้รับการต้อนรับอย่างสดชื่นจากร่มเงาของต้นไม้ที่รายล้อม มีสะพานที่ทำจากหินเชื่อมระหว่างห้องโถงใหญ่กับภายในบ้าน และบ่อปลาบ่อปลาคาร์ฟตอบสนองความต้องการของเจ้าของและนำไอเย็นเข้าสู่ตัวบ้าน ด้วยลักษณะสีเทาของวัสดุหินผสมผสานกับสีเขียวเป็นหย่อม ๆ พื้นน้ำถูกจัดวางอย่างกลมกลืน เพดาน และทางเดินใช้วัสดุไม้ ทำให้ตัวบ้านดูกลมกลืนและสวยงามใกล้ชิดธรรมชาติในภาพรวม

พื้นที่ห้องนั่งเล่นหันหน้าตรงไปยังบ่อปลา สถาปนิกเปลี่ยนผนังคอนกรีตเป็นผนังกระจกบานเลื่อนที่ยืดหยุ่นเปิดปิดได้ เพื่อให้คนในบ้านสามารถเพลิดเพลินกับปลาที่แหวกว่ายและรับไอเย็นจากน้ำได้ง่ายๆ

บ้านหลังนี้พยายามถ่ายทอดลมหายใจของสถาปัตยกรรมเขตร้อน ที่กลมกลืนระหว่างการตกแต่งภายในและภายนอก ในขณะที่พยายามใส่สะพานเชื่อมระหว่างชีวิตสมัยใหม่กับความใกล้ชิดกับท้องถิ่น โดยเลือกใช้ไม้และศิลาแลงสีเทาขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นวัสดุที่คุ้นเคยในท้องถิ่นมาทำกำแพงหลัก ทำหน้าที่เป็นฉากกั้นระหว่างบ้านและอาคารที่อยู่ติดกัน และเชื่อมต่อเข้ามาถึงภายในห้องนั่งเล่นสูงสองชั้น ทำให้ผนังนี้กลายเป็นหนึ่งจุดไฮไลท์ในบ้าน

ในบ้านเจาะโถงสูงเหนือมุมนั่งเล่น ทำให้รู้สึกได้ถึงความโอ่โถง และยังเอื้อให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงได้ดี การตกแต่งเน้นความเรียบง่ายด้วยชุดสีโทนสีเทา น้ำตาล ขาว ให้เข้ากันได้กับวัสดุธรรมชาติของบ้านอย่างไม้ หินอ่อน และศิลาแลง ส่วนของผนังบ้านอีกด้านหนึ่งเป็นกระจกสูงสองชั้น เปิดมุมมองของอาคารให้รับแสงและวิวสูงขึ้นไปอีก ในส่วนนี้จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากแสง จึงติดกระจกในริเวณกว้างได้

สวน เป็นองค์ประกอบของบ้านที่พบได้แทบทุกจุด ไม่ว่าจะหน้าบ้าน ข้างบ้าน ในห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ในพื้นที่ทำงาน ก็สร้างสวนเล็ก ๆ ตรงระเบียงเพิ่มความสบายตาสบายใจ เมื่อรู้สึกเหนื่อย สายตาล้า ก็แวะมาเปิดประตูบานเลื่อน มองต้นไม้เขียวๆ ปลดปล่อยสายตาออกไปข้างนอกสักพัก พอให้คลายเหนื่อยก็พร้อมที่จะนำพลังงานที่ได้รับจากธรรมชาติใกล้ตัวไปขับเคลื่อนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีคุณภาพต่อไป