
บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์น
Boat Shed ในประเทศไทยเราคงไม่ค่อยคุ้น แต่ในแถบชายฝั่งซีกโลกตะวันตกจะรู้จักกันดี เพราะเป็นโรงเก็บเรือนั่นเอง The Boat Shed ที่นำมาให้ชมนี้นอกจากเป็นโรงเก็บเรือแล้ว ยังเป็นสถานที่พักผ่อนที่เงียบสงบถัดจากชายฝั่ง นักออกแบบ Michael Holmes จาก Holmes Architecture ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านการสร้างงานสถาปัตยกรรมที่เน้นการตอบสนองต่อภูมิทัศน์ ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพ พร้อมกับปรับพื้นที่ใช้สอยให้เข้ากับการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย เห็น้านเล็ก ๆ ดูเรียบเฉียบเส้นสายเรียบง่ายแบบนี้ แต่สามารถเอาชนะคู่แข่งจนคว้างรางวัล ADNZ (ADNZ Resene Architectural Design Award) ที่มอบให้บ้านที่มีคุณภาพในระดับภูมิภาคทีเดียวครับ
ออกแบบ : Holmes Architecture
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
Boat Shed เป็นอาคารสไตล์โรงนาโมเดิร์น หลังคาจั่วผนังสูงไม่มีชายคา ตั้งอยู่ร่วมกับอาคาร Herbertville bach บนพื้นที่กว้างใหญ่ โดยไม่ทำการต่อเติมออกมาจากอาคารเก่า เพื่อปกป้องทัศนียภาพแบบพาโนรามาของบ้านดั้งเดิม วิธีนี้ทำให้อาคารทั้งสองสามารถรักษาเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของตนเองได้ ในขั้นต้น เจ้าของคิดเป็นเพียงอยากทำโรงสำหรับเก็บเรือ แต่ขอบเขตของงานกลับพัฒนาขึ้น จนรวมที่พักแบบครบครันเอาไว้ในหลังเดียว
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
ในด้านหน้าอาคารเป็นวัสดุโพลีคาร์บอเนตและกระจกกว้างเต็มพื้นที่ กรอบบ้านและพื้นใช้แผ่นไม้ซีดาร์ ส่วนเลย์เอาต์ภายในก็พยายามใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง โดยมีฟังก์ชันห้องครัว/ห้องน้ำ/ห้องซักรีดขนาดกะทัดรัดแต่ใช้งานได้จริง ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางในแปลนบ้านแบบเปิด ด้วยหลังคาที่เป็นทรงจั่วมีระยะห่างระหว่างพื้นถึงเพดานค่อนข้างมาก ทำให้สามารถแบ่งพื้นที่ทำชั้นลอยได้อีก โดยมีบันไดไม้แบบมีล้อย้ายเลื่อนได้นำขึ้นไปสู่ห้องนอนใต้หลังคา ส่วนพื้นที่ด้านหลังเป็นโรงเก็บเรือ เก็บอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งรถแทรกเตอร์ด้วย
ประตูกระจกบานเฟี้ยมที่พับเก็บเข้าด้านข้างได้ ช่วยเปิดบ้านออกให้กว้างจนเกือบสุดผนัง ทำให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างตัวบ้าน เฉลียง และพื้นที่กลางแจ้ง เหมือนเป็นพื้นที่เดียวกัน บ้านจึงดูเหมือนกว้างขึ้นและมีอิสระไร้ขอบเขต ในยามค่ำที่ปิดประตูแล้วแสงไฟที่ส่องสะท้อนจากวัสดุโปร่งแสงยังทำให้บ้านสว่างไสว เหมือนตะเกียงดวงใหญ่ในใจกลางทุ่งหญ้า
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : การจัดบ้านให้โปร่งโล่งที่สุดแบบ open plan ไม่ต้องมีผนังกั้น เพื่อเชื่อมต่อ Space ในแนวนอนโดยใช้ตัวเฟอร์นิเจอร์เป็นสิ่งบ่งบอกขอบเขต ทำให้บ้านดูโปร่ง โล่ง ต่อเนื่อง และยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับบ้านขนาดเล็กที่ต้องการบริเวณบ้านทำกิจกรรมแบบหลวมๆ หรือหากพื้นที่ดินหน้าแคบแต่ต้องการพื้นที่เพิ่ม ก็อาจเพิ่มระยะห่างจากพื้นถึงหลังคาให้มากขึ้นอีกนิดเป็นเหมือนบ้านชั้นครึ่ง แล้วเจาะเพดานขึ้นไปเป็นโถงสูง Double Space ทำชั้นลอยหรือห้องใต้หลังคา ก็เพิ่มพื้นที่ใช้งานได้โดยไม่ทำให้บ้านเล็กๆ ดูแคบลง |