ธารีตารีสอร์ท
ที่พักอัมพวา วันธรรมดาที่สุดแสนพิเศษ
อัมพวา ดินแดนแห่งวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่เรียบง่าย ความเป็นอยู่สบายๆ แบบพอเพียง สำหรับรีวิวที่พักอัมพวา หากท่านใดติดตามชมรีวิวทุกๆ ตอน ก็จะทราบกันดีว่า ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้รีวิวรีสอร์ทอัมพวา จากครั้งก่อน พาไปนอน เหย้าอินจัน รอบนี้ขอจัดให้ชมในรูปแบบที่สื่อให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของคนอัมพวา รีสอร์ทแห่งนี้ ชื่อว่า ธารีตา เป็นหนึ่งในสมาชิกแฟนเพจ บ้านไอเดีย รวมทั้งสมาชิกในกลุ่มอีกด้วย แน่นอนว่ารอบนี้ต้องได้ชมไอเดียเก๋ๆ แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร รีสอร์ทแห่งนี้ เป็นรีสอร์ทขนาดเล็กริมแม่น้ำ เดิมทีมีเพียงไม่กี่หลัง แต่เนื่องจากความต้องการของผู้เข้าพัก และความรักสนุกในการออกแบบและต่อเติม ปัจจุบันจึงได้เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ละหลังดีไซน์แตกต่างกัน ดูแลกันเองในแบบครอบครัว จึงสามารถไว้วางใจได้ในเรื่องบริการ
ติดต่อ : 034-765-660, 081-329-0580
fanpage : facebook.com/thareeta
พิกัด GPS : 13.393661, 99.946264
ปกติแล้วนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มาเยือนอัมพวากันในวันหยุด ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ อาจเนื่องจากจุดเด่นของที่นี่ คือตลาดน้ำอัมพวา ซึ่งไม่ได้เปิดให้บริการทุกวัน เมื่อถึงวันหยุดแน่นอนว่า คนส่วนใหญ่ก็ได้หยุดพร้อมๆ กัน การท่องเที่ยวก็เป็นไปในรูปแบบแออัด เดินดูของก็ไม่สนุก แน่นไปด้วยฝูงชน หากท่านใดมีโอกาสได้หยุดพักผ่อนวันธรรมดา หรืออย่างน้อยๆ ติดคืนวันอาทิตย์ไปถึงเช้าวันจันทร์ เป็นช่วงที่แนะนำอยากให้ลองมาสัมผัสกัน ธารีตารีสอร์ท แอดมินได้มาพักในคืนวันจันทร์ บรรยากาศที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ความเงียบสงบ มาพร้อมกับไออุ่นของความเป็นชนบท เพียงแค่ได้ขับรถเล่นเวียนรอบเมือง ก็ทำให้เห็นถึงความแตกต่างในวิถีความเป็นอยู่ แม้จะไม่มีตลาดน้ำอัมพวา แต่ก็ยังมีตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดร่มหุบ วัดวาอาราม หรือจะไปทานหอยหลอด ชมวิวทะเล ป่าชายเลน เรียกได้ว่า เที่ยววันเดียวก็ยังไม่หมด
สำหรับธารีตารีสอร์ท ปัจจุบันมีห้องพักให้เลือก 3 สไตล์ด้วยกัน โซนดั้งเดิมจะอยู่ติดคลอง แต่ห้องพักที่จะพาไปชมในวันนี้ไม่ได้ติดคลอง อยู่ด้านในของรีสอร์ท ทั้งนี้การออกแบบ ยังให้ความรู้สึกเหมือนติดคลอง เนื่องจากทางรีสอร์ทได้ขุดคลอง เป็นแอ่งน้ำเล็กๆ สร้างไว้ 2 หลังตรงข้ามกัน ดุจเสมือนเพื่อนบ้าน ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามคลอง การออกแบบรีสอร์ทหลังนี้ ทำเอาแอดมินเอง อึ้งกันไปเล็กน้อย ภายนอกดู เท่ห์ ให้ความรู้สึก Loft Style ปูนขัดมันระเบียงพื้นไม้ จัดวางเก้าอี้สำหรับนั่งชิลๆ ริมน้ำ จุดเด่นของที่นี่ คือสีสันในการตกแต่ง ด้วยความมืดของปูนขัดมัน เมื่อเจอกับประตูสีสดๆ ยิ่งทำให้เกิดความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น หลังด้านขวา สีแดง ด้านซ้ายมือ สีเหลือง แอดมินเลือกสีแดง ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า ไม่ได้เกี่ยวกับนัยะทางการเมืองแต่อย่างใด ที่เลือกสีดังกล่าว เพราะคิดว่า น่าจะเหมาะกับการถ่ายภาพมากกว่ากันครับ
และความอึ้งที่ได้เกริ่นไว้ช่วงแรก นั่นคือจากจินตนาการที่วาดฝันไว้ก่อนเข้าห้อง คิดไว้ว่า ภายในต้องเป็นห้องผนังขัดมัน ที่เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงเป็นหลัก แต่ก็ต้องผิดคาด เพราะสิ่งที่คิดไว้กลับตรงกันข้ามกันหมด คุณผู้ชมเห็นภาพห้องนอนแล้ว ก็คงจะได้คำตอบเช่นเดียวกัน ผนังสีขาว ลักษณะผิวปูนที่ไม่สม่ำเสมอ เป็นความตั้งใจให้ก่อเกิดลวดลาย ลักษณะคล้ายๆ กับรีสอร์ทในย่านสวนผึ้ง เรียกได้ว่าเป็นสถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน ประยุกต์ให้เกิดความแปลกใหม่เหนือจินตนาการ ตกแต่งด้วยหลอดไฟในช่องผนังกลม ซึ่งทาสีแดงสด สีเดียวกับประตู
เฟอร์นิเจอร์เป็นบิลท์อินปูนทั้งชุด ทั้งเตียงนอนขัดมัน โต๊ะหัวเตียง โซฟา โต๊ะวางของ และชั้นวางทีวี ปูเตียงด้วยชุดเครื่องนอนสีขาวที่ดูเรียบง่าย กระจกของหน้าต่างที่มีสีสัน สะท้อนแสงจากภายนอก ทำให้บรรยากาศของห้อง กลมกลืนผสมผสานไปกับความคลาสสิคสมัยก่อน กับดีไซน์สมัยใหม่ พร้อมด้วยความสดใสที่เหมาะกับการพักผ่อน
อีกมุมที่น่าสนใจ นั่นคือส่วนของห้องน้ำ ปกปิดไอเดียไว้อย่างมิดชิด โดยการใช้หน้าต่างบานเล็กมาประดับเป็นฝาปิดกระจกแต่งหน้า หากดูผ่านๆ อาจจะคิดว่าเป็นตู้ไม้สำหรับเก็บยา หรือตู้เก็บของทั่วไป ทาสีสันสลับ แดง เหลือง โซนอาบน้ำเน้นความสูงโปร่ง รับแสงสว่างจากภายนอกได้ดี ทาสีแดงสด เจ้าของรีสอร์ทยังบอกไว้ว่า ช่วงทำเสร็จใหม่ๆ สีสดมากกว่านี้เยอะ ตอนนี้ซีดจางลงไปบ้างแล้ว
หากเปิดประตูห้องออกมานอกชานระเบียง ก็จะเห็นห้องตรงข้าม ใช้ประตูสีเหลืองโดดเด่น ไม่แพ้กัน กั้นกลางไว้ด้วยคลองเล็กๆ สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ แอดมินถ่ายภาพมา ภาพอาจดูรกๆ เนื่องจากมีกิ่งทางมะพร้าวบดบังรีสอร์ท แต่ข้อดีคือให้ร่มเงาที่สบายตา ต้องมาสัมผัสจริงถึงจะรู้ว่า บรรยากาศแบบนี้ น่าพักผ่อนเป็นอย่างมาก
มาถึงอัมพวา เมนูที่พลาดไม่ได้ คือการได้ทานปลาทูสักมื้อ ของขึ้นชื่อ ของดีของที่นี่ มื้อค่ำของคืนนี้ เป็นมื้อธรรมดา ที่สุดแสนจะพิเศษ ต้องขอชื่นชมรีสอร์ทตรงจุดนี้อย่างมาก ที่ได้หยิบยกวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ให้ได้สัมผัสกัน ในบางครั้ง การท่องเที่ยว เราอาจไม่ได้ต้องการความหรูหรา ไม่ได้ต้องการความสะดวกสบาย แต่ต้องการที่จะสัมผัสบรรยากาศ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ในสังคมดังกล่าว ที่นี่ จึงตอบโจทย์รสชาติของอัมพวาได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของชาวอัมพวา เมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว แอดมินก็ขออนุญาตเจ้าของรีสอร์ท เดินชมห้องอื่นๆ ซึ่งมีดีไซน์ที่แตกต่างกัน ชอบห้องนี้มากครับ นอนพื้นริมคลอง ได้บรรยากาศดีจัง ^^
ตื่นเช้ามา ด้วยความเป็นชนบท รถสัญจรไม่เยอะ อากาศที่นี่จึงสดชื่นมาก ความเงียบสงบ เหมาะอย่างยิ่งกับการทำสมาธิเบาๆ นั่งดูวิถีชีวิตเก่าๆ ที่อาจหาชมได้ยากยิ่งขึ้นในอนาคต คุณแม่เจ้าของรีสอร์ท ได้เตรียมอาหารไว้สำหรับทำบุญตักบาตรช่วงเช้า แอดมินทราบว่าจะได้ทำบุญด้วย เลยรีบไปหยิบขนมในรถ ที่ซื้อเก็บไว้เป็นของฝากคนที่บ้าน มาร่วมทำบุญ และก็ได้ตักบาตรริมคลอง ซึ่งปกติก็ได้เพียงแต่ตักบาตรริมถนน ความรู้สึกมันแตกต่างกันอย่างมาก สร้างความสุขสงบ อิ่มเอิบใจอย่างอธิบายไม่ถูก เช้านี้จึงใช้เวลาอยู่กับความเงียบสงบได้นานแสนนาน
นั่งเล่นไปชิลๆ ถึงเวลาทานอาหารเช้า โจ๊กหมู สูตรอะไรก็ไม่รู้ แต่รู้ว่าอร่อยดี อาหารที่นี่ เจ้าของรีสอร์ททำเองทั้งหมดนะครับ ผู้ชายคนนี้ เก่งจริงๆ ทั้งออกแบบรีสอร์ท ควบคุมงานก่อสร้างเอง ดูแลกิจการเอง ไหนจะต้องมาทำอาหารให้แอดมินทานอีก หน้าตาก็ดีไม่ใช่เล่น แอบกระซิบนินทาเบาๆ ว่ามองบางมุมแล้วหน้าคล้ายๆ คุณแบงค์ หนุ่มหล่อผู้เป็นที่รักของคุณนิหน่า ท่านใดได้มาพักแล้ว กลับมาคอมเม้นบอกกันสักนิดนะครับ ว่าหน้าคล้ายจริงรึเปล่า มาที่นี่แล้ว อย่าลืมฝากลายเซ็นบนผนังไว้ด้วยนะ นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ได้ถ่ายมา ถ่ายเพลินจนลืมเขียนไปซะเลย
อิ่มแล้ว ก็ขอพักต่อริมน้ำอีกสักพัก ก่อนที่จะได้เดินทางกลับ มาพักที่นี่ แม้จะไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหน แต่ก็ทำให้เราท่องเที่ยวไปกับความรู้สึก สัมผัสบรรยากาศวิถีชีวิตที่เรียบง่าย กับสายลม สายน้ำ ทำให้วันธรรมดาของแอดมิน เป็นวันที่สุดแสนพิเศษ เสน่ห์ของอัมพวา มาทุกครั้ง ได้รับความแตกต่างทุกรอบ ที่นี่ ยังคงมีอะไรให้ได้เยี่ยมชมกันอีก และมั่นใจได้ว่า จะได้มีโอกาสกลับมาเยือนอีกครั้ง รีวิวชุดนี้ ขอจบไว้เพียงเท่านี้นะครับ มุมๆ นี้ ขอเว้นที่ว่าง รอให้คุณผู้ชมมาได้ทอดกายเบาๆ สัมผัสกับบรรยากาศริมน้ำ ที่นี่ ธารีตารีสอร์ท @อัมพวา